แนวทางการพัฒนาประเทศตามพระบรมราโชวาท

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 31 March 2013 เวลา 20:32 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3719

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗

ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดี ที่ได้มาร่วมในพิธีมอบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกวาระหนึ่ง และได้ทราบรายงานว่ากิจการของมหาวิทยาลัยดำเนินมาด้วยดี มีผู้สำเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ

วิชาการที่จัดสอนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวโดยส่วนรวมทั้งหมด เป็นวิชาการสำหรับพัฒนาส่งเสริมการประกอบอาชีพความเป็นอยู่ และเศรษฐกิจทั่วไปโดยตรง บัณฑิตของมหาวิทยาลัยนี้ จึงเป็นความหวังของประเทศและของประชาชนทุกคน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความมั่นคงและเศรษฐกิจของชาติ ท่านทั้งหลายจึงควรจะได้ทราบตระหนักถึงข้อนี้ และควรที่จะสำนึกเป็นหน้าที่ที่จะทำตนทำงานให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมโดยสมบูรณ์

การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องตนก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด ดังเห็นได้ที่อารยประเทศหลายประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่าง รุนแรงอยู่ในเวลานี้

อ่านต่อ »


ปฏิบัติธรรม

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 30 April 2012 เวลา 23:42 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3515

พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่คณะผู้แทนพุทธสมาคมทั่วประเทศ
ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย
วันเสาร์ ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๒๓

ในโอกาสที่ผู้ที่เป็นผู้สนใจในพระพุทธศาสนา เป็นสมาชิกของพุทธสมาคมและสมาคมเครือทางพุทธศาสนา และผู้ที่สนใจอื่นๆ ได้มาประชุมกัน เพื่อปรึกษาหารือในปัญหาของพุทธศาสนาในทุกด้าน ได้มาให้พรในโอกาสคล้ายวันเกิด ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ปลาบปลื้ม และทำให้มีความรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง ท่านนายกพุทธสมาคมได้ยกยอปอปั้นอย่างมากว่า เป็นผู้ที่ปฏิบัติทางพุทธศาสนาอย่างชำนิชำนาญ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ลำบากที่จะรับ แต่ก็ได้ขอให้ให้โอวาท

ข้อแรกเนื่องจากที่ได้กล่าวว่า ท่านทั้งหลายหวังในบารมีให้ปกเกล้าบ้านเมืองนั้นก็เป็นข้อหนึ่งที่น่าคิดเพราะว่าบ้านเมืองประกอบด้วยบุคคล และแต่ละบุคคลจะต้องทำด้วยตนเองตามหลักของพระพุทธศาสนา แต่ละคนต้องการอะไร ก็ต้องการความสุขคือความสงบ ความสุขและความสงบนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยตนเอง ฉะนั้น ที่จะให้คนอื่นมาปกป้องรักษาก็เป็นสิ่งที่ยากถ้าตัวเองไม่ทำ อันนี้เป็นข้อที่สำคัญยิ่ง ในพระพุทธศาสนาและผู้ที่ถือตัวว่าเป็นพุทธศาสนิก ต้องพึ่งตัวเองมิใช่พึ่งคนอื่น แต่การที่จะอาศัยคนอื่นก็อาศัยได้โดยดูผู้อื่นที่ปฏิบัติดีชอบ และคอยฟังสิ่งที่ผู้อื่นที่เราเห็นว่าปฏิบัติดีชอบ ได้พูดได้แนะนำดังนี้ก็เป็นสิ่งที่อาศัยผู้อื่นได้ ผู้อื่นจะช่วยเราได้ ฉะนั้น ก็จะต้องมีการพิจารณาของตัวเองว่าผู้ที่น่าที่จะดูการปฏิบัติหรือฟังข้อแนะนำในการปฏิบัติและทำตาม อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคคลได้บรรลุถึงความสำเร็จความสุขได้ อันนี้ก็ได้ชี้แจงตามที่ได้กล่าวมาเมื่อตะกี้

มาถึงปัญหาของพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ลำบากที่สุดที่จะเห็นพระพุทธศาสนาและประโยชน์ของพระพุทธศาสนา เพราะแต่ละคนก็มีกายและใจของตัว แต่ละคนก็มีความรู้หรือปฏิปทาของตัวแล้วแต่ภูมิแต่ชั้น การที่จะปฏิบัติตามพระพุทธศาสนานั้น ย่อมจะเป็นแล้วแต่บุคคล แล้วแต่สภาพของตัว จะเรียกว่าสภาวะหรือสภาพหรือฐานะของตัวฐานะนี้ไม่ได้หมายถึงฐานะทางการเงินการทองหรือความเป็นอยู่ แต่เป็นฐานะของจิตของแต่ละคน ฉะนั้น พุทธศาสนาถ้าว่าไปเป็นสิ่งที่ลุ่มลึก ที่ลำบากที่จะสั่งสอนหรือที่จะเรียนเพราะว่าแต่ละคนจะต้องทำตามฐานะของตัว หรือจะว่าได้ว่าพุทธศาสนามีหลายชนิด แต่ละคนก็มีพุทธศาสนาของตัว ฉะนั้น การที่จะสั่งสอน การที่จะชี้แจง การที่จะฟัง การที่จะเรียนพุทธศาสนานั้น จะต้องพยายามที่จะทำด้วยตนเอง

อ่านต่อ »


งานอาสาสมัคร: บัณฑิตอาสาสมัคร

อ่าน: 3590
พระราชดำรัส พระราชทานแก่บัณฑิตอาสาสมัคร รุ่นที่ ๑๓
และคณะกรรมการประจำสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันอังคาร ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๒๔

