เกษียณอายุ

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 February 2010 เวลา 20:43 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3353

ร่างกายมนุษย์มีข้อจำกัดเยอะแยะ มีเสื่อมไปเป็นธรรมดา เมื่ออายุมากขึ้น กำลังวังชา เรี่ยวแรงถดถอย ความเบื่อหน่ายพอกพูน ดังนั้นสำหรับมนุษย์เงินเดือน จึงมักจะมีเส้นขีดไว้ที่อายุ 60 ว่าจะต้องเกษียณอายุครับ เส้น 60 ปีนั้น เป็นเส้นสมมุติ ไม่ได้หมายความว่าหมดคุณค่า แต่ก็เป็นกติกาที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มทำงาน ว่าเมื่อหมดเวลาแล้ว ก็หมดเวลา

ถ้าหากเราทำงานแล้วเกิดความผูกพัน อยากเห็นองค์กรพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ควรจะเตรียมผู้ที่จะมายืนอยู่ในตำแหน่งของเรา — ไม่ใช่แค่มาแทนเรา แต่ควรทำได้ดีกว่าเราเสียอีก อย่างนั้นจึงจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย ที่จะมอบไว้ให้แทนความผูกพัน

แน่ล่ะเมื่อถอดหัวโขนออกวางแล้ว ที่แตกต่างออกไปก็เป็นแค่หัวโขน และเครื่องประกอบต่างๆ เราเพียงแต่สวมใส่ชั่วคราวเพื่อทำงานเฉพาะกิจ เมื่องานเลิกแล้วก็วางลง ตัวคนยังเป็นคนคนเดิม ยังมีคุณค่าเช่นเดิม เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ และสิ่งบำรุงบำเรออาจจะไม่เหมือนสมัยที่ยังสวมหัวโขนอยู่ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก ว่าสิ่งที่ได้มา เป็นของชั่วคราว — ไม่ว่าหัวหน้า HR หรือตำราจะบอกว่าอย่างไร ก็ไม่มีคำว่างานของฉันหรอกนะครับ มีแต่งานที่ฉันกำลังทำอยู่ (คือถ้ามันเป็นงานของฉันจริง ก็ทำต่อไปจนตาย แล้วจะพบว่าการที่แบกอะไรไว้เยอะๆ มันหนัก มันทุกข์)

นอกจากนั้น การเกษียณอายุ ยังหมายถึงการปรับตัวของทุกๆ คนด้วย เป็นสิ่งที่มีกำหนดการล่วงหน้า (ยกเว้นรีบตายไปเสียก่อน) เป็นเรื่องที่ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า

สำหรับผู้ที่กำลังจะเกษียณ ผมไม่มีอะไรแนะนำหรอกนะครับนอกจากเรื่องปรับตัว ทุกท่านคงรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร/เตรียมอะไร มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่ทันการแล้วครับ

อ่านต่อ »


ของขวัญอันแสนวิเศษ

อ่าน: 3204

ผมทำหน้าที่เหมือนเป็นศูนย์ไปรษณีย์ของชาวเฮ ทั้งนี้ก็เพราะเคยทำ DVD จากโอกาสต่างๆ แจกชาวเฮหลายครั้ง ตั้งแต่ เฮฯหก เป็นต้นมา จึงมีที่อยู่ของสมาชิกรวบรวมไว้เป็นจำนวนมาก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… ได้รับโทรศัพท์จากพี่ครูอึ่งถามหาที่อยู่ของป้าจุ๋ม แต่ผมไม่มีเพราะบ้านอยู่ห่างกัน 7-8 กม. ที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้ที่สุดก็เกือบ 4 กม.แล้ว อย่างนี้ ขับรถไปหาดีกว่าครับ

พี่ครูอึ่งก็ถามหาที่อยู่ อ.วรภัทร์​ ซึ่งก็ไม่มีเหมือนกันครับ ส่งหนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑ ในโควต้านักเขียนให้ อ.วรภัทร์เป็นท่านสุดท้ายเลยและต้องเอาไปส่งที่บ้านพักของท่านที่ร่มธรรม แต่ผมบอกพี่ครูอึ่งว่าน่าจะหาบริษัทอริยชนที่ซอยศูนย์วิจัยได้ ยังไงผมก็จะไปที่นั่นอยู่แล้ว เพราะกำลังพิมพ์ จปผ๑ อีกที จึงจะส่งไปให้นักเขียนทุกท่านอีกรอบหนึ่ง

