เที่ยวงานพฤกษาสยาม (1)

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 22:10 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4242

วันเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันพาพ่อแม่เที่ยว ความจริงก็ไปเที่ยวกันเกือบทุกอาทิตย์นั่นแหละครับ ถ้ามองดูเผินๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเที่ยวนอกบ้านเลย แต่ว่าพ่อผมซึ่งอายุจะ 80 อยู่แล้ว ไม่ค่อยยอมทำกิจกรรม เลยใช้วิธีพาออกนอกบ้าน ให้เดิน ให้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

วันอาทิตย์นี้ แม่อยากไปดูงานพฤกษาสยาม ซึ่งเป็นการแสดงและประกวดไม้หอม จัดที่เดอะมอลล์ บางแค โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และเดอะมอลล์กรุ๊ป ระหว่างวันที่ 12-21 กันยายน 2551

พอแม่ชวน ผมก็ทำหน้าเบ้ ผมไม่ได้อะไรนักหนากับดอกไม้หรอกครับ แม่ก็เลยบอกว่าให้เอากล้องเล็กไปช่วยถ่ายรูปให้แม่หน่อย ในที่สุดก็ไปกันสามคน พ่อ-แม่-ลูก แก๊งสามคนสองร้อย อาละวาดอีกแล้ว

อ่านต่อ »


ผู้รู้เท่าถึงเหตุการณ์เอาตัวรอดได้

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 14:53 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4047

[๖๖๘] ผู้ใด ไม่รู้เท่าถึงเหตุการณ์ อันบังเกิดขึ้นแล้วโดยฉับพลัน ผู้นั้น จะต้อง
ตกอยู่ในอำนาจของศัตรู และต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง.

[๖๖๙] ส่วนผู้ใด รู้เท่าถึงเหตุการณ์ ที่บังเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมพ้น
จากความคับขันอันเกิดแต่ศัตรู และไม่ต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง.

วานรชาดก ขุ. ชา. ๒๗/๖๖๖-๖๖๙/๑๕๔
อรรถกถา

ชาดกนี้ เตือนสติผู้คนว่าให้พิจารณาสิ่งต่างๆ จนกระจ่างก่อนตัดสินใจ อย่าปล่อยไปเพราะมันดูว่าสมเหตุสมผล เป็นไปตามระบบ ตามค่านิยม ฯลฯ เรื่องที่อธิบายความโดยละเอียด (ในลักษณะนิทาน) อยู่ในอรรถกถาครับ


ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เกิดขึ้นจากการไม่ทำอะไร

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3533

พระบรมราโชวาท เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่คณะกรรมการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันจันทร์ ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๑๘

ตามที่ได้ฟังมาเมื่อตะกี้นี้ จะขอยกแต่ข้อที่ได้ตกลงในการประชุมนั้น จะขอยกลงไปเป็น ๓ ข้อแรกก็คือการพัฒนาเจ้าหน้าที่เป็นข้อแรก ให้มีความสามารถที่จะเข้าใจปัญหานั่นเป็นข้อที่ ๒ การปฏิบัติต่างๆ ที่ตั้งใจจะปฏิบัติรวมเป็นข้อ ๒ และข้อ ๓ ก็คือ การหาทุนสำหรับมาดำเนินงาน ข้อแรกการเตรียมตัวและพัฒนาตัวเองให้สามารถที่จะกระทำงานให้ลุล่วงไป เข้าใจว่ากรรมการทุกคน และผู้ที่ทำงานในด้านสังคมสงเคราะห์ตระหนักดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีความเสียสละ มีความรู้ ความรู้ทางวิชาการ และมีความเมตตาจิตประจำตัว แต่ก็พูดง่าย ทำยาก เพราะว่าแต่ละคนย่อมต้องการได้หน้าบ้าง อย่าเพิ่งโกรธ ไอ้การได้หน้านั่นเป็นสิ่งธรรมดาที่สุดในโลก ที่จะอยากให้คนเขาเห็นใจว่าทำ และเป็นสิ่งที่ต้องมีเพราะว่าถ้าไม่มี ถ้าเราทำแล้วไม่มีใครเห็นด้วย เราทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครเลื่อมใส ไม่มีใครที่จะมาช่วยศรัทธานั่นเอง แต่วิสัยของปุถุชนเราย่อมต้องมีความอิจฉา ไม่เข้าใจโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ ฉะนั้นการที่ตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองให้มีความดีเต็มเปี่ยมนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ขอให้ละทิ้งความอิจฉา ริษยา ขอให้ละทิ้งความที่มีอคติต่างๆ จะทำให้งานของแต่ละคนง่ายขึ้นเอง เพราะว่าบางทีเสียเวลาเป็น….ไม่ใช่เป็นชั่วโมง….เป็นแรมวัน แรมเดือน แรมปีกว่าจะเข้าใจกันได้ เพราะอคติ และระหว่างนั้น เงินก็ร่อยหรอไป ในข้อที่สามก็ร่อยหรอไป และกำลังใจต่างๆ ก็ร่อยหรอไป อ่านต่อ »



Main: 0.020807027816772 sec
Sidebar: 0.15310406684875 sec