ส่ง เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ไปโรงพิมพ์แล้ว
อ่าน: 4111ส่งแล้วครับ ขอบคุณบรรณาธิการคุณหนูละเอียดทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคืนแก้จนคิดว่าหมดแล้ว คิดว่าคุณภาพดีกว่าการพิมพ์ครั้งแรกมาก เนื่องจากครั้งแรกนั้น เดิมมีกำหนดการจัดงานวันระพีเสวนา ซึ่งเป็นวันที่จะนำหนังสือไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นตัวกำหนด แต่เมื่อดำเนินการปลดล็อควันนั้นไป กองบรรณาธิการซึ่งไม่เคยทำหนังสือทั้งกระบวนการอย่างนี้มาก่อน ใช้เวลาอีกสักอาทิตย์กว่าตรวจแก้ และส่งโรงพิมพ์
เจ้าเป็นไผ ๑ ขายหมดในเวลาสามสี่เดือน โดยขายกระจายออกไปในวงกว้าง ได้รับคำชมมากมาย คำแนะนำที่ได้รับมามากที่สุดสองอันคือ น่าจะพิมพ์ราคาลงไปด้วย และไม่รู้วิธีการสั่งซื้อ
จนเมื่อ เจ้าเป็นไผ ๒ ตีพิมพ์ ก็มีผู้อ่านถามหาเล่มแรกอีก ผมคิดว่าทั้งสองเล่ม ดีกันคนละแบบครับ เล่มแรกมีบทเรียนชีวิต 10 เรื่อง ตลอดจนอธิบายกระบวนการเฮฮาศาสตร์อย่างชัดเจน สังคมเฮ ไม่ค่อยเหมือนชุมชนเสมือนโดยทั่วไป เป็นสังคมที่มีความหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้ เราใช้ประโยชน์จากความแตกต่างนั้นได้ดี จึงไม่ต้องสร้างภาพลักษณ์อะไร ใครเป็นอย่างไร ทำอะไรได้หรือไม่ได้นั้น รู้(ใส้)กันทั้งนั้น ส่วนเล่มสองมีบทเรียนชีวิต 7+1 เรื่องและหนากว่า จึงเจาะลงลึกกว่า
เมื่อจะนำ เจ้าเป็นไผ ๑ มาตีพิมพ์ใหม่ กองบรรณาธิการจึงได้โอกาสตรวจแก้อีกครั้งหนึ่ง แล้วเลยถือโอกาสตรวจแก้หนังสืออีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าคุณภาพของ เจ้าเป็นไผ ๑ ดีขึ้นกว่าการพิมพ์ครั้งแรกเป็นอย่างมากครับ
ตามความเห็นของผม เจ้าเป็นไผ ๑ เต็มไปด้วยวรรคทองจากประสบการณ์ชีวิตของนักเขียน เช่น
คิดเยอะ แต่ทำได้น้อย แต่เพียงนิดหน่อยก็ขอให้ได้ทำเถอะ ดีกว่าคิดเฉย ๆ หรือพูดเฉย ๆ ยังมีเพื่อนที่คิดคล้ายเรา ทำคล้ายเราอีกมากไปจับมือกับเขา
ไม่จำเป็นต้องมาทำเหมือนกันหมด ยืนตรงไหนก็ทำดีที่ตรงนั้นได้ เพราะสังคมมิใช่มีแต่ชาวนา เกษตรกร มีอีกหลายกลุ่ม ทุกกลุ่มประกอบกันเป็นสังคม ประเทศ ที่ต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน …แต่อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน ขี่คอกันขึ้นไป ผมจะอยู่ตรงข้ามทันที — ไพศาล ช่วงฉ่ำ, องค์กรพัฒนาเอกชน
ถ้าฝึกฝนมายังไม่ดีพอ เรามักจะจัดหมวดหมู่ (Categorization) ของคนที่เรารู้จักไว้ในใจก่อนแล้วว่าคนนี้ดี น่าเชื่อถือ คนนี้ไม่ดี ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้เวลาฟังหรืออ่านเรามักตัดสินตามหมวดหมู่ที่เราจัดไว้แล้ว ทำให้เลือกฟัง เลือกรับรู้ ไม่รับฟังด้วยใจที่เปิดกว้าง ไม่รับฟังด้วยใจที่เป็นกลาง ทำให้การรับรู้เพี้ยนไปได้
ในโลกไซเบอร์ และโลกแห่งความเป็นจริงมีอันตรายแฝงอยู่มากมาย ซึ่งเป็นข้อควรระวัง แต่ถ้าเราทำอะไร ๆ ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ช่วยกันดูแลสังคมของเรา ก็น่าจะลดปัญหาต่าง ๆ ลงได้ — นพ.สุธี ฮั่นตระกูล, วิทยากรอบรมด้านจิตใจ การจัดการขยะ และนักการเมืองท้องถิ่น