พี่ครูอึ่งก็ส่งพัสดุมาให้เมื่อกลางเดือนก่อน (แต่เพิ่งได้รับเมื่อไม่กี่วันนี้เอง) แกะออกดู เป็นหนังสือสองเล่ม เล่มละ 3 ชุด พร้อมโน๊ตจากพี่ครูอึ่ง ฝากหนังสือให้ อ.วรภัทร์ กับป้าจุ๋ม พรุ่งนี้เสร็จงานบบ่าย ถ้าไปทันจะพยายามนำไปให้ อ.วรภัทร์ ในงานตอนค่ำครับ ส่วนป้าจุ๋มตอนนี้ไปปฏิบัติธรรมที่ผาซ่อนแก้ว ต้องรอกลับมาก่อน

หนังสือที่พี่ครูอึ่งส่งมา คือหนังสือที่ รศ.ดร.โสรีช์​ โพธิแก้ว เขียน และคณะลูกศิษย์จิตวิทยาการปรึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดพิมพ์ขึ้นในเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของอาจารย์ ได้แก่หนังสือ

  • กระแสธารแห่งชีวิต (มีสะกดผิดในบรรทัดที่ 5 จากท้ายหน้า 94 ครับ)
  • ชีวิต..ความงาม..ความจริง

อ่านแล้วทั้งสองเล่ม ต้องถือว่าเป็นโชคมหาศาลที่ได้อ่าน พรุ่งนี้จะเอาให้พ่อกับแม่อ่าน

หนังสือสองเล่มนี้อ่านง่ายแต่ลึกซึ้งครับ ไม่มีราคา ไม่มีวิธีสั่งซื้อ ไม่รู้ว่าจะหาอ่านได้ที่ไหน แต่ถ้าไม่ได้อ่าน ก็ไม่รู้ว่าดีอย่างไรหรอกนะครับ (บอกไว้เฉยๆ)


ตายน้ำตื้น: เครื่องปรับอากาศ

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 February 2010 เวลา 0:21 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3330

เครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่ อาจเป็นแหล่งบ่มเพาะและแพร่เชื้อโรคครับ ทั้งโรคทางเดินหายใจ รา ฝุ่น ฯลฯ

นพ.ทวีทอง กออนันตกูล เขียนงานวิจัยที่สถาบันโรคทรวงอกไว้ จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ปลอดภัยมากขึ้นครับ แต่เรื่องนี้มีผลกว้างมากกว่านั้นมาก

แอร์ตามออฟฟิศนั้นน่ากลัวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าหมกเชื้ออะไรเอาไว้บ้าง ยิ่งเปิดแอร์เย็นฉ่ำตลอดเวลา ก็ยิ่งชื้น ยิ่งอับ


โสรยาเป็นยายแล้ว

9 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 February 2010 เวลา 16:45 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4948

ลูกสาวโสรยา ชื่อมาริลีน (Marilyn) ออกลูกมา 7 ตัวเมื่อสองสามวันก่อนครับ แม่เค้าหวงมาก ทั้งครอกซ่อนตัวอยู่ในซอก ไม่ค่อยออกมาให้ดู; แต่ว่าตัวเอง “แรด” อายุขวบเดียว มีลูกแล้ว

วันนี้ ผมไปให้อาหารหมาที่เลี้ยงนอกบ้าน เจอทั้งโสรยาและมาริลีน เป็นจังหวะดีที่เด็กๆ คลานออกมารับลม จึงถ่ายรูปมาให้ดู (หายไปตัวหนึ่ง)

จบข่าว

อ่านต่อ »


เที่ยวงานเกษตรแฟร์ ปี ๒๕๕๓ (2)

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 February 2010 เวลา 15:58 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 6924

เวลางานเข้านี่ มันยุ่งจริงๆ นะครับ นัดคุยกันเรื่องงานในมูลนิธิ เสร็จหลังเที่ยงนิดหน่อย ก็เลยแวะไปงานเกษตรแฟร์อีกที ไปหาข้อมูลเรื่องเครื่องตัดย่อยกิ่งไม้เพิ่มให้ครูบา

