เปิดตัวคุณชาย

อ่าน: 4132

อย่างที่รู้กันว่าถนนหลวงที่จะเข้ามาสวนป่านั้น ชำรุดเสียหายเป็นระยะทางยาว

ปีนี้ได้งบประมาณมา 6.93 ล้านบาทเพื่อซ่อมหลุมบ่อระยะทาง 1.3 กม. มี สส.มาติดป้ายแสดงความยินดีกับชาวบ้านด้วย แต่มันซ่อมไป 100 เมตรเท่านั้นก็เลิกซ่อมแล้ว (มันไหนก็ไม่รู้ แต่สมควรเรียกว่ามัน) เหลือระยะที่จะต้องซ่อมอีก 1.4 กม. (ไม่ได้คิดเลขผิด ถนนเสีย 1.5 กม.) เมื่อวาน ไปสั่งของในอำเภอมาสร้างบ้าน ผ่านมาเห็นกำลังง่วนกันอยู่เชียว แต่แวะช่วยไม่ได้เพราะมีธุระต้องรีบไปรีบกลับมาดูการล้มไม้ยูคาที่สวนป่า

วันนี้หลังจากเล่นเครื่องตบดินพอได้เหงื่อ จึงบอกครูบาว่าขอไปช่วยเค้าซ่อมถนน มีอะไรฉุกเฉินให้ครูบาโทรไปตาม (ครูบาอยู่คนเดียว แม่หวีไปวัด)

พอไปถึงที่ เค้าซ่อมไปแล้วกิโลหนึ่งเมื่อวาน วันนี้กำลังทำต่อ คิดว่าเย็นนี้จะเสร็จหมด — การซ่อมถนน ทำทีละครึ่งเพื่อจะได้ไม่ต้องปิดการจราจรทั้งสาย — ผมแบกจอบส่วนตัวลงรถเบนซ์ไปช่วย มีชาวบ้านประมาณ 30 คน พระ 3 รูป ไม่ต้องรู้จักใคร แต่ชาวบ้านคงเห็นผมเป็นตัวประหลาดเหมือนกัน ต่างมารุมซักถาม “มาจากไหน อยู่ที่ไหน มาทำอะไร ฯลฯ”

หนีจากความเป็นท่านในกรุงเทพ มาเป็นท่านเอากลางป่า อย่างนี้ก็มีด้วย

ทำไปก็สนุกดีครับ ไม่ต้องมีหัวหน้า ไม่ต้องมีคนสั่งการ ทุกคนรู้หน้าที่ เป็นประโยชน์ร่วมกัน มีคนหนึ่งที่ชาวบ้านเรียก “กำนัน” แรกๆ ก็ยืนดู ยืนชี้ พอผมลงมือทำ ก็ช่วยทำโน่นทำนี่

ระหว่างที่วางจอบไปขนหินขนทราย มีคนขอยืมจอบส่วนตัวไปใช้แล้วชมว่าเหมาะมือดี น้ำหนักกำลังดี

อ่านต่อ »


กำเนิดหมู่บ้านโลก

อ่าน: 3713

ครูบาขอให้ช่วยเขียนเรื่อง “กำเนิดหมู่บ้านโลก” ไปเสริมหนังสือโมเดลบุรีรัมย์ (Buriram Model) แต่เขียนเรื่องลึกลับอย่างนี้ ยากเหมือนกันครับ

หมู่บ้านโลกไม่ได้เกิดจากเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เรื่องเกี่ยวกับชีวิตนั้น ไม่ใช่สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว มีทั้งเรื่องเหตุผล อารมณ์ ความเหมาะสม การเรียนรู้ ประสบการณ์ ประโยชน์ และความเข้ากันได้

