ขึ้นบ้านใหม่ “มูลนิธิ OpenCARE”
อ่าน: 4613ความจริงจะไปหัวหินตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากประชุมเสร็จในช่วงเช้า ไปเปิดอีเมลอ่านถึงได้รู้ว่า วันนี้ทีมงาน OpenCARE จะย้ายเข้าที่ทำการของมูลนิธิ ที่ชั้น 11 อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ก็เลยต้องอยู่กรุงเทพต่ออีกสองคืน
วันนี้เข้าไปที่สำนักงานของมูลนิธิ เค้าจัดไว้หมดเลยครับ ดูฤกษ์ยามมา เป็นฤกษ์อะไรก็ไม่รู้เกี่ยวกับโชคลาภ (เกิดมาไม่เคยได้ยิน) มีรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งไว้ในตำแหน่งประธานของสำนักงาน วางโต๊ะตามหลักฮวงจุ้ย มีซ้อมนั่งเก้าอี้ด้วย ก่อนออกมาก็ช่วยกันเก็บขยะ เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน
ใครจะว่ายังไง ผมก็ไม่สนหรอกนะครับ ผมเห็นความตั้งใจ ความพยายามที่จะเริ่มต้นให้ดี นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการจดทะเบียนมูลนิธิ ก็ได้ความรู้ใหม่ ว่าเดี๋ยวนี้การอนุมัติจบอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ต้องส่งเรื่องไปกระทรวงมหาดไทย และตำรวจสันติบาลอีกแล้ว (ไม่เหมือนกับในอดีต ที่เคยจดทะเบียนมาแล้วมูลนิธิหนึ่ง ใช้เวลานานมาก) เมื่อเป็นอย่างนี้ กระบวนการการจดทะเบียนมูลนิธิคงใช้เวลาอีกไม่นานแล้วครับ
« « Prev : แก่นของความน่าเชื่อถือ
Next : พฤติกรรม 13 อย่างที่เสริมสร้างความเชื่อใจ » »
15 ความคิดเห็น
ยินดีด้วยครับ อิอิ
อนุโมทนา สาธุ
เจริญพร
พี่ก็มีประสบการณ์จดทะเบียนมูลนิธิ โอย…แทบถอดใจ… ในที่สุดเราก็ต้องใช้เข้าพบรัฐมนตรีฯศึกษาธิการ..ทั้งที่ไม่อยากจะใช้วิธีนี้ แต่เวลามันบีบเราจะต้องทำมิเช่นนั้นเสียหายมาก ปัจจุบันมูลนิธินี้ยังอยู่ แต่ก่อนพี่เป็น ผอ. ปัจจุบันลดมาเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นอะไรไม่สำคัญเท่ากับการเอามูลนิธิไปทำงานให้เกิดประโยชน์แก่สังคมครับ
หากระบบง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนก็ดีแล้วครับ
ขออวยพรให้มูลนิธิก้าวหน้าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายครับ
“มูลนิธิ OpenCARE”
เป็นมูลนิธิ ที่ทำงานด้านอะไรบ้างค่ะ เป็นคำถามที่ไม่ฉลาดเลยใช่ไหมค่ะ
OpenCARE ผ่านหลักชัยอีกอันหนึ่ง (ธ.ค. 2550)
อิ่มเอิบ อิ่มใจ….. ขอให้รุ่งเรือง เป็นมูลนิธิที่สร้างสรรงานเพื่อชาติเป็นที่รู้จักในระดับโลก สาธุๆ
ขอบคุณมากค่ะ สนใจ
อยากทราบวิธีการด้วยค่ะ มองเห็นประโยชน์อย่างมหาศาลค่ะ
ต้องจัด OpenCARE session ขึ้นมาซะแล้ว
ความไม่ร่วมมือบางทีก็จงใจ เช่นฉันเป็นกรมที่รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ มีอะไรก็มาดูเอาที่เว็บไซต์ของกรมเองเด่ะ (แต่ไม่ได้คิดว่าคนสติดีที่ไหน จะไปนั่งเฝ้าดูเว็บของกรมตลอดเวลา) แต่บางทีเกิดโดยข้อจำกัด เช่นมีระบบงานเก่า จ้างเอกชนพัฒนา ถ้าจะแก้เรื่องการกระจายข้อมูลสาธารณะออกสู่ประชาชน ก็ทำไม่ได้ หรือข้อมูลที่มีอยู่ เชื่อมต่อกับใครไม่ได้