รูปซ้ายเป็นเครื่องที่บอกไว้ในบันทึกก่อนนะครับ สับกิ่งไม้ได้ไม่เกินสี่นิ้ว ราคาในงานหมื่นแปด รวมค่าส่ง; ถ้าไม่เอามอเตอร์ ก็หักออกไปสี่พัน; รูปกลาง อ้อมไปถ่ายด้านหลัง เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านสายพาน มาหมุนเพลาซึ่งติดอยู่กับจานตัด (ซึ่งมีใบมีดขนาด 4 นิ้วติดอยู่สองใบ); รูปขวา เศษไม้ (ไม่ละเอียดนัก) พ่นออกมาด้านล่างข้างหน้า ฮัดช้า มีล้อด้วย แต่ครึ่งๆ กลางๆ เพราะสายไฟก็เป็นตัวกำหนดว่าจะไปได้ไกลแค่ไหนอยู่ดี

อ่านต่อ »


เที่ยวงานเกษตรแฟร์ ปี ๒๕๕๓

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 February 2010 เวลา 16:05 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 5158

ไปเที่ยงงานเกษตรแฟร์ปีนี้ ต่างกับปีที่แล้วสองอย่าง คือเมื่อปีที่แล้ว ผมไปกับครูบา แต่ปีนี้ครูบาลงเครื่องบินมาจากเชียงใหม่เมื่อวานแล้วนั่งรถกลับสวนป่าเลย อีกอย่างหนึ่งคือปีที่แล้วมีคนขับรถ  แต่ปีนี้ขับเองครับ ฮาๆๆๆ หัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล

จอดรถแถวปัมป์ ปตท. ใกล้ศูนย์ผลิตนมเกษตร (ฝั่งถนนพหลโยธิน) แล้วก็เดินไปฝั่งถนนวิภาวดี แล้วกลับ คนเยอะ อากาศร้อน ไม่ได้ซื้ออะไรมาก และยังไปไม่ถึงโซนต้นไม้หรอกครับ — เดินผ่านโซนเครื่องจักรทางการเกษตร นึกถึงครูบา เลยรีบกลับมาเขียนบันทึกนี้

อ่านต่อ »


เที่ยวงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี ๒๕๕๓

อ่าน: 7504

วันนี้ไปส่งหนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑​ ที่โรงพิมพ์อีกครั้ง เพราะมีคนแก้หนังสือหลังปิดฉบับไปแล้ว เพราะว่าทำงานดึกมาหลายคืน วันนี้ตื่นซะเที่ยงเลย แล้วก็อ้อยอิ่งทำโน่นทำนี่ ออกไปโรงพิมพ์เอาบ่ายสองโมง กว่าจะเสร็จขับรถมาถึงอนุสาวรีย์หลักสี่ก็บ่ายสามโมงแล้ว

ไหนๆ ออกมานอกบ้านแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนกลับบ้าน มีทางเลือกสองทางคือไปเที่ยวงานเกษตรแฟร์ หรือไปเที่ยงงานวันนักประดิษฐ์

อยากไปทั้งสองงานล่ะครับ คิดว่าเดินเที่ยวเกษตรแฟร์ น่าจะมีเวลามากกว่านี้ ก็เลยไปเที่ยวงานวันนักประดิษฐ์ ที่ฮอล 9 อิมแพ็ค

อ่านต่อ »


ส่ง เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ไปโรงพิมพ์แล้ว

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 1 February 2010 เวลา 15:51 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4098

ส่งแล้วครับ ขอบคุณบรรณาธิการคุณหนูละเอียดทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคืนแก้จนคิดว่าหมดแล้ว คิดว่าคุณภาพดีกว่าการพิมพ์ครั้งแรกมาก เนื่องจากครั้งแรกนั้น เดิมมีกำหนดการจัดงานวันระพีเสวนา ซึ่งเป็นวันที่จะนำหนังสือไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นตัวกำหนด แต่เมื่อดำเนินการปลดล็อควันนั้นไป กองบรรณาธิการซึ่งไม่เคยทำหนังสือทั้งกระบวนการอย่างนี้มาก่อน ใช้เวลาอีกสักอาทิตย์กว่าตรวจแก้ และส่งโรงพิมพ์

เจ้าเป็นไผ ๑ ขายหมดในเวลาสามสี่เดือน โดยขายกระจายออกไปในวงกว้าง ได้รับคำชมมากมาย คำแนะนำที่ได้รับมามากที่สุดสองอันคือ น่าจะพิมพ์ราคาลงไปด้วย และไม่รู้วิธีการสั่งซื้อ