จุดใหญ่ใจความคือ ครูบากับแม่หวีทำงานหนักมาสามสิบปี ปลูกป่าจากที่แห้งแล้งไม่มีอะไรเลย จนเป็นป่าที่สมบูรณ์ พืชพรรณหลากหลาย เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ในนาม มหาชีวาลัยอีสาน มาเป็นสิบปีเช่นกัน มีผู้คนผ่านมาเรียนรู้วิถีธรรมชาติปีละหลายพันคน ทำงานตอบแทนคุณแผ่นดินด้านการศึกษา แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างอย่างชัดเจนว่า คนกับธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุขโดยไม่ต้องเบียดเบียนกัน แต่ใช้วิธีพึ่งพาอาศัยกันและกัน

เรียนในห้อง…ได้ความรู้
เรียนนอกห้อง…ได้ความจริง

เอาความรู้บวกกับความจริง
เราได้…ความรู้จริง

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ หนังสือ “คนนอกระบบ”

ทั้งครูบาและแม่หวี ต่างอายุมากขึ้นเรื่อยๆ จะให้ทำงานหนักเหมือนสมัยก่อนคงไม่ได้แล้ว สิ่งที่มีค่ามากในตัวท่าน คือความรู้และประสบการณ์ จึงควรใช้สิ่งนั้นให้คุ้มค่าที่สุด แทนที่จะให้ท่านมาออกแรงทำเองทั้งหมดเหมือนก่อน

การทดแทนคุณแผ่นดินเป็นสำนึกของแต่ละคน ไม่ต้องให้ใครเห็นหรือชื่นชม และไม่มีใครบังคับให้ทำหรอกครับ ทำแล้วมีความสุขเอง ถ้าหากมีความพร้อม ยามแก่เฒ่าคงไม่ลำบาก แต่สำหรับชีวิตเกษตรกรซึ่งไม่มีลูกหลานดูแล แล้วปลูกและรักษาป่ามาทั้งชีวิต ตอนนี้แก่เฒ่า จะทำอย่างไรดี ถ้าตัดไม้ขายคงจะรวยอื้อซ่า แต่ว่าป่าคือชีวิตครับ ทั้งสองท่านทุ่มเทอย่างยากลำบากกว่าจะทำให้สวนป่าเป็นป่าที่สมบูรณ์มาขนาดนี้ ตั้งใจจะทิ้งป่าไว้ในแผ่นดินอีสาน

อ่านต่อ »


หมู่บ้านโลก (5)

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 18 May 2012 เวลา 21:57 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4856

เขียนมายาวยืดหลายตอน แต่ยังไม่ได้บอกเลยว่าหมู่บ้านโลกนี่มันอะไรกัน

หมู่บ้านโลกอาจจะเป็นหลายอย่างสำหรับหลายคน คงจะไม่มีนิยามอันเดียวเท่านั้นที่ถูกต้องและทำให้มุมมองอันอื่นผิดหมด ทั้งนี้เพราะการสร้างสังคมขึ้นมานั้น จะอาศัยความเห็นของคนคนเดียวไม่ได้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว ผมผู้ทำโครงการเห็นว่าหมู่บ้านโลกเป็นแหล่งเรียนรู้เสริมงานของสวนป่า มหาชีวาลัยอีสาน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนป่า มีผู้อยู่อาศัยเป็นผู้ช่วยและผู้ดำเนินกระบวนการกระตุกความคิดและถ่ายทอดแง่คิด หมู่บ้านโลกจึงไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร รีสอร์ต หรือคอนโด พื้นที่ทั้งหมดในโครงการเป็นที่ดินของครูบา จะไปอยู่ก็ต้องเป็นไปโดยความยินยอมของท่าน ซึ่ง(ผมคิดเอาเองว่า)ท่านคงไม่ขายที่ดินด้วยต้องการจะเก็บสภาพของป่าเอาไว้และไม่ต้องการให้ที่ดินแบ่งเป็นหย่อมๆ ที่ไม่เข้ากัน สวนป่ามีพื้นที่ 600 ไร่ มีพื้นที่ที่จะไม่แตะต้องเด็ดขาดประมาณ 500 ไร่