ตามที่รายงาน งานของสำนักบัณฑิตอาสาสมัครนี้ได้ดำเนินมาด้วยดี มีผลดี นับว่าเป็นโชคดีของส่วนรวม ที่มีการจัดการฝึกเป็นพิเศษอย่างนี้ แต่ผู้ที่โชคดีที่สุดก็คงเป็นผู้ที่เป็นบัณฑิตอาสาสมัครนี้เอง เพราะเป็นผู้ที่ผ่านการศึกษาขั้นอุดมศึกษามาแล้ว และมีเจตนาที่จะปฏิบัติงานเพื่อเป็นประโยชน์

การมีเจตนาที่จะปฏิบัติงานเพื่อเป็นประโยชน์นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง แต่ว่าเป็นสิ่งที่ยาก เพราะว่าผู้ที่มีความรู้ขั้นอุดมศึกษาแล้วจะไปปฏิบัติงาน ย่อมต้องประสบอุปสรรคมากมาย ถ้าเรามาพิจารณาดู ในประเทศไทยมีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตใหม่ทุกปีจากสถาบันการศึกษาชั้นสูง ขั้นอุดมศึกษา เป็นจำนวนหลายหมื่นคนต่อปี ถ้าหากว่าทุกคน หรือจะว่าไปก็สักครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น มีเจตนาและมีโอกาสที่จะปฏิบัติงานเพื่อให้มีความเจริญในประเทศนี้ เราก็เชื่อได้ว่าเป็นจำนวนที่เพียงพอ แต่เราก็พูดอยู่เสมอว่า ทำไมประเทศไทยนี้ก้าวหน้าช้านัก ก็เพราะว่าเป็นหลักของธรรมชาติ ผู้ที่ศึกษาชั้นสูงแล้วจะนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนเป็นเวลาประมาณ ๓ – ๔ ปี ในสถาบันการศึกษาชั้นสูงขั้นอุดมศึกษา จะไปใช้ความรู้นั้นทันทีก็ยาก เพราะว่าทุกคนแม้จะมีความกระตือรือร้นก็ขาดความชำนาญ และก็อาจจะไม่มีทางที่จะเข้าไปถึงที่ที่ควรจะถึง ฉะนั้น การที่มีสำนักบัณฑิตอาสาสมัครนี้ก็นับว่าเป็นของดี เสียอยู่ว่าในจำนวนบัณฑิตหลายหมื่นคน ปีหนึ่งๆ มีจำนวนผู้ที่อาสาสมัคร และได้เข้ารับการอบรมการฝึกและการปฏิบัติเพียงจำนวนเป็นสิบ อย่างที่วันนี้มี ๔๑ คน ปีก่อนๆ ก็อาจจะมีระหว่าง ๓๐ ถึง ๕๐ คน ถ้านับดูแล้วก็เป็นจำนวนน้อยมาก ฉะนั้น ผู้ที่ได้รับการอบรมและเข้าปฏิบัติงานอย่างนี้ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบไม่ใช่น้อย เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ศึกษาขั้นอุดมศึกษาแล้วจะทำงานเป็นประโยชน์ ได้เร็วขึ้น ตามธรรมดาผู้ที่สำเร็จการศึกษาออกไปทำงานกว่าจะได้ทำประโยชน์ได้อย่าง แท้จริง ก็อายุเข้าไปถึง ๔๐ – ๕๐ แล้ว ดังนี้ก็เท่ากับเสียเวลาของทรัพยากรบุคลากรหรือบุคคลของประเทศ ซึ่งจะต้องคลำหาทางต่อสู้ บางทีก็มีความเข้าใจผิดกันบ้าง มีการกลั่นแกล้งกันบ้าง หรือมีความไม่รู้เฉยๆ บ้าง ถ้าเฉลี่ยแล้วผู้ที่สำเร็จการศึกษาก็อายุ ๒๓ – ๒๔ ว่าสัก ๒๕ จนถึงว่าอายุสัก ๔๕ ก็เป็นเวลา ๒๐ ปีที่จะต้องคลำทาง เสียเวลาไป ๒๐ ปี แต่ถ้าเร่งรัดเวลาที่จะคลำทางนี้ให้เร็วขึ้น ให้เหลือปีเดียว และตั้งใจจริงๆ ก็จะได้กำไรสำหรับในด้านทรัพยากรบุคคลไม่ใช่น้อย

นอกจากนี้ การที่ออกไปศึกษาความจริงหรือพยายามคลำทางนั้น เป็นเวลานานย่อมมีโอกาสที่จะทำให้ท้อใจ คนเราถ้าท้อใจแล้วเป็นคนอันตราย เพราะว่าถ้าเป็นคนที่มีความรู้แล้วท้อใจ ความท้อใจนั้นทำให้การควบคุมจิตใจสติของตัวน้อยลง เพราะว่ามันท้อ ความท้อใจนี้เป็นสิ่งกีดขวางความดีไปได้มาก เพราะว่าไม่ระวังตัว เวลาท้อใจก็เกิดน้อยใจ น้อยใจก็เกิดประชด เปิดโอกาสให้จิตใจรับสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในจิตใจได้ เพราะว่ามีความฟุ้งซ่าน คนไหนถ้าท้อใจสังเกตดีๆ พวกเพื่อนๆ ที่ท้อใจ บางทีคนนั้นพูดฟุ้งซ่าน พูดอะไรไม่ได้เรื่อง แล้วถ้าใครมาชักชวนให้ทำอะไรก็อาจจะเป็นผู้ร้ายไปก็ได้ ทำให้ขาดการพิจารณา คือขาดสตินั่นเอง ฉะนั้น การที่ได้ศึกษาสำเร็จหลักสูตรได้เป็นบัณฑิตแล้ว คือสำเร็จการศึกษาขั้นอุดมศึกษาแล้วออกไป มีความฟุ้งซ่านถูกชักชวนไปในทางที่ไม่ถูก ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ความรู้ที่มีอยู่ในตัวก็ถูกใช้ไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ก็เท่ากับทำลาย ถ้าคนโง่ๆ ไม่รู้เรื่อง หรือคนที่ไม่มีโอกาสที่จะได้รับความรู้เป็นกำลังนี้ ถ้าไม่มีกำลังถูกชักชวนไปทำอะไรก็ไม่ค่อยเสียหายนัก แต่คนไหนที่มีความรู้เป็นกำลังแล้วถูกชักชวนไปในทางที่ไม่ถูก ก็อันตราย เพราะว่ากำลังที่มีความรู้นั้นเป็นกำลังหลอกลวง ทำให้เกิดผลเสียได้มากมาย อันนี้ไม่ได้พูดถึงความเสียหายที่เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น เกิดแน่นอน แต่ที่เราเป็นห่วงก็เป็นผลเสียต่อส่วนรวม การที่ฝึกเป็นพิเศษและปฏิบัติเป็นพิเศษ มีผู้อุปการะ มีผู้ที่คอยแนะนำก็ทำให้ข้อนี้ที่ผู้ที่ไม่ได้มีโอกาสได้เผชิญ คือการคลำหาทางเป็นเวลานาน และอันตรายที่เกิดขึ้นที่ได้ยกไว้เพียงอย่างเดียว อันตรายอย่างอื่นก็ยังมีอีกมาก