จนเมื่อ เจ้าเป็นไผ ๒ ตีพิมพ์ ก็มีผู้อ่านถามหาเล่มแรกอีก ผมคิดว่าทั้งสองเล่ม ดีกันคนละแบบครับ เล่มแรกมีบทเรียนชีวิต 10 เรื่อง ตลอดจนอธิบายกระบวนการเฮฮาศาสตร์อย่างชัดเจน สังคมเฮ ไม่ค่อยเหมือนชุมชนเสมือนโดยทั่วไป เป็นสังคมที่มีความหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้ เราใช้ประโยชน์จากความแตกต่างนั้นได้ดี จึงไม่ต้องสร้างภาพลักษณ์อะไร ใครเป็นอย่างไร ทำอะไรได้หรือไม่ได้นั้น รู้(ใส้)กันทั้งนั้น ส่วนเล่มสองมีบทเรียนชีวิต 7+1 เรื่องและหนากว่า จึงเจาะลงลึกกว่า

เมื่อจะนำ เจ้าเป็นไผ ๑ มาตีพิมพ์ใหม่ กองบรรณาธิการจึงได้โอกาสตรวจแก้อีกครั้งหนึ่ง แล้วเลยถือโอกาสตรวจแก้หนังสืออีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าคุณภาพของ เจ้าเป็นไผ ๑ ดีขึ้นกว่าการพิมพ์ครั้งแรกเป็นอย่างมากครับ

อ่านต่อ »


เรียนดิน ก่อนปั้นพระดิน

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 31 January 2010 เวลา 18:38 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 7739

ช่วงต้นเดือนนี้ ระหว่างทำพระปูน ได้ข้อมูลดีเรื่องดินปั้นหัตถกรรมและวิธีทำแบบหล่อ ก็เลยไปซื้อมาหลายก้อน แจกจ่ายคนยุกยิก… แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับดิน เพราะหลังจากนั้น ก็พาพ่อแม่ไปเที่ยวน่าน กลับมาก็ทำ เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ อีก

ตอนนี้หนังสือจะส่งโรงพิมพ์พรุ่งนี้แล้ว ในระหว่างพักสายตาเมื่อหลายวันก่อน ไปหยิบดินมาทดลอง เพื่อหาข้อจำกัดของดินปั้น

เพื่อการนี้ ก็ใช้ดินประมาณ 60% ของก้อน มาปั้นเล่นเป็นพระปางไสยาสน์ทั้งองค์ แต่มีการทดลองปะดินแบบเอาน้ำลูบ และแบบไม่เอาน้ำลูบ ดูความแข็งตามเวลา และความแข็งของดินเมื่อแห้งแล้ว ลองเอากระดาษทรายขัด ลองทำแบบหล่อ ลองปั๊มด้วยแบบที่ทำนั่นแหละ และลองสี ได้อาการดังนี้ครับ

อ่านต่อ »


พระปูน: หยุดแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 January 2010 เวลา 17:39 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3138

ตัดสินใจหยุดทำพระปูนแล้วครับ พระยังอยู่ดีไม่ได้เสียหาย แต่ว่าอาทิตย์หน้า ผมจะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่หลายวัน ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะแยะ

ที่จริงจะกลับมาทำต่อก็ได้ แต่เมื่อดูเนื้อปูนแล้ว ผมก็เห็นว่าในที่สุดแล้ว finishing จะไม่สวยเหมือนพระไม้ที่ปิดทอง แล้วในที่สุด จะมีน้ำหนักมากไป นี่ยังไม่ได้ทำฐานเลยนะครับ เมื่อรู้ตัวแล้ว หยุดเลย ดีกว่าดันทุรังต่อครับ

พระปูนองค์นี้ ได้วิธีหล่อปูน แกะปูนขึ้นรูปในชิ้นงานที่ยาก ได้ลองสีสองสี

และที่สำคัญคือจะหาวัสดุที่ดีกว่าปูนพลาสเตอร์ มาสร้างพระปางไสยาสน์ให้พ่อครับ

เออ… ไม่รู้ว่าพระปูนที่ทำไม่เสร็จ จะบอกอะไรคนได้บ้างหรือเปล่า



Main: 0.41043305397034 sec
Sidebar: 0.51361298561096 sec