นิวาปสูตร

8 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 October 2010 เวลา 16:35 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4083

พระมหาชัยวุธ ส่งลิงก์ของพระสูตรนี้มาให้เมื่อสองวันก่อนครับ ท่านบอกมาด้วยว่า พระสูตรนี้ น่าอ่านมาก (ความเห็นส่วนตัว) แล้วบอกด้วยว่า คงไม่เขียน ยกให้คุณโยมตามสมควรเลย กราบอนุโมทนาด้วยครับ — เมื่อสองวันก่อน ผมขอเวลาไว้สองวัน ตอนนี้ก็ครบกำหนดแล้ว

ข้อความของพระสูตร อ่านจากพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐได้ที่นี่

ผมจะไม่ยกเอาข้อความในลิงก์มาแสดงซ้ำ แต่จะย่อและโยงส่วนที่คิดว่าเกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน

พระสูตรนี้มีลักษณะ recursive พวกหนึ่งเห็นเหตุแล้วไม่รู้จึงพลาด พวกสองเรียนรู้จากพวกหนึ่ง(ซ้ำ)ทำอีกอย่างหนึ่งก็พลาดเหมือนกัน พวกที่สามเรียนรู้จากพวกที่หนึ่ง(ซ้ำ)และสอง(ซ้ำ)จึงทำอีกอย่างหนึ่งแต่ก็พลาดอีก พวกที่สี่เรียนรู้จากสามพวก(ซ้ำซ้ำซ้ำ)และไม่ข้องแวะกับสาเหตุจึงรอดไป

อ่านต่อ »


โนรา มุทิตา

9 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 6 October 2010 เวลา 21:40 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4592

เรื่องเริ่มตั้งแต่ไปเยี่ยมฤๅษีอ้นช่วงหน้าหนาวปีที่แล้วครับ ระหว่างไปดูดาวบนหลังคา ได้กลิ่นไม้หอมอันหนึ่ง หอมมากเหมือนดอกส้มจากแคว้นโพรวองซ์ในฝรั่งเศสที่แม่ให้ใส่รถไว้ซองหนึ่ง (คล้ายกับบุหงาแต่อยู่ในซองกระดาษ) ป้าจุ๋มซึ่งนั่งรถผมบ่อยก็บอกว่ากลิ่นเหมือนกันเลย หอมชื่นใจ ก็เลยออกปากถามไถ่ฤๅษีอ้น ได้ความว่าเป็นดอกโนราครับ [ข้อมูลน่าอ่าน] และเพราะว่าสนใจ ป้าจุ๋มกับผมเลยได้กันมาคนละสองถุง

คุณ Fiyero ผู้เขียนบันทึกให้ความรู้เกี่ยวกับโนราข้างบน พูดไว้ตอนท้ายว่า

บทความนี้ก็มีกลิ่นหอมของดอกไม้มาสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในชีวิตนะครับ การดำเนินชีวิตที่แสนสั้นของคนเรานั้นควรยึดหลักความถูกต้องและคุณธรรมจริยธรรมที่ดี เหมือนกับโคลงโลกนิติบทข้างล่างนี้ที่แปลความได้ว่า “แม้ดอกไม้จะหอมเพียงไร ก็เดินทางได้เพียงลมพา แต่ความหอมของความดีที่ผู้มีศีลธรรมกระทำนั้น จะได้รับการเชิดชูไกลกว่าที่ดอกไม้จะส่งกลิ่นไปถึงได้”

หอมกลิ่นดอกไม้ที่ นับถือ
หอมแต่ตามลมฤา กลับย้อน
หอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ ศีลสัตย์ นี้นา
หอมสุดหอมสะท้อน ทั่วใกล้ไกลถึง

ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองครับ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกท่านที่คิดดีทำดีตลอดไปครับผม

ช่างเข้ากับอาจารย์วรากรเหลือเกิน รู้มาว่าปีนี้อาจารย์จะเกษียณอายุ ก็อยากจะแสดงความขอบคุณที่อาจารย์ยอมให้ป้าจุ๋มไปเที่ยวกับพวกเรา นอกเหนือไปจากงานที่ทุ่มเททำมาทั้งชีวิตครับ