เมื่อประมาณปี 2544 สำนักงานกองทุนเพื่อสังคม ถ่ายทำสารคดีเรื่อง การออกแบบการเรียนรู้…กู้ชีวิตท้องถิ่น เป็นการสัมภาษณ์ครูบา ซึ่งครูบาก็เล่าให้ฟังว่าในตอนนั้นมหาชีวาลัยอีสานทำอะไรบ้าง เวลาผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว รายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่หลักการยังคงเดิมนะครับ

อ่านต่อ »


หมู่บ้านโลก (4)

อ่าน: 4081

ผู้ที่ศึกษาทางพุทธมาบ้าง จะเข้าใจว่าชีวิตเป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่สามารถกำหนด บังคับ ควบคุมได้ หากแต่ชีวิตนั้นมีค่า ไม่ควรปล่อยเวลาและศักยภาพทิ้งให้สูญเปล่า (”เรื่องใหญ่ของมนุษย์ มีอยู่แค่เรื่องเดียว คือเรื่องความไม่รู้ ว่าเรื่องใดน่ารู้” — คิดจากความว่าง โดยดังตฤณ)

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เมื่อนำมาปฏิบัติให้ได้ผลแล้ว ชีวิตจะไม่ตกต่ำลง เนื่องจากปัจจัยสี่มาจากดิน เป็นการเก็บกินไม่ใช่ทำกิน ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้าง ในเมื่อมีชีวิตอยู่ได้ หากสิ่งใดที่ทำแล้วเกิดคุณค่า ต่างเป็นกำไรของชีวิตทั้งนั้น ในเมื่อทุกคนเป็นนายจ้างของตนเอง จะทำกำไรได้มากเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ว่าทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อคนอื่นหรือไม่ และขยันขันแข็งเพียงใด

แต่ว่าร่างกายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา คนจำเป็นต้องหาเครื่องมือผ่อนแรงช่วยให้ เครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งเป็นอีกรูปหนึ่ง มีส่วนต่างที่เกิดเป็น “งาน” ขึ้น ซึ่งงานตรงนี้ เรานำเอามาใช้ผ่อนแรง เช่นแทรกเตอร์ ปั้นจั่น ปั๊มน้ำ ลิฟต์ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ​ เตา ฯลฯ คงจะพูดไม่ได้ว่าอะไรจำเป็นกว่าอะไร เนื่องจากแต่ละคนมีความจำเป็นที่แตกต่างกัน

ที่กลับมาอัพเดตความคืบหน้าของโครงการหมู่บ้านโลกหลังจากไม่ได้เขียนมาปีหนึ่งนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครเสียกำลังใจ ตรงกันข้ามเลยครับ ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มทำโครงการนี้มาอย่างเงียบๆ (ซึ่งเพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นปีที่แล้ว) ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย อยากนำประสบการณ์นี้มาแบ่งปัน เพื่อให้ผู้ที่คิดจะออกจากระบบเมืองแล้วกลับสู่วิถีธรรมชาติ ได้มองเห็นประเด็นและเตรียมตัวต่างๆ ล่วงหน้า ตั้งความคาดหวังให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง เมื่อพาครอบครัวออกไปสู่วิถีนี้แล้ว จะได้ไม่ต้องผิดใจกันว่ามันไม่เป็นอย่างฝันที่โรแมนติค มีอะไรจะต้องทำอีกเยอะเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรก ถ้าคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้า อาจได้เจอดาบเร็วกว่าที่คิดเพราะความไม่รอบคอบครับ

เรื่องความมั่นคงสามแนวทางสำหรับสวนป่าและหมู่บ้านโลกนั้น กล่าวไปแล้วในบันทึกที่แล้วว่าอาหารไม่เป็นห่วงเลย น้ำมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงและปรับปรุงได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องที่ยังไม่ได้พูดนั้นคือเรื่องพลังงาน

อ่านต่อ »


หมู่บ้านโลก (3)

อ่าน: 5529

มีหนึ่งในกลุ่มคนมีการศึกษาที่คิดจะทิ้งเมืองขอให้เล่าความเป็นมา จะขอศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้ ผมก็ถือโอกาสนี้อัพเดตโครงการไปด้วย