ชีวิตหลังการเรียนมิได้จบลงอย่างที่คิด เมื่อเธอเริ่มต้นการเป็นแพทย์เต็มตัว เธอก็ต้องเข้าสู่การผจญภัยกับความรู้สึกอีกครั้ง คราวนี้มีลุ้นกับโอกาสไปทำงานอยู่ตามชายแดนเสียด้วย — พญ.ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์, แพทย์
ผมรู้ว่าครูรู้ แต่ครูให้โอกาสเรา ครูสอนว่าอย่าเล่นการพนันเพราะการพนันไม่ดี จะทำให้เราฉิบหาย ตั้งแต่วันนั้นผมเลิกซื้อสลากมาขาย เลิกทำผิดระเบียบของโรงเรียนอย่างเด็ดขาด และมันส่งผลมาถึงการทำงานที่ ให้อภัยคนมาโดยตลอด เพราะคนเราผิดพลาดกันได้ แต่ก็ไม่ควรทำความผิดซ้ำ เพราะถ้าทำซ้ำผมไม่ยอม ใครมาขอก็ไม่ยอมช่วยเป็นอันขาดเพราะถือว่าเขารู้แล้ว ได้โอกาสแล้วยังทำอีก — บัณฑูร ทองตัน, อัยการ
กลับบ้านเพื่อจะพบกับความจริง…ไม่ได้มีสิ่งสวยงาม สำเร็จรูปใด ๆ ต้องเริ่มต้นคุ้นเคยกับสิ่งใหม่…แม้พูดกับใคร ๆ ก็ดูราวจะเข้าใจกันไปคนละทาง จะเริ่มอะไร ก่อน…หลัง แถมยังต้องพิสูจน์ใจให้ทีมเห็น ก็เธอเป็นใคร มาจากไหน…เด็กวัยลูก…แล้วจะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำขององค์กรอย่างนั้นหรือ ทั้งทีมคือ พี่ ป้า น้า อา ครูบาอาจารย์ที่เคยเห็นวิ่งเล่นปุเลง ๆ อยู่เมื่อวันวาน
พาตัวเองผ่านพ้นมาได้ ด้วยอาศัยวิถีทาง ที่พ่อ แม่ ก่อร่างสร้างเอาไว้ ใช้ชีวิตอย่างสมถะ อ่อนน้อมถ่อมตน พากเพียร เรียนรู้ และไม่เอาเปรียบผู้อื่น ภาพในโรงเรียนที่เห็นเจนตามาแต่เด็ก คือ การร่วมทุกข์ ร่วมสุข และการเป็นผู้ให้ของพ่อแม่ ยามมีงานลุยงานด้วยกัน บางครั้งถกเถียงกันลั่นสนั่นห้อง ไม่มีลูกน้อง ไม่มีเจ้านาย เสร็จจากงานก็ผ่อนคลาย กินข้าวด้วยกัน มีเสียงหัวเราะลั่นจากเรื่องเล่า เรื่องขบขัน เข้ามาแทน — ดวงพร เลาหกุล, ผู้อำนวยการโรงเรียน
รู้จักตนเอง คือ รู้จักแยกแยะจิตกับความคิดออกจากกันได้ชัดเจน
จิตว่าง ๆ เอาสติไปควบคุมความคิด ไม่ใช่ เอาจิตไปควบคุมความคิด
สุขก็เพราะความคิด ทุกข์ก็เพราะความคิด
ต้นตอแห่งทุกข์ เกิดขึ้นที่จิต ก็ต้องรู้จักดับที่จิต — ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ, ที่ปรึกษาด้านจิตใจ ยุทธศาสตร์ และการจัดการ
« « Prev : เรียนดิน ก่อนปั้นพระดิน
Next : คุ้นเคยจนนึกว่ารู้ แต่ที่จริงไม่ได้ตระหนักเลย » »
6 ความคิดเห็น
ดีใจด้วยค่ะ
อืม ก็น่าจะใช่ครับ โรงพิมพ์เค้ามืออาชีพนะ; แต่ได้อ่านร้อยกว่ารอบ ก็สนุกไปอีกแบบครับ (วันก่อน มีคนโทรมาคุย เสียงอู้อี้ บอกใช้งานหนัก จะเอาอายคีม ผมอึ้งไปเกือบหนึ่งวินาที จึง อ๋อ eye cream… แล้วก็แห้วตามเคย) เงินที่ประหยัดได้จากการจ้างโรงพิมพ์ทำงานของเรา ก็ไปลงกองทุนชาวเฮ แต่มันไม่สำคัญเท่ากับว่างานของเรา จะโบ้ยไปให้ใครทำล่ะครับ
-ต้องขอปรบมือดังๆให้กำล้งใจทีมบ.ก.ผู้น่ารักทั้งทีมค่ะ…แล้วป้าจุ๋มจะเลี้ยงไอศครีมค่ะ
-เห็นตัวอย่างบางส่วนตามที่นำมาให้ดูแล้วค่ะ…ชอบค่ะ ชอบค่ะ…โอ้โหอย่างนี้ป้าจุ๋มต้องขอจองค่ะ
กลับมาอ่านที่ตัวเองเขียน เกือบจำไม่ได้ว่าเขียนเอง เขียนดีเหมือนกันนะ อิอิ
คนแก่มาใหม่ ไม่ใช่เด็กใหม่ อยากมีไว้เป็นสมบัติส่วนตัวซักเล่ม จะติดต่อได้ที่ไหนคะ
ป.ล. สมาชิกลานฯ ไม่มี “เด็ก” เลยนะครับ