เกษียณอายุ
อ่าน: 3346ร่างกายมนุษย์มีข้อจำกัดเยอะแยะ มีเสื่อมไปเป็นธรรมดา เมื่ออายุมากขึ้น กำลังวังชา เรี่ยวแรงถดถอย ความเบื่อหน่ายพอกพูน ดังนั้นสำหรับมนุษย์เงินเดือน จึงมักจะมีเส้นขีดไว้ที่อายุ 60 ว่าจะต้องเกษียณอายุครับ เส้น 60 ปีนั้น เป็นเส้นสมมุติ ไม่ได้หมายความว่าหมดคุณค่า แต่ก็เป็นกติกาที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มทำงาน ว่าเมื่อหมดเวลาแล้ว ก็หมดเวลา
ถ้าหากเราทำงานแล้วเกิดความผูกพัน อยากเห็นองค์กรพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ควรจะเตรียมผู้ที่จะมายืนอยู่ในตำแหน่งของเรา — ไม่ใช่แค่มาแทนเรา แต่ควรทำได้ดีกว่าเราเสียอีก อย่างนั้นจึงจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย ที่จะมอบไว้ให้แทนความผูกพัน
แน่ล่ะเมื่อถอดหัวโขนออกวางแล้ว ที่แตกต่างออกไปก็เป็นแค่หัวโขน และเครื่องประกอบต่างๆ เราเพียงแต่สวมใส่ชั่วคราวเพื่อทำงานเฉพาะกิจ เมื่องานเลิกแล้วก็วางลง ตัวคนยังเป็นคนคนเดิม ยังมีคุณค่าเช่นเดิม เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ และสิ่งบำรุงบำเรออาจจะไม่เหมือนสมัยที่ยังสวมหัวโขนอยู่ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก ว่าสิ่งที่ได้มา เป็นของชั่วคราว — ไม่ว่าหัวหน้า HR หรือตำราจะบอกว่าอย่างไร ก็ไม่มีคำว่างานของฉันหรอกนะครับ มีแต่งานที่ฉันกำลังทำอยู่ (คือถ้ามันเป็นงานของฉันจริง ก็ทำต่อไปจนตาย แล้วจะพบว่าการที่แบกอะไรไว้เยอะๆ มันหนัก มันทุกข์)
นอกจากนั้น การเกษียณอายุ ยังหมายถึงการปรับตัวของทุกๆ คนด้วย เป็นสิ่งที่มีกำหนดการล่วงหน้า (ยกเว้นรีบตายไปเสียก่อน) เป็นเรื่องที่ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า
สำหรับผู้ที่กำลังจะเกษียณ ผมไม่มีอะไรแนะนำหรอกนะครับนอกจากเรื่องปรับตัว ทุกท่านคงรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร/เตรียมอะไร มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่ทันการแล้วครับ
ขอบคุณ @untsamphan ที่บอกมา
ถ้าชอบบันทึกที่ผมเขียน ผมคิดว่าน่าจะชอบวิดีโอชุดนี้ครับ มีห้าตอน 48:32 นาที
6 ความคิดเห็น
-ฟังแล้วค่ะ สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นคนที่ช่างสังเกต มีความช่างคิด-คิดต่างที่มีเหตุผลที่ดีและเป็นตัวของตัวเองมากค่ะ คนไทยส่วนมากจะขาดสิ่งเหล่านี้ค่ะ
-เกษียณแล้วHappyมากค่ะ สำหรับป้าจุ๋มคิดว่า 60 ปีนั้นดีแล้วค่ะ อายุขนาดนี้แล้วควรพักผ่อนหรือไม่ก็ทำอะไรที่มีความสุขและไม่เครียดดีกว่าค่ะ ถ้าทำงานต่อก็อดเครียดไม่ได้ค่ะ ยิ่งตอนหลังมีวัดงานด้วยกะปิ(KPI)…อิอิ ไม่เห็นดีเลย เพราะการวัดแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกงาน บางงานทำKPIลำบากทั้งๆที่งานนั้นดี บางงานไม่มีอะไรมากคนเขียนKPIเก่งสบายไปเลย…แต่ช่างเถอะค่ะ ตอนนี้สบายแล้วค่ะ…รักษาสุขภาพให้ดีรอเลี้ยงหลานดีกว่า(แต่ยังไม่มีความหวังเลย…อิอิ)แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังค่ะ และขอชื่นชมหลายท่านที่เก่งมากๆยังทำงานต่อได้อีกก็ขอปรบมือให้ค่ะ
-ขอบคุณค่ะที่นำวิดีโอชุดนี้มาให้ชมค่ะ ได้แนวความคิดที่ดีค่ะ
ได้ยินมานานแล้วครับว่าจะมีการต่อกำหนดเกษียณออกไปเป็น 65 ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ที่อายุ 60-65 หลายท่านยังทำงานได้ดี แต่ผมคิดว่ามีอีกสองเหตุผลสำคัญครับ คือเป็นการเพิ่มเวลาการออมภาคบังคับ (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) และลดภาระสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุจากภาครัฐ เพราะว่านิยามของผู้สูงอายุก็จะเปลี่ยนไปด้วย
ยืดเป็น 65 ปี ผมก็เหมือนเดิม….อิอิ
ซึ่งแม้จะเป็นผู้สูงอายุ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรที่มีคุณค่าอีกไม่ได้หรอกนะครับ เส้น 60 หรือ 65 ก็เป็นแค่เส้นสมมุติเท่านั้นเอง
สุดยอดคำบรรยายเลยครับ
บางคนคิด แต่ไม่ทำ
บางคนไม่คิด แต่ทะลึ่งทำ
บางคนไม่คิด ไม่ทำ
แต่บางคนคิดแล้วก็ทำ มันจึงจะเกิดประโยชน์ ถึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้
แต่ผมต้องอยู่ถึง ๗๐ ปีจึงเกษียณ กว่าจะได้เป็นอธิบดีก็ตำน้ำกินแหละ อิอิ
เป้าหมายร่วมก็ไม่มี ต่างคนต่างทำ แทนที่จะรวมพลัง กลับกลายเป็นชักคะเย่อ