ผมอยากให้ต้นไม้ เพราะต้นไม้มีชีวิต เติบโตงอกงามได้ ก็เลยไปตลาดนัดธนบุรีเมื่อปลายเดือนก่อน เพื่อเลือกหาต้นไม้ — เจอแต่ไม้ประดับที่มีชื่อเลิศหรู ซึ่งก็เป็นเพียงชื่อที่คนตั้งให้ ล่อลูกค้าจิตอ่อน

ดูไปดูมาไม่รู้จะหาอะไร ไปลงเอยที่โนราครับ เป็นไม้โบราณหายากแล้ว แต่หอมได้ใจ และไม่ได้หอมพร่ำเพื่อ คือหอมเฉพาะดอก และออกดอกสวยหน้าหนาว (รูปประกอบจากบล็อกในลิงก์แรก)

นัดกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าอีกสัปดาห์หนึ่งจะหามาเอาสองต้น ต้นหนึ่งไปบ้านป้าจุ๋ม อีกต้นจะอยู่บ้านผม แล้วก็เกิดอุบัติเหตุครั้งแรก พอวันนัด โทรไปหากลับบอกไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เตรียมไว้ เฮ้ย! จะเอาไปให้ผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุนะ อยู่ดีๆ มาเบี้ยวได้อย่างไร คนขายก็ขอโทษขอโพย เฮ้อ…ไม่เป็นไร คนเราผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้ตัวแล้วไม่ผิดซ้ำสอง ก็ไม่เป็นไร ผมก็ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเอาสองต้นนะ นัดกันว่าจะไปรับวันนี้

วันนี้ไปรับ เฮ้ยอีก!! มีต้นเดียว ถามว่าทำไมถึงมีต้นเดียว คนขายบอกว่าก็ไม่รู้้ว่าจะมารับหรือไม่ จะไม่รู้ได้ยังไงในเมื่อทั้งโทรมาตาม และยืนยันตั้งหลายครั้ง

อ่านต่อ »


หลังคาสีขาว

อ่าน: 3750

บันทึกนี้เป็นเรื่องโลกร้อนครับ

โลกโดนดวงอาทิยต์เผาอยู่ชั่วนาตาปี แม้ไม่มีมนุษย์ยุคอุตสาหกรรมกำเนิดขึ้นในโลก ต่อให้ไม่มีการค้นพบเชื้อเพลิงฟอสซิล โลกก็มีการเปลี่ยนแปลงภาวะอากาศเป็นช่วงๆ ตลอดมา ทั้งอุณหภูมิเฉลี่ย ทั้งระดับคาร์บอนไดออกไซด์ ต่างเปลี่ยนแปลงขึ้นลงช้าๆ ทำให้เกิดยุคน้ำแข็งเป็นระยะๆ ด้วยน้ำนี่ล่ะครับ น้ำที่เป็นไอและเป็นละออง เป็นตัวที่กั้นไม่ให้ความร้อนที่แผ่ทะลุลงมาถึงผิวโลก สะท้อนกลับออกไปสู่อวกาศ ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นได้

และเนื่องจากพื้นผิวโลก เป็นน้ำอยู่ถึงสามในสี่ เมื่อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำระเหยเป็นไอได้ดีขึ้น เกิดเป็นการป้อนกลับแบบบวก คือเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นจะมีเมฆมากขึ้น ซึ่งไปกั้นไม่ให้ความระอุที่โดยแสงแดดเผา แผ่ทะลุบรรยากาศออกไป

สมมุติฐานที่ว่าใช้หลังคาสีอ่อน จะสะท้อนความร้อนออกไปได้นั้น เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่เคยมีใครศึกษาจนสุดทาง จนกระทั่งห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Berkeley (LBNL) ได้ประกาศว่าหากเปลี่ยนสีของหลังคาในเมืองทั้งหมดเป็นสีขาว จะเหมือนเป็นการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ถึง 300 ล้านคัน

อ่านต่อ »


ฝายชะลอน้ำได้… ขั้นบันไดก็ชะลอน้ำได้

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 October 2010 เวลา 20:41 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 5316

