เกษียณอายุ

โดย Logos เมื่อ 14 February 2010 เวลา 20:43 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3346

ร่างกายมนุษย์มีข้อจำกัดเยอะแยะ มีเสื่อมไปเป็นธรรมดา เมื่ออายุมากขึ้น กำลังวังชา เรี่ยวแรงถดถอย ความเบื่อหน่ายพอกพูน ดังนั้นสำหรับมนุษย์เงินเดือน จึงมักจะมีเส้นขีดไว้ที่อายุ 60 ว่าจะต้องเกษียณอายุครับ เส้น 60 ปีนั้น เป็นเส้นสมมุติ ไม่ได้หมายความว่าหมดคุณค่า แต่ก็เป็นกติกาที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มทำงาน ว่าเมื่อหมดเวลาแล้ว ก็หมดเวลา

ถ้าหากเราทำงานแล้วเกิดความผูกพัน อยากเห็นองค์กรพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ควรจะเตรียมผู้ที่จะมายืนอยู่ในตำแหน่งของเรา — ไม่ใช่แค่มาแทนเรา แต่ควรทำได้ดีกว่าเราเสียอีก อย่างนั้นจึงจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย ที่จะมอบไว้ให้แทนความผูกพัน

แน่ล่ะเมื่อถอดหัวโขนออกวางแล้ว ที่แตกต่างออกไปก็เป็นแค่หัวโขน และเครื่องประกอบต่างๆ เราเพียงแต่สวมใส่ชั่วคราวเพื่อทำงานเฉพาะกิจ เมื่องานเลิกแล้วก็วางลง ตัวคนยังเป็นคนคนเดิม ยังมีคุณค่าเช่นเดิม เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ และสิ่งบำรุงบำเรออาจจะไม่เหมือนสมัยที่ยังสวมหัวโขนอยู่ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก ว่าสิ่งที่ได้มา เป็นของชั่วคราว — ไม่ว่าหัวหน้า HR หรือตำราจะบอกว่าอย่างไร ก็ไม่มีคำว่างานของฉันหรอกนะครับ มีแต่งานที่ฉันกำลังทำอยู่ (คือถ้ามันเป็นงานของฉันจริง ก็ทำต่อไปจนตาย แล้วจะพบว่าการที่แบกอะไรไว้เยอะๆ มันหนัก มันทุกข์)

นอกจากนั้น การเกษียณอายุ ยังหมายถึงการปรับตัวของทุกๆ คนด้วย เป็นสิ่งที่มีกำหนดการล่วงหน้า (ยกเว้นรีบตายไปเสียก่อน) เป็นเรื่องที่ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า

สำหรับผู้ที่กำลังจะเกษียณ ผมไม่มีอะไรแนะนำหรอกนะครับนอกจากเรื่องปรับตัว ทุกท่านคงรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร/เตรียมอะไร มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่ทันการแล้วครับ

ขอบคุณ​ @untsamphan ที่บอกมา

ถ้าชอบบันทึกที่ผมเขียน ผมคิดว่าน่าจะชอบวิดีโอชุดนี้ครับ มีห้าตอน 48:32 นาที

« « Prev : Logos เป็นหยัง

Next : รูปประจำบล็อก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 February 2010 เวลา 23:15

