เสร็จกับสำเร็จ
อ่าน: 3812คำสองคำนี้ ดูเผินๆ คล้ายจะใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกัน
เสร็จ (finish) เป็นคำกริยาแปลว่าจบ/ทำให้จบ แต่สำเร็จ (success) นั้น ไม่ใช่แค่จบธรรมดา แต่ยังบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ด้วย
ย้อนกลับไปเรื่องของ KPI และ Balanced Scorecard ผมไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้หรอกนะครับ ทุกเครื่องมือมีวัตถุประสงค์ มีข้อดีข้อเสีย อย่าใช้เครื่องมือโดยไม่เข้าใจเครื่องมืออย่างถ่องแท้ อย่ากำหนด KPI เพียงเพื่อให้ผ่าน KPI โดยง่าย อย่าตั้ง KPI โดยไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ หรือสิ่งที่องค์กรพยายามจะทำ
KPI บางอย่างควรกำหนดลงมาจากระดับสูง เช่นเรื่องเกี่ยวกับทิศทาง และมีบางเรื่องที่ไม่ควรกำหนดลงมา เช่นรายละเอียดของการปฏิบัติการ เพราะว่าเมื่ออยู่สูง จะมองไม่เห็นรายละเอียด/ข้อจำกัดมากนัก แต่ถ้ามองเห็น บางทีอาจเล่นผิดบทบาทไปแล้วก็ได้ ประสบการณ์ช่วยสอน ช่วยเตือนล่วงหน้าได้ ส่วนความรับผิดชอบนั้นก็ต้องมีร่วมกัน แต่ทว่าในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความไว้ใจผู้ปฏิบัติงานให้เขาได้ปฏิบัติอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะร่วมงานกันไปทำไม
ในส่วนของผู้ปฏิบัตินั้น คงต้องแยกแยะระหว่างคำว่าเสร็จกับสำเร็จให้ได้ ถ้าเป็นการบรรยายเพื่อถ่ายทอดความรู้/ประสบการณ์ แค่บรรยายจบ-รักษาเวลาตามกำหนด เป็นการ “เสร็จ” แต่อาจไม่ “สำเร็จ” บรรยายเสร็จ ผู้บรรยายได้พูดในสิ่งที่เตรียมมาพูด แต่ถ้าการบรรยายนั้นประสบความสำเร็จ ผู้ฟังน่าจะได้ประเด็นอะไรไปคิด-ไปทำต่อ ซึ่งยังขึ้นกับองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย
ในเรื่ององค์ประกอบของความสำเร็จ “อย่างสูง” นั้น คุณ bojs เคยกล่าวถึงหนังสือชื่อ Outliers ของ Malcolm Gladwell ผมยังไม่ได้อ่านหรอกครับ แต่อ่านรีวิว และเรื่องย่อของหนังสือเล่มนี้แล้วหลายอัน Gladwell กล่าวถึงกฏหมื่นชั่วโมงตลอดเล่ม กล่าวโดยย่อคือหากใครทำเรื่องใดมาหมื่นชั่วโมงแล้ว เขาน่าจะรู้จริงในเรื่องนั้น จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นเป็นอย่างสูง
In the introduction, Gladwell lays out the purpose of Outliers: “It’s not enough to ask what successful people are like. [...] It is only by asking where they are from (เจ้าเป็นไผ) that we can unravel the logic behind who succeeds and who doesn’t.”
“…We are far too impatient with people when we assess whether someone has got what it takes to do a certain job. We always want to make that assessment after six months or a year. That’s rediculous, you know? The kind of jobs we have people do today are sufficiently complex that they require a long time to reach mastery. And what we should do is to setup an institution instructor that allows people to spend the time and efforts to reach mastery, not judging them prematurely…”
พูดง่ายๆ คือ เวลาตัดสินคน ต้องระมัดระวังครับ
การสอน ไม่ใช่แค่บอกสิ่งที่ผู้สอนอยากจะบอก แต่เป็นกระบวนการที่ทำให้แน่ใจว่าผู้เรียนนำเอาไปใช้ได้จริง
« « Prev : บุพการี
2 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากค่ะ ได้รับสิ่งที่ดีๆ ทีเป็นประโยชน์ แล้วจะปฏิบัติให้ได้ ทั้งเสร็จ และ สำเร็จ
การสอน ไม่ใช่แค่บอกสิ่งที่ผู้สอนอยากจะบอก แต่เป็นกระบวนการที่ทำให้แน่ใจว่าผู้เรียนนำเอาไปใช้ได้จริง
เวลาตัดสินคน ต้องระมัดระวัง
ปีเกิดของพวกผู้ยิ่งใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ น่าจะเป็น ช่วง 1951-1960 นะครับ….อิอิ