คุ้นเคยจนนึกว่ารู้ แต่ที่จริงไม่ได้ตระหนักเลย

โดย Logos เมื่อ 2 February 2010 เวลา 2:10 ในหมวดหมู่ พลังงาน #
อ่าน: 4492

ไฟฟ้า… บ้านไหนก็มีไฟฟ้า

ไฟฟ้าที่เราใช้อยู่ เป็นเทคโนโลยีของศตวรรษที่ 19 ใช้ power plant ขนาดใหญ่ ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน ถ่านหิน และฟอสซิล จ่ายกำลังไปตามสายส่งไฟฟ้า ซึ่งเกิดการสูญเสียมากกว่าจะไปถึงปลายทาง

โลกใช้เวลานานหลายร้อยล้านปี กว่าที่จะเก็บสะสมพลังานแสงอาทิตย์ ภายใต้ความร้อน ความกดดัน เปลี่ยนซากพืชซากสัตว์เป็นฟอสซิล แต่มนุษย์เผาฟอสซิลกลับเป็นไฮโดรคาร์บอน และความร้อนอย่างรวดเร็วในช่วงร้อยกว่าปีนี้เอง เร็วกว่าที่ธรรมชาติทำกว่าล้านเท่า แล้วอย่างนี้ จะไม่ร้อนรุ่มได้ยังไง??

ดีที่สุดคือพลังงานแสงอาทิตย์

เพราะดวงอาทิตย์แผ่พลังงานให้แก่โลกอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นงานที่ต้องการได้ จะไม่ทำให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น

แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ ดวงอาทิตย์ไม่ได้อยู่ให้เราเห็นในช่วงกลางคืน ยิ่งกว่านั้นการแปลงและเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ยังมีประสิทธิภาพต่ำอีกด้วย เวลาเราพูดถึงพลังงานแสงอาทิตย์ มักจะไปคิดถึงโซล่าร์เซล ซึ่งปัจจุบันก็มีประสิทธิภาพเพียงประมาณ 20% เท่านั้น ที่จริงยังมีวิธีการอื่นอีกตั้งเยอะ ที่จะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นงานที่ต้องการ เช่น

  • Solar collector เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานความร้อน แล้วเอาความร้อนไปทำงานอีกทีหนึ่ง ดูเหมือนเป็นกระบวนการหลายขั้นตอน แต่ก็น่าจะมีประสิทธิภาพรวมมากกว่า และมีราคาต่ำกว่าการใช้โซล่าร์เซล
  • พื้นผิวเมืองไทย มีพลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบประมาณ 1000 W/m2 หักเรื่องเมฆ เรื่องฝน เรื่องอากาศขมุกขมัวออกสักครึ่งหนึ่ง หักความไม่มีประสิทธิภาพของการแปลงพลังงานอีกร้อยละ 60 หมายความว่าพื้นที่ 10 ตร.ม. มีแดด 6 ชั่วโมง จะปั่นไฟฟ้าได้ 120 หน่วยต่อวัน (พอกับโซล่าร์เซลประสิทธิภาพสูงในพื้นที่เท่ากัน แต่น่าจะถูกกว่าหลายเท่า) ซึ่งมากเกินพอสำหรับบ้านอยู่อาศัย

การผลิตไฟฟ้า

เพราะกฏหมายโบราณกำหนดไว้ว่าหน้าที่นี้เป็นของรัฐวิสาหกิจใหญ่ แล้วกฏหมายยังไม่เปลี่ยน เราก็เลยลืมไปว่าบ้านเรือนต่างๆ ผลิตไฟฟ้าเองได้ (แต่ต่อไฟฟ้ามาใช้ ก็ง่ายดี) ที่จริงแล้ว แม้เมืองไทยจะตั้งอยู่ในเขตที่ลมไม่แรง แต่บ้านเรือน/ตึกแถว/ไร่นา ที่ตั้งอยู่ริมถนนที่มีการจราจรคล่องตัว สามารถตั้งกังหันลมขนาดเล็กปั่นไฟฟ้าใช้เองได้