    -ฟังแล้วค่ะ  สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นคนที่ช่างสังเกต มีความช่างคิด-คิดต่างที่มีเหตุผลที่ดีและเป็นตัวของตัวเองมากค่ะ คนไทยส่วนมากจะขาดสิ่งเหล่านี้ค่ะ
    -เกษียณแล้วHappyมากค่ะ สำหรับป้าจุ๋มคิดว่า 60 ปีนั้นดีแล้วค่ะ อายุขนาดนี้แล้วควรพักผ่อนหรือไม่ก็ทำอะไรที่มีความสุขและไม่เครียดดีกว่าค่ะ ถ้าทำงานต่อก็อดเครียดไม่ได้ค่ะ ยิ่งตอนหลังมีวัดงานด้วยกะปิ(KPI)…อิอิ ไม่เห็นดีเลย เพราะการวัดแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกงาน บางงานทำKPIลำบากทั้งๆที่งานนั้นดี บางงานไม่มีอะไรมากคนเขียนKPIเก่งสบายไปเลย…แต่ช่างเถอะค่ะ ตอนนี้สบายแล้วค่ะ…รักษาสุขภาพให้ดีรอเลี้ยงหลานดีกว่า(แต่ยังไม่มีความหวังเลย…อิอิ)แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังค่ะ   และขอชื่นชมหลายท่านที่เก่งมากๆยังทำงานต่อได้อีกก็ขอปรบมือให้ค่ะ
    -ขอบคุณค่ะที่นำวิดีโอชุดนี้มาให้ชมค่ะ ได้แนวความคิดที่ดีค่ะ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 February 2010 เวลา 23:44
    การเกษียณอายุ ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดอะไรเลยครับ แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของอิสระและการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ (ซึ่งที่จริงเราก็มีอิสระนั้นอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่มักไม่ค่อยมีเวลาได้คิดไตร่ตรอง เนื่องจากงานประจำทำให้หลงไปได้เหมือนกัน) สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว ก็ผ่านไปแล้วนะครับ ถ้าที่ทำงานเก่าเขาขอให้ช่วย ก็ช่วยได้เท่าที่จะทำให้เขามั่นใจโดยเร็วและก้าวหน้าต่อไปได้ โดยไม่ละเมิดอิสระที่เราเพิ่งได้กลับคืนมา

    ได้ยินมานานแล้วครับว่าจะมีการต่อกำหนดเกษียณออกไปเป็น 65 ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ที่อายุ 60-65 หลายท่านยังทำงานได้ดี แต่ผมคิดว่ามีอีกสองเหตุผลสำคัญครับ คือเป็นการเพิ่มเวลาการออมภาคบังคับ (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) และลดภาระสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุจากภาครัฐ เพราะว่านิยามของผู้สูงอายุก็จะเปลี่ยนไปด้วย

  • #3 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 February 2010 เวลา 10:58

    ยืดเป็น 65 ปี ผมก็เหมือนเดิม….อิอิ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 February 2010 เวลา 18:08
    แหมอาจารย์ครับ เกิน 65 แล้ว ก็ควรจะยอมเป็นผู้สูงอายุเสียทีครับ

    ซึ่งแม้จะเป็นผู้สูงอายุ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรที่มีคุณค่าอีกไม่ได้หรอกนะครับ เส้น 60 หรือ 65 ก็เป็นแค่เส้นสมมุติเท่านั้นเอง

  • #5 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 February 2010 เวลา 20:16

    สุดยอดคำบรรยายเลยครับ
    บางคนคิด แต่ไม่ทำ
    บางคนไม่คิด แต่ทะลึ่งทำ
    บางคนไม่คิด ไม่ทำ
    แต่บางคนคิดแล้วก็ทำ มันจึงจะเกิดประโยชน์ ถึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้
    แต่ผมต้องอยู่ถึง ๗๐ ปีจึงเกษียณ กว่าจะได้เป็นอธิบดีก็ตำน้ำกินแหละ อิอิ

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 February 2010 เวลา 21:42
    เรื่องคิดแต่ไม่ทำ(อยู่กับที่)+ไม่คิดแต่ทำ(เดินถอยหลัง)+ไม่คิดและไม่ทำนี่(อยู่กับที่) ทำให้เมืองไทยล้าหลังมากนะครับท่านอธิบดี ฮี่ฮี่ อวยพรล่วงหน้าเลย หลายๆ ปีก็ยิ่งขลัง

    เป้าหมายร่วมก็ไม่มี ต่างคนต่างทำ แทนที่จะรวมพลัง กลับกลายเป็นชักคะเย่อ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.068096876144409 sec
Sidebar: 0.16689991950989 sec