แผนงานเรื่องของหมู่บ้านโลกปรับเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง แผนที่ยังไม่ดีก็ปรับเปลี่ยนได้ครับ ถ้าไม่เปลี่ยนเป็นการดันทุรังหรือไม่ยอมรับความจริง

เดิมทีคิดจะสร้างที่พักให้ผู้ที่มาเยือนสวนป่า ตอนนี้ไม่ทำแล้ว อาคารเก่ายังใช้ได้ ทำไมจะต้องสร้างใหม่ ที่พักสำหรับวีไอพี จะลองปรับปรุงเตาเผาถ่านดูก่อน น่าจะเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น หมู่บ้านโลกไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร (ไม่ขายที่ ไม่ขายบ้าน ไม่ให้ตัดต้นไม้ ถ้าอยากสร้างต้องขออนุญาตเจ้าที่แล้วสร้างเอง) ไม่ใช่รีสอร์ต (ไม่ใช่ว่ามีเงินจ่ายก็เข้าอยู่ได้ ถ้าไม่อยากมาเรียนรู้ อยู่บ้านสบายๆ ดีแล้วครับ ไม่มีรูมเซอวิส จะทำอะไรต้องทำเอง) และไม่ใช่โรงทาน (สวนป่ามีค่าใช้จ่าย อย่าแอ๊บลืมนะครับ)

บ้านผม ครูบากรุณาจัดที่เหมาะให้ เนื้อที่สักไร่หนึ่ง ซ่อนตัวอยู่ในชายป่า พายุมาก็พัดข้ามยอดไม้ไปหมด… ขยับมาเป็นครั้งที่สามแล้วครับ ครั้งแรกเป็นที่โล่งซึ่งตอนนี้คิดว่าเอาไปปลูกไร่ทานตะวันน่าจะดี ครูบาบอกว่าคนสันโดษ(และกวนโอ๊ย)อย่างผม อยากให้อยู่สงบๆ ไม่พลุกพล่าน ครั้งที่สองเป็นที่ขนาดสักสี่ห้าไร่คงจะได้ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เช่นกัน แล้วอยู่ห่างจากน้ำบาดาลเกินไปหน่อย ครั้งที่สามนี้เป็นทำเลที่เหมาะมาก ถูกใจทั้งท่านเจ้าของที่และผู้อยู่อาศัยจนกระทั่งครูบาเอากระต๊อบบัญชาการมาตั้งไว้ข้างหน้าที่แปลงนี้ และกินนอนมาเดือนกว่าแล้ว โซนของหมู่บ้านโลก อยู่ทางตะวันตกของบ้านผม ห่างไปสักห้าสิบเมตร

ก่อนจะตัดสินใจบอกครูบาว่าจะขอมาอยู่ด้วยเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมหาที่ที่เหมาะสมอยู่หลายปี หลายจังหวัด หลายภาค แต่หาไม่ได้ครับ ที่ “สวยๆ” มีคนจะขายเยอะ แต่มันไม่เหมาะครับ ผมไม่ได้ซื้อมาทำรีสอร์ต ผมจะซื้อมาทำเกษตร ซึ่งที่ดินที่ทำเกษตรที่บอกขายมา เป็นที่ดินที่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว เกษตรเคมี ต้นไม้เตี้ย แล้วยังต้องใช้ชีวิตแบบซื้อแหลกเหมือนอยู่ในเมือง ถ้าอาการหนักก็จะเป็นบริโภคนิยมแบบรสนิยมสูงรายได้ต่ำ แย่หนักเข้าไปอีก ผมไม่ปฏิเสธเรื่องการใช้เงินหรอกนะครับ ใช้ได้ตามแต่ความจำเป็น ซื้อพวกเครื่องมือมาทำเองจะพึ่งตัวเองได้กว่า แต่สิ่งที่หาซื้อไม่ได้คือต้นไม้ ธรรมชาติ และคนที่เข้ากันได้ครับ ที่ดินหัวโกร๋น ไม่มีร่มเงาไม้ ดินถูกแดดเผา จะร้อน ร้อน และโคตรร้อน พายุจะมีความรุนแรง