OpenCARE แก้ปัญหานี้ง่ายๆ โดยเชื่อมต่อกับแต่ละกรมกองสำนักงาน แล้วอ่านข้อมูล (ด้วย “plug-in” ซึ่งเป็น interfce software) เปลี่ยนข้อมูลเฉพาะจาก proprietary format เป็น meta information ที่อิงมาตรฐานที่ชื่อ EDXL (Emergency Data eXchange Language) แล้วกระจายข้อมูล EDXL นี้ไปยังภาคีต่างๆ ก่อนส่งข้อมูล EDXL ให้ OpenCARE แปลงข้อมูลกลับเป็น proprietary format ด้วย plug-in อีกตัวหนึ่ง — ทำให้ข้อมูลต้นทาง กับข้อมูลปลายทาง มี format ที่ต่างกันได้ครับ โปรแกรมส่งไม่ต้องแก้ โปรแกรมรับก็ไม่ต้องแก้ แต่พอจะรู้ว่าหน่วยงานภาคีอื่น มีข้อมูลอะไรบ้าง
วิธีการเดิมใช้โทรศัพท์ไปบอก ซึ่งอาจผิดพลาด/หลงลืมได้ พอเป็น OpenCARE ส่งผ่าน IM ให้ได้ฟรี และถ้าบริษัทโทรศัพท์มือถือร่วมมือ ก็ส่ง SMS ให้ได้ฟรีเช่นกันครับ
แล้วข้อมูลที่กระจายผ่าน OpenCARE มีแหล่งข้อมูลระบุไว้ครับ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เครดิต หรือโดนขโมยซีน
OpenCARE ไม่ได้แย่งงานใครทำ เพียงแต่ทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ และจำเป็นต้องมี
Google มาดู บอก เอ๊ะ ทำไมมันง่ายอย่างนี้ล่ะ ผมก็หัวเราะ บอกเค้าว่ามันอยู่ที่ว่าเราต้องการอะไร จะบรรเทาทุกข์ หรือจะอวดว่าตัวเองเก่ง
เคยอ่านที่รอกอดเขียนถึงตอนเกิดสึนามิ มีฐานข้อมูลมั่วไปหมดแล้วคิดจัดการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆที่ต่างคนต่างทำให้เป็นประโยชน์ประโยชน์ร่วมกัน ยังนึกขอบคุณอยู่ในใจ มันเป็นที่มาของ openCARE ใช่ไหมครับ
นี่คือระบบในฝันของพี่เลยค่ะ ที่คุยไปกับอ.ธวัชชัยในวันที่รอวันนัดพบชาวโกว์ ก็ ฝันจะเห็นสิ่วงเหล่านี้ แถมด้วยสามารถชี้บอกพื้นที่ประบภัยได้ด้วย และละเอียดลงไปถึงระดับบ้านได้ด้วย อยากลองจริงๆว่าจะเกิดขึ้นได้มั๊ย
เชื่อมข้อมูลฐานครัวเรือน + ข้อมูลภูมิศาสตร์(แหล่งอันตราย,สภาพแวดล้อม) + ข้อมูลทิศทางลมฟ้าอากาศ + ……… แล้วเกิดผลคือ ช่วยชีวิตคน…….โดยป้องกันก่อนเกิดเรื่อง…..
ฉุกเฉิน….ป้องกันทันเวลา….แก้เร็ว
ปกติ……คลี่คลายต้นเหตุ….ให้เรื่องฉุกเฉินลดลง……เตรียมความพร้อม…..ให้ฉุกเฉินที่จะเกิดได้แก้เร็ว…ทันเวลาช่วยคน
ฝันนี้จะเกิดยังไง ยังไม่รู้ ขอฝันไว้ก่อน
แต่ถ้ายังหวงข้อมูลเอาไว้ กลัวไม่ได้หน้า ในที่สุดต่างฝ่ายต่างงง มันยังไงกันแน่ แล้วก็จะเกิดคนสั่งการที่ไม่มีข้อมูล ผู้ปฏิบัติก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้ อาสาสมัครที่มาด้วยน้ำใจเต็มเปี่ยมกลับกลายเป็นแรงงานไปซะงั้น
ถ้าเราทำเหมือนเดิม ผลลัพท์ก็เหมือนเดิมครับ ไอทีเป็นเครื่องมือ เข้าใจมันให้ชัดแล้วใช้ให้ถูกทาง ก็จะเกิดประโยชน์ครับ
#11: ใช่ครับ สึนามิเป็นจุดที่ผมคิดว่าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ไหวแล้ว ถึงมีกำลังน้อย แต่ทำน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
#12: ฝันได้ไม่ผิด แต่เวลาจะทำ ต้องตื่นก่อนนะครับ
แค่ฝันก็ยังมีผิดถูกนี่……พอตื่นแล้วตามหาฝันแทบไม่เจอได้นา…..อิอิ