ฉะนั้น การที่ท่านทั้งหลายขึ้นชื่อว่าเป็นอาสาสมัคร ก็หมายความว่าตนเองอาสาที่จะปฏิบัติงาน นับว่าเป็นสิ่งที่เป็นโชคลาภของตนเอง ที่ได้สมัครแล้วทางสำนักก็เลือกไว้ ก็เชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้ดีที่สุดตามที่ได้เรียนมา และที่จะเรียนรู้ด้วยการเปิดหูเปิดตาและรับอบรม ที่ท่านทั้งหลายจะทำงานก็จะสังเกตว่าวิชาที่ได้เรียนมาเป็นประโยชน์ จะเป็นวิชาใดก็ตามก็เป็นประโยชน์ แต่ว่างานที่อยู่ข้างหน้าจะเห็นได้ว่าไม่ใช่งานที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่ เรียนมาเป็นส่วนใหญ่ ที่เราเรียนเป็นเฉพาะส่วนเดียวของงาน หรือเป็นส่วนประกอบส่วนเดียว อาจจะเป็นประมาณหนึ่งในสิบของงานทั้งหมด เช่น ที่ได้แจ้งได้รายงานว่า จะออกไปปฏิบัติงานเพื่อที่จะช่วยพัฒนาหมู่บ้าน ในหมู่บ้านนั้นย่อมมีผู้ที่อาศัยในหมู่บ้าน มิฉะนั้นก็ไม่ใช่หมู่บ้าน ผู้ที่อาศัยในหมู่บ้านนั้นก็เป็นคนเหมือนเรา ก็ต้องมีอาหารใส่ท้อง ต้องมีเสื้อใส่ ต้องมีความรู้ คือต้องมีโรงเรียนสำหรับลูกหลาน ต้องมีสิ่งทุกอย่าง ก็สรุปได้ว่าสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นต่อร่างกายและใจของแต่ละคน สิ่งเหล่านั้นที่จะได้มาจะต้องอาศัยหลักวิชามากหลายและพร้อมกัน คือไม่ใช่ว่าคนหนึ่งจะต้องอาศัยเพียงแต่หลักวิชาการปกครองที่จะอยู่ได้ จะต้องสามารถที่จะทำมาหากิน ทำมาหากินในด้านเกษตรกรรมก็จะต้องสามารถที่จะไถนาพรวนดินให้ได้ ก็จะต้องรู้เหมือนกัน อันนี้การปกครองก็ไม่ได้ว่าด้วยการไถนา แต่ว่าวิชาการไถนาก็ต้องใช้เหมือนกัน ฉะนั้น ผู้ที่มีความรู้ใดก็ย่อมต้องรู้ว่ามีความรู้อื่นๆ ที่ต้องมาประกอบด้วย แต่ละคนก็ได้เรียนมาในวิชาเฉพาะของตน ก็จะต้องเปิดหูเปิดตาว่าในชีวิตของแต่ละคนมีวิชาอื่นตั้งเยอะแยะ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่เรียนจบเป็นบัณฑิต และออกไปทำงานโดยไม่มีการฝึกฝนหรือระมัดระวังตัวเกิดความฟุ้งซ่านได้ เพราะว่าจะน้อยใจว่าตัวไม่ได้เรียนอะไรแต่ตัวก็ได้ปริญญา ตัวเป็นบัณฑิตมีปริญญาไปอวดเขา เสร็จแล้วคนเขาก็เยาะเย้ยว่ามีแต่เศษกระดาษ ฉะนั้น ถ้าทุกคนตั้งใจที่จะไปดูเปิดหูเปิดตาในการงาน ก็จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะว่าที่เรียนมาโดยเฉพาะนั้นก็เป็นประโยชน์ และโดยที่ไปร่วมมือกับคนอื่นที่เรียนอย่างอื่นโดยเฉพาะก็สามารถที่จะปฏิบัติ งานของตัวได้อย่างดี ทั้งที่ได้รับการอบรมฝึกฝนก็เข้าใจว่าไปในแนวความคิดนี้ว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกันและควบคุมจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน ก็จะได้รับผลสำเร็จอย่างดีงาม เมื่อได้รับผลสำเร็จอย่างดีงาม แล้วก็จะเป็นประโยชน์สำหรับตัวเอง เพราะว่าตัวเองมีความภูมิใจว่าทำงานอะไรที่ดี ได้รับการยกย่องชมเชยเราก็ภูมิใจอีกที ทั้งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะว่าถ้าท้องที่ที่เราไปช่วยได้รับประโยชน์ ก็นับว่าทำให้เกิดความมั่งคั่งมั่นคงขึ้น ส่วนรวมของประเทศชาติก็ย่อมจะต้องดีขึ้น ทุกคนก็มีความสุข ทุกคนก็มีความพอใจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ได้พยายามชี้แจงฝึกให้พวกเรา ได้มีความรู้ มีความสามารถ ก็ภูมิใจ เพราะว่างานของท่านก็เป็นผลสำเร็จที่ดี สำคัญอยู่ที่ทุกคนจะต้องตั้งความเห็นให้เหมาะสม หมายความว่าตั้งความเห็นในงานของตัวว่ามีจุดประสงค์อะไร และก็ปฏิบัติตรงไป จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ที่จริงก็ได้เคยพูดกับรุ่นก่อนๆ นี้ในด้านว่าแต่ละคนจะได้รับประโยชน์เป็นสำคัญ อาจจะไม่เข้าใจดีนัก แต่ถ้าอธิบายอย่างที่อธิบายเมื่อกี้นี้อาจจะเข้าใจดีขึ้น ถ้าทุกคนเข้าใจและทั้งรุ่นเก่าได้ทำความเข้าใจให้ดี สามร้อยคนที่ได้รายงานทั้งหมดนี้จะเป็นกำลังของส่วนรวม เป็นทางที่จะทำให้เป็นประโยชน์ได้เต็มเปี่ยม และอาจจะทำให้ผู้อื่น ได้ทบทวนผู้อื่น ให้มีความคิดอย่างนี้ได้ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาขั้นอุดมศึกษาในประเทศไทยเป็นจำนวนหลายหมื่นคนก็จะ มีความหวังขึ้น ไม่เกิดความน้อยใจเมื่องานของตัวไม่ค่อยสำเร็จ ก็เป็นการสร้างให้การศึกษาขั้นอุดมศึกษานี้เป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น แล้วก็ปัญหาต่างๆ อุปสรรคต่างๆ ปัญหาในทางความเดือดร้อนที่มีอยู่ในประเทศ ก็จะคลี่คลายไปได้ด้วยดี