เมื่อตั้งใจไปอยู่ที่สวนป่าแล้ว ต้องทำให้อยู่ได้จริงๆ ด้วย ถ้าเสนออะไรแล้วครูบาเห็นด้วย ก็ต้องทำให้มันเกิดขึ้นจริง อย่ามัวเอ็นจอยแต่การชี้นิ้ว อยากทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสวนป่าโดยไม่ต้องออกไปภายนอกเลย ขนาดที่ว่าครูบา+แม่หวีอยู่ที่นี่มาสามสิบปีแล้ว มีอะไรๆ ตั้งมากมาย หมู่บ้านโลกในสวนป่าไม่ได้เริ่มจากไม่มีอะไรเลย แต่จนถึงขณะนี้ ผมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วหลายอย่างแล้ว เช่น ทำถนน ถมปรับที่ ซ่อมปรับปรุงบ่อน้ำบาดาลบ่อที่สอง กระต๊อบ อิฐอัด รั้วกรงแพะสามารถล้อมคอกแพะขนาด 25 ไร่ได้สองคอกหมุนเวียนกันไป ระบบน้ำสำหรับแปลงผักใหม่ยาวร้อยเมตร ระบบ wifi ระบบเก็บกักน้ำฝน ฯลฯ ให้ครูบาเป็นคนรัวกดปุ่ม เติมเชื้อไฟเพื่อความมันในชีวิต อ้อ…ซื้อรถอีกคันหนึ่งไว้ใช้ที่สวนป่า รถเบนซ์ที่ใช้ประจำจะทิ้งไว้ให้พ่อแม่ใช้ที่บ้าน นี่ยังไม่ได้เริ่มสร้างบ้านเลยนะครับ แต่เงินเป็นเรื่องกระจอก คิดว่าทำไปให้เกิดประโยชน์ส่วนรวมก่อนดีกว่า เรื่องบ้านผมยังเป็นเรื่องเล็ก บ้านผมที่สวนป่า จะไม่พรั่งพร้อมสะดวกสบายเหมือนบ้านที่อยู่ตอนนี้ แต่ยังทำงานได้ไม่ลำบาก ถ้าเป็นไปได้ อยากสร้างบ้านเองด้วยแทนที่จะจ้างเขาสร้าง เมื่อมีที่นอนถาวรที่เก็บของได้ คราวนี้จะขนเครื่องมือไปอยู่สวนป่าได้นานๆ จะมีเวลาสร้างสิ่งที่จำเป็นขึ้นอีก น่าจะสนุก

ครูบา+แม่หวีอยู่ที่นี่มาสามสิบปี ใช้วิริยะเปลี่ยนไร่สวนที่พื้นดินร้อนจนต้องตะแคงเท้าเดิน ให้เป็นผืนป่าขนาด 600 ไร่ (1 ตารางกิโลเมตร) และอยู่ได้อย่างร่มเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า “ภายนอก” หลายองศา เป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ แต่โลกนี้ “เจริญขึ้น” มีคนหลากหลายมาเรียนรู้ที่สวนป่า เพื่อให้ผู้มาเยือนซึ่งไม่คุ้นเคยกับสภาพตามธรรมชาติไม่ปรับตัวต้องมากนัก สวนป่าก็ควรจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่านี้ ให้คนจากในเมืองที่ยังต้องซื้อแหลกทำอะไรไม่ค่อยเป็น (ผมด้วย) ได้รับความสะดวกสบายตามสมควร

อ่านต่อ »


พระราชดำรัสบวงสรวงกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 21 March 2012 เวลา 15:57 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4520

ไปเห็นหลักธรรมในเฟสบุ๊คที่ตัดตอนมาจากพระราชดำรัสครับ จึงไปค้นพระราชดำรัสองค์เต็มมาแสดงไว้ เพื่อให้เข้าใจบริบททั้งหมดครับ

