ส่ง เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ไปโรงพิมพ์แล้ว

โดย Logos เมื่อ 1 February 2010 เวลา 15:51 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4095

ส่งแล้วครับ ขอบคุณบรรณาธิการคุณหนูละเอียดทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคืนแก้จนคิดว่าหมดแล้ว คิดว่าคุณภาพดีกว่าการพิมพ์ครั้งแรกมาก เนื่องจากครั้งแรกนั้น เดิมมีกำหนดการจัดงานวันระพีเสวนา ซึ่งเป็นวันที่จะนำหนังสือไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นตัวกำหนด แต่เมื่อดำเนินการปลดล็อควันนั้นไป กองบรรณาธิการซึ่งไม่เคยทำหนังสือทั้งกระบวนการอย่างนี้มาก่อน ใช้เวลาอีกสักอาทิตย์กว่าตรวจแก้ และส่งโรงพิมพ์

เจ้าเป็นไผ ๑ ขายหมดในเวลาสามสี่เดือน โดยขายกระจายออกไปในวงกว้าง ได้รับคำชมมากมาย คำแนะนำที่ได้รับมามากที่สุดสองอันคือ น่าจะพิมพ์ราคาลงไปด้วย และไม่รู้วิธีการสั่งซื้อ

จนเมื่อ เจ้าเป็นไผ ๒ ตีพิมพ์ ก็มีผู้อ่านถามหาเล่มแรกอีก ผมคิดว่าทั้งสองเล่ม ดีกันคนละแบบครับ เล่มแรกมีบทเรียนชีวิต 10 เรื่อง ตลอดจนอธิบายกระบวนการเฮฮาศาสตร์อย่างชัดเจน สังคมเฮ ไม่ค่อยเหมือนชุมชนเสมือนโดยทั่วไป เป็นสังคมที่มีความหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้ เราใช้ประโยชน์จากความแตกต่างนั้นได้ดี จึงไม่ต้องสร้างภาพลักษณ์อะไร ใครเป็นอย่างไร ทำอะไรได้หรือไม่ได้นั้น รู้(ใส้)กันทั้งนั้น ส่วนเล่มสองมีบทเรียนชีวิต 7+1 เรื่องและหนากว่า จึงเจาะลงลึกกว่า

เมื่อจะนำ เจ้าเป็นไผ ๑ มาตีพิมพ์ใหม่ กองบรรณาธิการจึงได้โอกาสตรวจแก้อีกครั้งหนึ่ง แล้วเลยถือโอกาสตรวจแก้หนังสืออีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าคุณภาพของ เจ้าเป็นไผ ๑ ดีขึ้นกว่าการพิมพ์ครั้งแรกเป็นอย่างมากครับ

ตามความเห็นของผม เจ้าเป็นไผ ๑ เต็มไปด้วยวรรคทองจากประสบการณ์ชีวิตของนักเขียน เช่น

คิดเยอะ แต่ทำได้น้อย แต่เพียงนิดหน่อยก็ขอให้ได้ทำเถอะ ดีกว่าคิดเฉย ๆ หรือพูดเฉย ๆ ยังมีเพื่อนที่คิดคล้ายเรา ทำคล้ายเราอีกมากไปจับมือกับเขา

ไม่จำเป็นต้องมาทำเหมือนกันหมด ยืนตรงไหนก็ทำดีที่ตรงนั้นได้ เพราะสังคมมิใช่มีแต่ชาวนา เกษตรกร มีอีกหลายกลุ่ม ทุกกลุ่มประกอบกันเป็นสังคม ประเทศ ที่ต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน …แต่อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน ขี่คอกันขึ้นไป ผมจะอยู่ตรงข้ามทันที — ไพศาล ช่วงฉ่ำ, องค์กรพัฒนาเอกชน

ถ้าฝึกฝนมายังไม่ดีพอ เรามักจะจัดหมวดหมู่ (Categorization) ของคนที่เรารู้จักไว้ในใจก่อนแล้วว่าคนนี้ดี น่าเชื่อถือ คนนี้ไม่ดี ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้เวลาฟังหรืออ่านเรามักตัดสินตามหมวดหมู่ที่เราจัดไว้แล้ว ทำให้เลือกฟัง เลือกรับรู้  ไม่รับฟังด้วยใจที่เปิดกว้าง  ไม่รับฟังด้วยใจที่เป็นกลาง  ทำให้การรับรู้เพี้ยนไปได้

ในโลกไซเบอร์ และโลกแห่งความเป็นจริงมีอันตรายแฝงอยู่มากมาย ซึ่งเป็นข้อควรระวัง แต่ถ้าเราทำอะไร ๆ ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ช่วยกันดูแลสังคมของเรา ก็น่าจะลดปัญหาต่าง ๆ ลงได้ — นพ.สุธี ฮั่นตระกูล, วิทยากรอบรมด้านจิตใจ การจัดการขยะ และนักการเมืองท้องถิ่น

ชีวิตหลังการเรียนมิได้จบลงอย่างที่คิด เมื่อเธอเริ่มต้นการเป็นแพทย์เต็มตัว เธอก็ต้องเข้าสู่การผจญภัยกับความรู้สึกอีกครั้ง คราวนี้มีลุ้นกับโอกาสไปทำงานอยู่ตามชายแดนเสียด้วย — พญ.ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์, แพทย์