ฉะนั้น ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจทำความเข้าใจในงานของตัวให้ดีตั้งแต่ต้น แล้วก็พยายามทำตามที่อาสาสมัคร ทำงานด้วยความตั้งใจที่แน่ จะใช้คำว่าด้วยอุดมคติที่สูงก็ได้ ขอให้ทุกคนอย่าให้กำลังใจลดลงไป รักษากำลังทั้งกาย ทั้งใจให้ดี เพื่อที่จะปฏิบัติงานเป็นประโยชน์ เป็นความสำเร็จสำหรับตนเอง เป็นประโยชน์เป็นความสำเร็จเป็นความก้าวหน้าสำหรับส่วนรวม ก็ขอให้ได้ประสบแต่สิ่งที่ดีงาม มีความสำเร็จในงานการทุกอย่าง ทำให้เกิดความปีติยินดี หมายถึงความเจริญ ก็ขอให้ทุกคนได้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง.


เกียรติ

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 November 2008 เวลา 6:59 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3032

พระบรมราโชวาทเรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
เนื่องในโอกาสพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชั้นสายสะพายแก่ข้าราชการ จำนวน ๑๘๘ คน
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๑๔
ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต
วันพฤหัสบดี ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕

ข้าพเจ้ายินดีที่ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์แก่ท่านทั้งหลาย และขอให้ถือว่าอิสริยาภรณ์นี้เป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ได้ปฏิบัติงานมาด้วยความเข้มแข็ง ด้วยความตั้งใจดี จนกระทั่งเป็นผู้ที่ควรยกย่อง และแต่ละท่านได้ปฏิบัติงานในสาขาที่เชี่ยวชาญของท่านและได้ทำประโยชน์มากมาย

การที่จะทำประโยชน์แก่งานของตัวนั้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เป็นทางพัฒนาแก่อาชีพหรือแก่แนวงานของตนแต่ต้องคิดถึงว่าในปัจจุบันนี้ งานของแต่ละคนก็ต้องพัวพันกันอย่างมาก และถ้าถึงขั้นผู้ใหญ่เหมือนที่ท่านเป็นผู้แล้ว ก็ต้องนึกถึงว่า งานของตัวในสาขาของตัวจะเจริญได้ ก็ต้องประสานกับงานในสาขาอื่นๆ จึงจะทำให้งานของส่วนรวมเป็นปึกแผ่นและก้าวหน้า การได้สายสะพายนี้ก็เป็นทั้งเกียรติทั้งความรับผิดชอบในตัว เพราะว่าผู้ที่ได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรตินี้ มีคนส่วนมากนับถือว่าเป็นผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ แต่บางทีก็เป็นทางที่จะทำให้คนนินทาได้เหมือนกัน เพราะบอกว่าพวกที่ใส่สายสะพายสีเขียวๆ แดงๆ เดินกันว่อน ทำให้เขาอาจรำคาญหมั่นไส้ ความรำคาญหมั่นไส้นี้อาจมีมูลก็ได้ แต่ว่าถ้าทุกคนที่ได้รับมีจิตใจที่มั่นคงแข็งแรง มั่นใจในตัวเองว่าได้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งจริงๆ มิได้ย่อท้อต่ออุปสรรค จนกระทั่งได้มาเป็นผู้ที่ได้รับการเชิดชู ก็ไม่ต้องเดือดร้อน ฉะนั้น ขอให้ถือว่าการได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรตินี้ จะยิ่งทำให้ทุกคนเข้มแข็ง แข็งแรงในงานการ ในงานของบ้านเมืองของส่วนรวม