ช่วงนั้นเป็นช่วงงานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ผมจบปริญญาตรีแล้ว ทำงานหาประสบการณ์อยู่ ยังไม่ได้เรียนต่อ

อ่านต่อ »


ที่พักในหมู่บ้านโลก แบบที่ 2

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 11 March 2012 เวลา 8:41 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 5039

เมื่อวันซืนนั่งเขียนแบบที่พักในหมู่บ้านโลกแบบที่สองกับครูบาและน้องชาย ได้ที่พักซึ่งดูไม่่เหมือนเรือนพักคนงานก่อสร้าง ซึ่งทุกคนก็พอใจครับ

มีที่พักที่นอนหมู่สามหลัง สามารถกั้นเป็นสัดเป็นส่วนได้ ไม่เหมือนโรงนอนของเด็กละครับ มีที่พักของวิทยากร ตรงกลางเป็นลานกิจกรรม

อ่านต่อ »


พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ

อ่าน: 5257

วันนี้กะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปถึงที่ครับ แต่ไม่ได้เที่ยวเพราะเขาปิดพอดี

ที่ไปช้าเพราะผมมัวแต่โอ้เอ้เขียนเรื่องหมู่บ้านโลกบนเฟสบุ๊ค โพสต์เสร็จก็ไปบ้านน้องก้อยเอาหนังสือไปให้นักเขียนเซ็นให้ เสร็จแล้วรีบไปคลองหลวงเพื่อดูพิพิธภัณฑ์ครับ ไปถึงเอาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว เค้าปิดพอดี เลยดูอะไรได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง

ตัวอาคารใหญ่โตมโหฬาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2545 โดยหน่วยงานในกระทรวงเกษตรช่วยกันทำ ต่อมาในปี 2552 ก็เปลี่ยนรูปแบบเป็นองค์การมหาชนตามพระราชกฤษฎีกา

อ่านต่อ »


ทริปดูฮวงจุ้ยที่สวนป่า 9-11 กพ 2555

อ่าน: 2993

ไม่ได้ไปดูฮวงจุ้ยหรอกครับ ในเมื่อจะสร้างบ้าน ก็ต้องเตรียมการเยอะ

ประเด็นสำคัญของทริปนี้คือพาน้องชายไปดูสถานที่จริง เพื่อที่จะได้วางผังหลักของหมู่บ้านโลก เขาก็มีไอเดียของเขาตามประสาคนที่มีประสบการณ์มากมายในโครงการทุกขนาด ส่วนผมก็มีความฝันของผม ถึงเป็นพี่น้องกัน ก็ต้องคุยกันเยอะๆ เพื่อปรับจูนความคิดให้เข้ากันได้นะครับ ถึงอย่างไรก็ทำโครงการเดียวกัน (หมู่บ้านโลก) ประสบการณ์ของน้องเป็นสิ่งที่มีค่า เมื่อเขาเตือนอะไรก็ต้องฟังไว้… ไปเที่ยวนี้ก็ถือโอกาสคุยกับครูบา+แม่หวีในฐานะเจ้าของที่ด้วย ว่าคิดอะไร จะทำอะไร เพื่ออะไร

มีผู้ใกล้ชิดครูบาบอกกับผมว่าเป็นห่วง ปัจจุบันนี้สวนป่ามีค่าใช้จ่ายซึ่งผู้มาเยือนมองไม่เห็น คือค่าจ้างคนงานซึ่งก็หนักเอาการ ครูบาท่านไม่รับผู้มาเยือนที่ไม่ได้ตั้งใจมาเรียนรู้แล้วครับ อยากไปอบรมที่ไหนก็ไป ถ้ามาสวนป่าแล้วไม่ได้ตั้งใจมาเรียนรู้ก็อย่าเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่ายเลยนะครับ… เรื่องจ้างคนงานนี้ ทั้งครูบาและแม่หวีอายุมากขึ้น สุขภาพก็ต้องซ่อมแซม ไม่จ้างคนงานก็ไม่ไหวหรอกครับ ครั้นจะจ้างก็เป็นภาระหนักเหมือนกัน เรื่องที่จะปรับปรุงที่พักก็เป็นเรื่องตึงมือเข้าไปอีก ผมอยากให้ครูบา+แม่หวีได้พักผ่อนบ้าง ไม่อยากให้มาเป็นกังวลกับการลงทุนใหม่ๆ อีก