ผมรู้ว่าครูรู้ แต่ครูให้โอกาสเรา ครูสอนว่าอย่าเล่นการพนันเพราะการพนันไม่ดี จะทำให้เราฉิบหาย ตั้งแต่วันนั้นผมเลิกซื้อสลากมาขาย เลิกทำผิดระเบียบของโรงเรียนอย่างเด็ดขาด และมันส่งผลมาถึงการทำงานที่ ให้อภัยคนมาโดยตลอด เพราะคนเราผิดพลาดกันได้ แต่ก็ไม่ควรทำความผิดซ้ำ เพราะถ้าทำซ้ำผมไม่ยอม ใครมาขอก็ไม่ยอมช่วยเป็นอันขาดเพราะถือว่าเขารู้แล้ว ได้โอกาสแล้วยังทำอีก — บัณฑูร ทองตัน, อัยการ

กลับบ้านเพื่อจะพบกับความจริง…ไม่ได้มีสิ่งสวยงาม สำเร็จรูปใด ๆ ต้องเริ่มต้นคุ้นเคยกับสิ่งใหม่…แม้พูดกับใคร ๆ ก็ดูราวจะเข้าใจกันไปคนละทาง จะเริ่มอะไร ก่อน…หลัง แถมยังต้องพิสูจน์ใจให้ทีมเห็น ก็เธอเป็นใคร มาจากไหน…เด็กวัยลูก…แล้วจะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำขององค์กรอย่างนั้นหรือ ทั้งทีมคือ พี่ ป้า น้า อา ครูบาอาจารย์ที่เคยเห็นวิ่งเล่นปุเลง ๆ อยู่เมื่อวันวาน

พาตัวเองผ่านพ้นมาได้ ด้วยอาศัยวิถีทาง ที่พ่อ แม่ ก่อร่างสร้างเอาไว้ ใช้ชีวิตอย่างสมถะ อ่อนน้อมถ่อมตน พากเพียร เรียนรู้ และไม่เอาเปรียบผู้อื่น ภาพในโรงเรียนที่เห็นเจนตามาแต่เด็ก คือ การร่วมทุกข์ ร่วมสุข และการเป็นผู้ให้ของพ่อแม่ ยามมีงานลุยงานด้วยกัน บางครั้งถกเถียงกันลั่นสนั่นห้อง ไม่มีลูกน้อง ไม่มีเจ้านาย เสร็จจากงานก็ผ่อนคลาย กินข้าวด้วยกัน มีเสียงหัวเราะลั่นจากเรื่องเล่า เรื่องขบขัน เข้ามาแทน — ดวงพร เลาหกุล, ผู้อำนวยการโรงเรียน

รู้จักตนเอง คือ รู้จักแยกแยะจิตกับความคิดออกจากกันได้ชัดเจน
จิตว่าง ๆ เอาสติไปควบคุมความคิด ไม่ใช่ เอาจิตไปควบคุมความคิด
สุขก็เพราะความคิด ทุกข์ก็เพราะความคิด
ต้นตอแห่งทุกข์ เกิดขึ้นที่จิต ก็ต้องรู้จักดับที่จิต
— ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ, ที่ปรึกษาด้านจิตใจ ยุทธศาสตร์ และการจัดการ

« « Prev : เรียนดิน ก่อนปั้นพระดิน

Next : คุ้นเคยจนนึกว่ารู้ แต่ที่จริงไม่ได้ตระหนักเลย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 17:27

    ดีใจด้วยค่ะ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 17:57
    ตั้งแต่เล่มแรก มีคนถามหลายคนนะครับ ว่าทำไมไม่ส่งโรงพิมพ์ไปให้เขาจัดการหมดเลย คงดีด้วย

    อืม ก็น่าจะใช่ครับ โรงพิมพ์เค้ามืออาชีพนะ; แต่ได้อ่านร้อยกว่ารอบ ก็สนุกไปอีกแบบครับ (วันก่อน มีคนโทรมาคุย เสียงอู้อี้ บอกใช้งานหนัก จะเอาอายคีม ผมอึ้งไปเกือบหนึ่งวินาที จึง อ๋อ eye cream… แล้วก็แห้วตามเคย) เงินที่ประหยัดได้จากการจ้างโรงพิมพ์ทำงานของเรา ก็ไปลงกองทุนชาวเฮ แต่มันไม่สำคัญเท่ากับว่างานของเรา จะโบ้ยไปให้ใครทำล่ะครับ

  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 19:00

    -ต้องขอปรบมือดังๆให้กำล้งใจทีมบ.ก.ผู้น่ารักทั้งทีมค่ะ…แล้วป้าจุ๋มจะเลี้ยงไอศครีมค่ะ
    -เห็นตัวอย่างบางส่วนตามที่นำมาให้ดูแล้วค่ะ…ชอบค่ะ  ชอบค่ะ…โอ้โหอย่างนี้ป้าจุ๋มต้องขอจองค่ะ

  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 20:28

    กลับมาอ่านที่ตัวเองเขียน  เกือบจำไม่ได้ว่าเขียนเอง  เขียนดีเหมือนกันนะ  อิอิ

  • #5 born2011 ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 July 2011 เวลา 19:12

    คนแก่มาใหม่ ไม่ใช่เด็กใหม่ อยากมีไว้เป็นสมบัติส่วนตัวซักเล่ม จะติดต่อได้ที่ไหนคะ

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 July 2011 เวลา 19:33
    ถ้ามี paypal สั่งซื้อที่นี่ http://www.opencare.org/shop คงจะสะดวกกว่าครับ
    ป.ล. สมาชิกลานฯ ไม่มี “เด็ก” เลยนะครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.41219902038574 sec
Sidebar: 0.20394802093506 sec