อ่านต่อ »


หลังวิกฤติ

อ่าน: 4357

กระแสพระบรมราโชวาทเรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ ในโอกาสเข้าเฝ้า ฯ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร
วันเสาร์ ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖

ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มีโอกาสพบปะกับนักเรียนนักศึกษาทั้งหลาย ผู้เป็นผู้แทนของนักเรียนและนักศึกษาอีกมากหลาย และทราบดีว่าในระยะนี้มีความสะเทือนใจมาก โดยได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ทำให้มีความรู้สึกเป็นพิเศษ เรื่องที่ได้ผ่านมานี้ย่อมเป็นสิ่งที่น่าสะเทือนใจมากจริง ๆ แต่ว่าถ้าเราทุกคนจะพิจารณาดูแล้วก็จะต้องถือว่าเป็นบทเรียน และเป็นสิ่งที่จะเป็นรากฐานสำหรับอนาคตได้ ฉะนั้นเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจึงต้องรับการพิจารณาอย่างรอบคอบ ในเบื้องต้นก็ขอแสดงความชื่นชม แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์ที่น่าหนักใจปานใด แต่ความร่วมมือของเหล่านักเรียนนักศึกษาก็ทำให้สามารถกลับคืนสู่สภาพปรกติในไม่ช้าในเวลาอันสั้น ที่เห็นได้ชัดอย่างยิ่งก็เช่นการจราจร ซึ่งในเวลาที่ปั่นป่วน มีเหล่าลูกเสือได้มาช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งทำให้สถานการณ์เบาบางลงไปอย่างยิ่ง นอกจากนี้เวลามีเหตุอะไร ทุกคนก็ได้ช่วยกันเพื่อให้ระงับเหตุ อันนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเมืองของเราแม้จะมีความปั่นป่วนได้กลับคืนสู่สภาพปรกติได้ และอย่างที่อธิบดีได้กล่าวว่านานาประเทศได้มีความยุ่งยาก แต่ประเทศไทยแม้จะมีความยุ่งยากก็ยังอยู่ได้ มั่นคงได้ อันนี้เป็นความลับ ฉะนั้นทุกคนจะเป็นนักเรียน จะเป็นนักศึกษา จะเป็นครูในสถาบันใดก็ตาม ตลอดจนประชาชนทั่วไปก็จะต้องสำนึกถึงข้อนี้ซึ่งสำคัญ คือคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด มีศาสนาใด มีอาชีพใด ย่อมต้องช่วยซึ่งกันและกัน ช่วยกันอุ้มชูชาติบ้านเมืองคือส่วนรวมให้อยู่ได้ ข้อนี้ได้พูดมาเสมอ และคงได้ยินจากหลายคนที่ให้คำแนะนำให้โอวาทว่าทุกคนต้องนึกถึงส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ที่ต้องเห็นแก่ส่วนรวมเป็นที่ ตั้งนั้นก็เพราะเหตุว่า แต่ละคน แต่ละบุคคลต้องอาศัยส่วนรวมเป็นที่อยู่อาศัย ถ้าส่วนรวมอยู่เย็นเป็นสุขแต่ละบุคคลก็อยู่เย็นเป็นสุข ฉะนั้นทุกคนมีหน้าที่ที่จะสร้างให้ส่วนรวมมีความมั่นคงและความสงบ

อ่านต่อ »


การจัดการกับความแตกต่าง

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 2 October 2008 เวลา 5:21 ในหมวดหมู่ การเมือง การปกครอง กฏหมาย #
อ่าน: 3775

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ
แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ วิทยาลัยการทัพอากาศ
โรงเรียนเสนาธิการทหาร โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๕

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มามอบปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ วิทยาลัยการทัพอากาศ โรงเรียนเสนาธิการทหาร โรงเรียนเสนาธิการทหารบก โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ อีกวาระหนึ่ง ขอแสดงความชื่นชมกับทุกๆ ท่านที่ได้รับเกียรติ และได้รับความสำเร็จในการศึกษา

ปฏิบัติการอันเป็นหลักใหญ่ในการป้องกันรักษาความมั่นคงของชาติ ตามที่ทราบกันทั่วไป ได้แก่การสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นอิสระและความเสมอภาคให้เกิดมีในราษฎรส่วนใหญ่ ทางราชการทุกๆ ฝ่ายจึงถือเป็นหน้าที่อันสำคัญ ที่จะนำเอาระเบียบปฏิบัติต่างๆ ออกเผยแพร่ และหยิบยื่นให้ประชาชนได้ใช้โดยทั่วถึง