ดังนั้นเรื่องที่พัก ก็คงโยนไปทางหมู่บ้านโลกซึ่งอยู่ห่างออกไปร้อยห้าสิบเมตร ให้เดินไปนอน มีที่พักเอาไว้นอน ติดเครื่องปรับอากาศให้ ในแต่ละหลังมีที่นอนเป็นสัดเป็นส่วน เข้านอนแล้วมองไม่เห็นกัน แต่ละหลัง พักหนึ่งคนหรือพักสิบคนคิดราคาเดียวกันหมด มีอย่างนี้สักสามหลัง ก็จะรับกลุ่มใหญ่ขึ้นได้อีกมาก ตื่นเช้า ก็เดินไปเรียน ไปทำกิจกรรม คิดว่าปูพรมสวนป่าด้วย wi-fi mesh อยู่ตรงไหนก็ถ่ายรูปแล้วอัพโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ค (เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ กูเกิลพลัส) ได้เลย

อ่านต่อ »


เที่ยวงานเกษตรเทรดแฟร์ 2555

อ่าน: 2878

เย็นนี้ ไปเที่ยงงานเกษตรเทรดแฟร์ 2555 มาครับ

งานนี้ไม่ใช่งานเกษตรแฟร์ ซึ่งเลื่อนไปจัดช่วงเดือนพฤษภาคม แต่เป็นงานที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้นำสินค้ามาขาย และนำกำไรกลับไปฟื้นฟูชีวิตขึ้นมาใหม่

จากข่าวแจก …ที่ผู้ประกอบการและพ่อค้าแม่ค้ามาออกร้านจำหน่ายสินค้าในราคาย่อมเยา มีรวมกันทั้งหมด 7 โซน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในการระบายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะจังหวัดที่ประสบอุทกภัย เช่น สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ จะตั้งจุดจำหน่ายอยู่บริเวณอาคารศาลาหกเหลี่ยม ประชาชนที่สนใจสามารถเที่ยวชมงานได้โดยงานเกษตรเทรดแฟร์ 2555 จะมีไปจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น.ทุกวัน บริเวณหอประชุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

พอรู้ว่าจะมีงาน ผมก็ SMS ไปถามครูบาครับว่าอยากได้อะไรบ้างหรือไม่ ครูบาตอบว่า​ “มะตูมยักษ์. มะขามป้อมยักษ์” ยักษ์ทั้งนั้นเลย ราคาก็ยักษ์ด้วยเหมือนกันครับ ซื้อมาอย่างละต้น คนขายลดให้ห้าร้อยบาท อู้หู :b (ไม่ได้ต่อเลยนะเนี่ย)… มะขามป้อมยักษ์นั้นครูบาบอกผ่านครูปูมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ แต่ว่าซื้อให้ไม่ทันเพราะว่าออกมาจากงานเสียแล้ว เกษตรแฟร์หาที่จอดรถยากมากกกกกกกก ประกอบกับพระอาทิตย์จะตกอยู่แล้วด้วย [เที่ยวงานเกษตรแฟร์ 2554]

บริเวณงานอยู่รอบๆ สระน้ำหน้าหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัย ผมไปจอดหน้าหอสมุดกลางของกรมวิชาการเกษตร เดินนิดเดียวก็มาถึงบูธที่ขายต้นไม้ทั้งสอง (B60-61) ซึ่งได้โทรติดต่อเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แพงไม่ว่าหรอกครับ แต่อย่าหลอกกันก็แล้วกัน ไม่งั้นปลูกไปหลายปี พอโตขึ้นมา กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้

อ่านต่อ »



Main: 0.081824064254761 sec
Sidebar: 0.13951992988586 sec