บันทึกนี้เป็นเทคสอง อันแรกอยู่ตรงนี้ครับ

ฝายชะลอน้ำ เป็นการนำอะไรบางอย่าง ไปวางกีดขวางกีดขวางทางน้ำไหลในร่องน้ำ เมื่อน้ำไหลช้าลง ก็จะยกตัวขึ้นเหนือฝาย ฝายในลักษณะนี้ไม่ได้กักน้ำไว้ที่ต้นน้ำทั้งหมด แต่ค่อยๆ ปล่อยน้ำลงมาตามร่องน้ำ เป็นการลดความรุนแรงของน้ำหลาก และเก็บความชุ่มชื้นไว้ในป่าต้นน้ำ ทำให้ต้นไม้เติบโต เมื่อมีต้นไม้มากขึ้น ดินไม่ถูกแดดเผา ฝนจึงตกได้ง่ายขึ้น เป็นเรื่องที่น่าจะคิดกันอย่างจริงจังแล้วนะครับ ไม่มีน้ำมันชีวิตจะยากลำบากขึ้นมาก แต่ไม่มีน้ำจืดเราตายแน่

แน่นอนว่ามนุษย์ตัวกระจ้อยร่อย ไม่มีพลังพอที่จะต่อกรกับธรรมชาติ ฝนจะตกแดดจะออก จะไปทำอะไรได้ ถ้าฝนตกเบาๆ ขนาด 10 มม. แต่ตกในพื้นที่ 1000 ตารางกิโลเมตร คิอเป็นปริมาณน้ำ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ถ้าตกในที่ราบก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าไหลกระจายกันไป ซึมลงดินไปบ้าง ยังไงก็ไม่ท่วมเกิน 10 มม. (หรือ 1 ซม.) เดี๋ยวเดียวก็หายไป

แต่ถ้าพื้นที่เป็นภูเขาเช่นจังหวัดทางตะวันตก หรือทางภาคเหนือ ปริมาณน้ำที่ตกบนภูเขา จะไหลไปตามร่องน้ำ ตามหุบเขา ซึ่งแคบกว่าพื้นที่ของภูเขา แล้วไปรวมกันตามลำธาร คลอง และแม่น้ำ ปริมาณน้ำมหาศาลนี้ แม่น้ำลำคลองรับไม่ไหวหรอกครับ จึงเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนไร่นาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปตามๆ กัน

อ่านต่อ »


มหาสมัยสูตร

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 1 October 2010 เวลา 16:11 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3764

คิดอยู่นานเหมือนกันครับ ว่าจะหาประเด็นอะไรได้กว้างๆ จากมหาสมัยสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรใหญ่ ที่เหมาะกับผู้อ่านบล็อกนี้ซึ่งมีหลากหลาย

ตัดสินใจปล่อยบันทึกนี้ออกเพราะเพื่อนที่อเมริกาบอกมาว่าเพื่อนคนออกจากงาน การจ้างงานเป็นความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผมเรียนรู้มาว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฝุ่นตลบ อย่าเพิ่งถามเหตุผล เพราะว่าบ่อยมากเลยที่แยกไม่ออกระหว่างความจริงกับความคิดอันบิดเบี้ยว ควรตั้งข้อสังเกตไว้เสมอเมื่อเจอเรื่องที่มีเหตุผลสอดประสานกันมากมายจนผิดปกติ แล้วใครที่อธิบายทุกอย่างได้กระจ่างแจ้ง สอดคล้องสมเหตุผลไปหมด ก็ไม่ธรรมดาหรอกครับ เผอิญไม่เคยเจอมาเลยสักคน

มหาสมัยสูตรเป็นพระสูตรใหญ่ [มีตำนาน] ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อพระพุทธบิดานิพพานแล้ว พระญาติวงศ์ศากยะกับวงศ์โกลิยะ เกิดจะเปิดศึกแย่งน้ำในแม่น้ำโรหินี พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้าม [เกร็ดพระพุทธรูปปางห้ามญาติ] พระญาติทั้งสองฝ่าย ฝ่ายละ 250 องค์ ขออุปสมบท และบรรลุอรหัตผลทั้ง 500 รูป

ตามอรรถกถา เมื่อพรหมและเทวดารู้ว่ามีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์อีก 500 รูป ประชุมอยู่ จึงไปเฝ้า”ชม”

อ่านต่อ »



Main: 0.048042058944702 sec
Sidebar: 0.1522319316864 sec