อันชุมชนของเราทั่วทั้งประเทศนั้น แท้จริงยังมีสภาพที่แตกต่างเหลื่อมล้ำกันอยู่มาก เนื่องจากมีเหตุมีปัจจัยปรุงแต่งไม่เหมือนกัน ชุมชนที่ตั้งในแหล่งที่ดี ที่อุดมสมบูรณ์ย่อมมีความเจริญ ประชาชนย่อมมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการศึกษาแข็งแรงมั่นคงพร้อมที่จะรับเอาระเบียบปฏิบัติของทางราชการไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ชุมชนที่อยู่ในที่ซ่อนเร้นและแร้นแค้น จะตกอยู่ในสภาพที่ล้าหลัง พื้นฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการศึกษาของประชาชนจะไม่มั่นคงพอที่จะรับเอาวิธีการและระเบียบแบบแผนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อทางราชการพยายามนำไปให้ใช้ ก็จะเกิดเป็นภาระหนักขึ้นแก่ชุมชนนั้น เขาจะมีความรู้สึกว่าถูกบังคับ และต้องการดิ้นรนเพื่ออิสรภาพ และผลที่เกิดตามมาจะมีอย่างไร ก็ไม่จำเป็นต้องกล่าว เพราะฉะนั้น ในการที่ท่านทั้งหลายจะทำงานป้องกันประเทศต่อไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ดุลยพินิจ พิจารณาสถานการณ์และสภาพการณ์ในท้องถิ่นและในตัวประชาชนให้เข้าใจโดยถ่องแท้ เพื่อตัดสินได้ถูกต้องว่าที่ใดควรต้องใช้มาตรการอย่างไร ราษฎรในที่บางแห่งนั้นท่านจะต้องช่วยเหลือเขา เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงชีวิต การครองชีวิต การอยู่ร่วมกันเป็นต้นขึ้นมา เมื่อเขาสามารถยกฐานะความเป็นอยู่ขึ้นมาได้ มีความรู้จักรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ในตนเองในส่วนรวมแล้วจึงนำเอาระเบียบเอากฎเกณฑ์ของการปกครองมาใช้แก่เขาได้ ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งปวงได้ใช้ความรู้ความสามารถ ความฉลาดรอบคอบ ความเสียสละ และความกล้าหาญอดทน ปฏิบัติงานซึ่งมีความสำคัญยิ่งของท่านให้ได้ผลสมบูรณ์เต็มที่เพื่อความวัฒนาถาวรและความผาสุกของชาติไทยของเราสืบไป

ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จความเจริญทุกๆ ประการ ทั้งมีความสุขความสวัสดีตลอดกาลทุกเมื่อโดยทั่วกัน.


ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เกิดขึ้นจากการไม่ทำอะไร

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3533

พระบรมราโชวาท เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่คณะกรรมการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันจันทร์ ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๑๘

ตามที่ได้ฟังมาเมื่อตะกี้นี้ จะขอยกแต่ข้อที่ได้ตกลงในการประชุมนั้น จะขอยกลงไปเป็น ๓ ข้อแรกก็คือการพัฒนาเจ้าหน้าที่เป็นข้อแรก ให้มีความสามารถที่จะเข้าใจปัญหานั่นเป็นข้อที่ ๒ การปฏิบัติต่างๆ ที่ตั้งใจจะปฏิบัติรวมเป็นข้อ ๒ และข้อ ๓ ก็คือ การหาทุนสำหรับมาดำเนินงาน ข้อแรกการเตรียมตัวและพัฒนาตัวเองให้สามารถที่จะกระทำงานให้ลุล่วงไป เข้าใจว่ากรรมการทุกคน และผู้ที่ทำงานในด้านสังคมสงเคราะห์ตระหนักดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีความเสียสละ มีความรู้ ความรู้ทางวิชาการ และมีความเมตตาจิตประจำตัว แต่ก็พูดง่าย ทำยาก เพราะว่าแต่ละคนย่อมต้องการได้หน้าบ้าง อย่าเพิ่งโกรธ ไอ้การได้หน้านั่นเป็นสิ่งธรรมดาที่สุดในโลก ที่จะอยากให้คนเขาเห็นใจว่าทำ และเป็นสิ่งที่ต้องมีเพราะว่าถ้าไม่มี ถ้าเราทำแล้วไม่มีใครเห็นด้วย เราทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครเลื่อมใส ไม่มีใครที่จะมาช่วยศรัทธานั่นเอง แต่วิสัยของปุถุชนเราย่อมต้องมีความอิจฉา ไม่เข้าใจโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ ฉะนั้นการที่ตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองให้มีความดีเต็มเปี่ยมนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ขอให้ละทิ้งความอิจฉา ริษยา ขอให้ละทิ้งความที่มีอคติต่างๆ จะทำให้งานของแต่ละคนง่ายขึ้นเอง เพราะว่าบางทีเสียเวลาเป็น….ไม่ใช่เป็นชั่วโมง….เป็นแรมวัน แรมเดือน แรมปีกว่าจะเข้าใจกันได้ เพราะอคติ และระหว่างนั้น เงินก็ร่อยหรอไป ในข้อที่สามก็ร่อยหรอไป และกำลังใจต่างๆ ก็ร่อยหรอไป อ่านต่อ »


ความกล้าหาญ อิสระ และการกระทำเหนือหน้าที่

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 September 2008 เวลา 3:30 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4427

พระบรมราโชวาท เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่ คณะกรรมการจัดงาน “ฉัตรมงคลรำลึก” ปี ๒๕๑๔
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันจันทร์ ที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๑๕

ขอขอบใจที่สมาชิกสโมสรไลออนส์ทั่วประเทศที่ได้จัดงานฉัตรมงคลรำลึก เพื่อที่จะช่วยในการกุศลและตามจุดประสงค์ต่างๆ ที่ได้กล่าวมานี้ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดงานฉัตรมงคลรำลึกในปีนี้ ก็ขอขอบใจที่ได้ให้พร และได้สนับสนุนมาเป็นครั้งที่ ๕ แล้ว นับว่าเป็นกำลังใจอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานต่างๆ ที่จะต้องขอบใจก็คือที่สโมสรไลออนส์ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือให้ส่วนรวมมีความก้าวหน้า และได้สอดส่องให้ได้เห็นการงานของสมาชิกไลออนส์เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ในเรื่องสารานุกรมสำหร้บเยาวชนไลออนส์ได้สนับสนุนมาตั้งแต่ต้น ก็นับว่าเป็นกำลังใจที่จะทำ แต่ก็ต้องแจ้งว่างานในการสร้างสารานุกรมนี้ค่อนข้างจะยุ่งยากและละเอียดมาก จึงยังไม่มีผลที่ประจักษ์มาให้เห็น แต่จุดประสงค์ก็ยังคงเดิม คือสร้างเป็นสารานุกรมเพื่อที่จะให้เยาวชนและผู้ใหญ่ด้วยได้ มีโอกาสที่จะหาความรู้ ซึ่งทำเป็นขั้นๆ สำหรับทุกขั้น ตั้งแต่เด็กถึงผู้ที่มีอายุมากขึ้นไปก็จะได้ประโยชน์จากสารานุกรมนี้ เหตุที่มุ่งในจุดประสงค์นี้ จึงทำให้งานยากและจะต้องทำด้วยความละเอียด แต่ก็จะต้องเร่งให้ทำให้สำเร็จเพื่อประโยชน์ดังที่เคยได้แจ้งไว้แล้ว ในส่วนที่สมาชิกไลออนส์ทั่วประเทศได้ปฏิบัติมา ก็นับว่าได้ทำด้วยเจตนาที่จะช่วยให้ส่วนรวมของเรามีความก้าวหน้าและมีความผาสุก ซึ่งก็นับว่าเป็นงานที่น่าชมอย่างยิ่ง