ยังไม่ต้องคิดถึงขนาดจะเป็น VSPP ขายไฟให้การไฟฟ้าหรอกนะครับ (Grid-tied invertor เพื่อขายไฟให้การไฟฟ้ามีราคาแพงมาก) แค่ลงทุนสองหมื่น ปั่นไฟ 500 วัตต์ชาร์ตแบตเตอรี่ เพื่อเอามาปั่นไฟเลี้ยงคอมเพรสเซอร์แอร์ขนาด 2kW (ที่ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา) ก็หรูแล้ว ได้ความเย็นฟรีเกือบตลอดเวลา ถ้าแบตอ่อน จึงเอาไฟจากการไฟฟ้ามาใช้

Storage

ผมชอบโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับของ กฟผ.มากครับ เคยเขียนบันทึกไว้; ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ น่าจะใช้ไฟฟ้าแบบ TOU จึงใช้ไฟฟ้าช่วงกลางคืนซึ่งถูกกว่า มาทำความเย็นเก็บไว้ เพื่อนำมาใช้ในตอนกลางวัน

เช่นเดียวกัน การออกแบบสายส่งไฟฟ้า มี capacity จำกัด (ที่มากพอสำหรับ peak load เผื่ออนาคตไว้อีกส่วนหนึ่ง) แต่ปริมาณการใช้ไฟฟ้า จะไปหนักตอนหัวค่ำ หมายความว่าในช่วงเวลาอื่น สายส่ง “ว่าง” หากเราถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้ามาเก็บไว้ใกล้เมือง แทนที่จะส่งตรงมาจากโรงไฟฟ้าห่างออกไปร้อยสองร้อยกิโลเมตร จะทำให้ตอบสนองต่อ peak load ได้ดีขึ้น (มั๊งครับ) ซึ่งกรณีนี้ Flywheel ก็น่าสนใจ

ท่านายกไปพูดไว้ที่โคเปนฮาเกน (อ่าน -ฮาเกน จริงๆ) ว่าจะใช้พลังงานทดแทนเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ ว่าแต่วันนี้ทำอะไรไปแล้วบ้าง มีแผนอะไรบ้างครับ

« « Prev : ส่ง เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ไปโรงพิมพ์แล้ว

Next : เที่ยวงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี ๒๕๕๓ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 nontster ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 12:34

    ไม่รู้ตอนนี้งานวิจัยด้าน Solar Cell เราไปถึงไหนแล้วครับ เคยมีความพยายามในเรื่องนี้เหมือนกัน

    คิดกันขนาดจะเอาแกลบไปทำ เพื่อลดต้นทุนของการนำเข้า Silicon wafers แต่คงไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ยังไง พลังงานแสงอาทิตย์ ก็น่าเสียดายอยู่ที

    ที่บ้านเจาะหลังคาเปลี่ยนเป็บแบบใส แทนแบบทึบ ตอนนี้ที่โต๊ะกินข้าวไม่ต้องเปิดไฟตอนกลางวันครับ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 13:07
    ขอบคุณครับ โครงสร้างของโซล่าร์เซลที่ทำจากสารกึ่งตัวนำ มีสองปัญหาใหญ่คือ (1) ต้องพยายามแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด ในห้องทดลองอาจเป็น 25% ที่ขายในตลาดก็อยู่ประมาณ 18% (2) พลังงานแสงอาทิตย์ที่แปลงไม่ได้ จะเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งจะทำให้เซลแสงอาทิตย์เสียหายได้

    ถ้ามีพลังงานตกกระทบ 1000 วัตต์ต่อตารางเมตร (ถ้าไม่ชอบเลขนี้ ก็เปลี่ยนเอาเองนะครับ) แปลไปใช้ได้ 25% ก็ 250 วัตต์​ ส่วนที่เหลืออีก 750 วัตต์ กลายเป็นความร้อนครับ แล้วมันจะร้อนกว่าเตารีดไฟฟ้าเสียอีก


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.32327198982239 sec
Sidebar: 0.18676400184631 sec