อ่านต่อ »


ข้อพึงระวังของการเผยแพร่ความคิดทางเดียว

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 September 2008 เวลา 0:29 ในหมวดหมู่ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย #
อ่าน: 3362

พระราชดำรัส เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่คณะกรรมการอำนวยการโครงการรายการมหาวิทยาลัยทางอากาศ
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันอังคาร ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๑๗

ขอขอบใจและชมเชยท่านทั้งหลายในโครงการนี้ และได้ปฏิบัติมาเพื่อให้เป็นผลตามที่ได้ตั้งใจไว้ คือถึงประชาชนให้สนใจในวิชาการต่างๆ สำหรับให้สามารถที่จะดำรงชีวิตให้ก้าวหน้า การที่มาบอกว่าขอโอวาทหรือแนวทางนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่คนที่ขอนั้นง่าย เพราะว่าพูดอยู่เสมอว่าทำ โครงการแล้วก็ขอโอวาทแล้วก็ขอพระบรมราโชวาทต่างๆ ที่ได้มาจากพระยุคลบาท แต่พระยุคลบาทนั้นนะเดินไปลำบากเหมือนกัน แล้วก็จะเจริญรอยไปก็อาจผิด เพราะว่าการที่ให้ไปก็อย่างนั้น จะทำให้เห็นได้ว่าไปที่ไหนที่ไหน บางทีไปอย่างไม่ใช่ว่ามีแผนที่จะตั้งไว้ก่อน มีแผนอยู่อย่างหนึ่งว่าไปเห็นอะไรที่ขัดข้องตรงไหน เราพยายามจัดการ พยายามกระตุ้นให้ผู้มีหน้าที่โดยตรงปฏิบัติ และให้ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงมีกำลังใจที่จะปฏิบัติตามที่มีโครงการที่วางไว้อยู่แล้วในการปกครองตนเอง ฉะนั้นการที่จะเอารอยพระยุคลบาทมาเป็นมหาวิทยาลัยทางอากาศนั้น ก็จะผิดหวังเพราะว่าท่านรู้แล้วนั่นเอง แต่ถ้าพูดถึงหลักต่างๆ เมื่อฟังคำแถลงเมื่อตะกี้ ก็มีประเด็นสำคัญที่อยากจะพูดถึง คือโครงการใดถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้ได้ผลตามที่มุ่งหวังนั้น ด้วยความตั้งใจแท้ ไม่มีแฝง ย่อมเป็นโครงการที่จะทำงานได้ผลมาก แต่ว่าโครงการมหาวิทยาลัยทางอากาศนี้แฝงง่าย แต่ละคนที่เป็นกรรมการไม่ใช่ว่าจะตำหนิติเตียน แต่แต่ละคนก็เป็นคน อาจนึกถึงว่าเป็นทางที่จะแพร่ความคิดของตน ส่วนตัวของตน ไม่ใช่หลักวิชา เป็นความคิดของตนเองเป็นส่วนบุคคล ก็จะพยายามใช้มหาวิทยาลัยทางอากาศเป็นตลาดเป็นที่แพร่ความคิดของตน เพื่อความพอใจของตน ซึ่งข้อนี้ ถ้าความคิดนั้นดีก็ไม่เป็นไร แต่ความจริงคนเรานะไม่ใช่พระอรหันต์ เรามีความรู้สึกอยากที่จะให้คนอื่นมาคิดอย่างเรา ฉะนั้นอาจผิดพลาดขึ้นได้ข้อหนึ่ง

ข้อที่สอง สำหรับเรื่องอันตรายของการแพร่ความคิด อาจมีความคิดคนอื่นมาในด้านที่เรียกว่า…… ไม่อยากเรียกว่าลัทธิ…… เพราะว่าถ้าพูดถึงลัทธิแล้ว ก็จะเกิดถามว่าลัทธิคืออะไร แล้วก็เกิดจะต้องมีวิสัชนากันใหญ่……ยาวแต่ก็หมายความว่าจะต้อง…… จะเรียกว่าอะไร……แนวความคิดที่จะโน้มใจให้คนคิดถึงเหมือนกันกับลัทธิเหมือนกัน ความคิดนั่นเกิดขึ้น บางทีความคิดหลักรากฐานของแนวความคิดนั้นถูกต้องแล้วคืออย่างประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยมีหลายอย่างหลายวิธี แล้วก็มีทางดีทางเสียของลัทธิ ถ้าสมมุติว่าเราพูดออกไป ผู้ฟังไปเข้าใจในทางเสียของลัทธิ ก็แพร่คอนเซปท์เป็นพอลูชั่นไป ฉะนั้นต้องระวังเหมือนกัน แต่ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้ว อย่างที่กล่าวข้างตน อันตรายนี้ก็น้อยลง น้อยมาก และควบคุมได้ก็ในขั้นแรกนี้ ถ้าเผื่อว่าความบริสุทธิ์ใจมีอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็นับว่าโครงการนี้ได้ผลแน่นอน ต่อไปเรื่องมหาวิทยาลัยนี้ เราก็รู้ดีว่าในสมัยนี้ มหาวิทยาลัยคืออะไร ไม่ใช่สถานศึกษา เป็นสถานที่ที่จะรวมพลัง เพราะว่าเราเอาอย่าง เราไม่มีความเป็นตนของตนเอง ที่จะนึกว่ามหาวิทยาลัยเป็นแหล่งที่ศึกษา มาถือว่าเป็นที่ที่จะมารวมพบรวมคน เพื่อที่จะแสดงพลังทั้งครูทั้งนักเรียน ถ้ามีมหาวิทยาลัยทางอากาศ จะรวมคนทางอากาศได้อย่างไร แต่ถ้าถือว่ามหาวิทยาลัยเป็นแหล่ง……หรือเป็น……การจัดการอะไรอย่างหนึ่ง สำหรับแพร่ความรู้ ก็เชื่อว่าจะได้เห็น แต่ว่าจะไม่ได้ผลในทางที่ต้องการว่ามหาวิทยาลัยนี้ เป็นแหล่งรวมคน มีอิทธิพลหรือพลัง ฉะนั้นในลำดับที่สองนี้ก็คงไม่มีความสำเร็จ

อ่านต่อ »


ทิศไหน

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 September 2008 เวลา 0:43 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3256

พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่ทหารรักษาพระองค์
ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
วันเสาร์ ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๒๐

ข้าพเจ้าและพระราชินียินดีมาก ที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางเหล่าทหารรักษาพระองค์ และได้เห็นความพร้อมเพรียงเป็นสง่าของทหารทั้งหลาย ในพิธีตรวจพลสวนสนามวันนี้ ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคน และขอสนองพรกับทั้งน้ำใจไมตรีนั้นด้วยใจจริงเช่นเดียวกัน

คำมั่นสัญญาที่ได้กล่าวปฏิญาณเมื่อครู่นั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นสัจวาจาที่มีความสำคัญลึกซึ้ง ซึ่งแสดงว่าทุกคนมีความจงรักภักดีอย่างแนบแน่นในชาติไทย และมีเจตนาอันแน่วแน่ ที่จะปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประเทศชาติด้วยความสามารถ ด้วยความเสียสละ และด้วยชีวิตซึ่งเมื่อปฏิบัติตามแล้ว จะเป็นเกียรติแก่ตนอย่างสูง เพราะเท่ากับได้ทำหน้าที่ของชายชาติทหารอย่างสมบูรณ์ ตามเยี่ยงอย่างที่บรรพชนได้ประพฤติสืบต่อกันมา ทั้งจะยังความเจริญสวัสดีให้เกิดแก่ตัว แก่ผืนแผ่นดินไทยของเรายั่งยืนตลอดไปด้วย

สถานการณ์บ้านเมืองในทุกวันนี้ เป็นที่ทราบแน่แก่ใจของเราแล้วว่ายังไม่น่าปลอดภัยและวางใจ ยังมีการบุกรุกคุกคามชาติ ทั้งด้วยกำลังรบและการใช้กลอุบายทำลายความมั่นคงทุกด้าน รวมทั้งการแทรกแซงให้เกิดการแตกแยกกัน พูดได้ว่า ถ้าหากจิตใจของคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ก็อาจแบ่งแยกแตกกันไปแล้วก็ได้ ทหารจึงต้องมีความสำนึกในชาติอย่างแนบแน่นลึกซึ้ง ต้องตั้งสติให้มั่น ต้องใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาและเรื่องทั้งปวงที่เกิดขึ้น อย่างรอบคอบถี่ถ้วนเป็นพิเศษ ไม่ให้หลงกลของฝ่ายผู้ไม่มุ่งดีต่อส่วนรวม นอกจากการป้องกันประเทศตามหน้าที่โดยตรงแล้ว ทหารยังต้องถือเป็นหน้าที่สำคัญด้วย ที่จะต้องสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่น โดยนำหลักยุทธการมาใช้ให้สอดคล้องกันไปกับการสร้างความมั่นคงทางด้านอื่นๆ ที่เรากำลังต้องเร่งรีบดำเนินการอยู่ สำคัญที่สุดขอให้ทุกคนพยายามฝึกหัดใช้ความคิดพิจารณา ตัดสินใจให้ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว กล้าหาญ และทำงานให้สอดคล้องปรองดองกับทุกฝ่ายด้วยความมั่นใจและความสามารถ ยึดถือเอาประโยชน์ส่วนใหญ่ เอกราช อธิปไตย และความเป็นไทยของเราเป็นเป้าหมายอันสูงสุด

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลพิภพ กับทั้งผลแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจในชาติบ้านเมือง จงบันดาลให้ทหารทั้งหลายมีความปลอดภัยจากศัตรูหมู่ภัยและความชั่วร้ายทั้งปวง ให้มีความเข้มแข็งสมบูรณ์ด้วยกำลังกาย ใจและสติปัญญา สามารถทำหน้าที่น้อยใหญ่ทุกประการให้บรรลุผลเสิศ บังเกิดความมั่นคงปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองแก่ประเทศชาติ ทั้งขอให้ประสบแต่ความสุข ความก้าวหน้า ความสวัสดีมีชัย และความสำเร็จในสิ่งพึงประสงค์จงทั่วหน้ากัน.



Main: 0.25326013565063 sec
Sidebar: 0.3954918384552 sec