กระแสพระราชดำรัสพระราชทานหลังภัยธรรมชาติ
เมื่อคืนวันที่ 25 ต่อกับวันที่ 26 ตุลาคม 2505 ได้เกิดพายุโซนร้อนชื่อ “แฮเรียต” พัดผ่านทางตอนใต้ของประเทศไทย ยังความเสียหายให้เกิดแก่จังหวัดภาคใต้ถึง 12 จังหวัด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สถานีวิทยุ อส.พระราชวังดุสิต ประกาศโฆษณาเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ และสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทรงรับและพระราชทานสิ่งของด้วยพระองค์เอง ความช่วยเหลือได้หลั่งไหลเข้าสู่สถานีวิทยุ อส. ชั่วระยะเวลา 1 เดือน มีผู้บริจาคทรัพย์ถึง 11 ล้านบาท และสิ่งของประมาณ 5 ล้านบาท นับเป็นเงินและสิ่งของบริจาคปริมาณมหาศาลเมื่อเทียบกับค่าของเงินในขณะนั้น
จังหวัดที่ได้รับความเสียหายมาก คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับ กรมประชาสงเคราะห์ได้แจกอาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค จัดซ่อมแซมบ้าน ที่พัก และสร้างที่พักชั่วคราว ให้ผู้ประสบภัยอยู่อาศัยตลอดจนเครื่องมือประกอบอาชีพ ได้แก่ อวน และช่วยเหลือสิ่งสาธารณประโยชน์ คือ มอบเงินให้เป็นทุนประเดิมแก่วัดวาอาราม มัสยิด ศาลเจ้าและสถานสงเคราะห์เด็กที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับบุตรหลานของผู้ประสบภัย ที่กำพร้าบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสียชีวิต โดยอยู่ในความดูแลของกรมประชาสงเคราะห์
นอกจากนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเงินให้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างโรงเรียนประชาบาลที่ถูกพายุพัดพัง รวม 12 โรงเรียน ใน 6 จังหวัดภาคใต้ และภายหลัง พระราชทานชื่อว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1,2,3,4,5 ถึง 12 ตามลำดับ
เมื่อได้ช่วยเหลือประชาชนในระยะแรกแล้ว ยังเหลือเงินอีก 3 ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริว่า เงินสามล้านบาทนี้ ควรตั้งเป็นทุนเพื่อหาดอกผลสำหรับสงเคราะห์เด็ก ซึ่งครอบครัวต้องประสบวาตภัยภาคใต้ และขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูประการหนึ่งและสำหรับสงเคราะห์ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศอีกประการหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานเงิน 3 ล้านบาท ให้เป็นทุนประเดิมก่อตั้งมูลนิธิ และพระราชทานนามว่า “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อยู่ใน “พระบรมราชูปถัมภ์” กับทรงดำรงตำแหน่ง พระบรมราชูปถัมภกแห่งมูลนิธินี้ด้วย ชื่อของมูลนิธินี้หมายความว่า “พระราชา” และ “ประชาชน” อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน เป็นการแสดงน้ำพระทัยว่า เวลาทำงานควรจะได้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย
กระแสพระราชดำรัส
พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๖
วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๕ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย
ในโอกาสขึ้นปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ นี้ ข้าพเจ้ามีความยินดีขอให้พรปีใหม่แก่ท่านทั้งปวงอีกวาระหนึ่ง
เป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไปว่า ทุกวันนี้โลกเรามีแต่ความไม่สงบ ภัยอันตรายที่เราคาดไม่ถึง มองไม่เห็น อาจกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของชาติใดเมื่อไรก็ได้ นับเป็นโชคดีของชาติไทยเราที่สามารถรักษาตัวได้ดีตลอดปีที่ผ่านมา
แม้กระนั้นเราต้องมาพบกับภัยอันเกิดแต่ธรรมชาติ คือ วาตภัยในภาคใต้ ตามที่ท่านทราบอยู่แล้ว ภัยนั้นกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก ที่ล้มตายไปก็มีมิใช้น้อย ทรัพย์สมบัติก็สูญหายอันตรายพินาศ ภัยพิบัติครั้งนี้นำความสลดใจมาสู่ชาวไทยทั้งมวลอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ก็เป็นข้อที่น่ายินดีอยู่อย่างหนึ่งที่ภัยพิบัติครั้งนี้ ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นน้ำใจประชาชนทั้งประเทศว่า มีความสามัคคีปรองดองกันเพียงไร ความสามัคคีและเมตตาที่ท่านแสดงให้เห็นประจักษ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ชาติไทยของเราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่จะมีมาในภายภาคหน้า
เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวถึง ก็คือ เรื่องความไมตรีกับต่างประเทศ งานในด้านนี้ในรอบปีที่ผ่านมา ไทยเราได้เชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ให้สนิทสนมยิ่งขึ้นอีก ข้าพเจ้าและพระราชินีได้มีโอกาสไปเจริญทางสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ และเราได้พยายามทำให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ รู้จักเมืองไทยดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกประการหนึ่ง เราได้ต้อนรับประมุขของมิตรประเทศ ที่มาเยี่ยมเราและท่านทั้งหลายผู้เป็นเจ้าของบ้าน ก็ร่วมกันช่วยต้อนรับอย่างพร้อมเพรียงกันทุกครั้ง ทำให้มิตรผู้มาเยี่ยมเยียนซาบซึ้งในไมตรีจิตของคนไทย ดังนี้เป็นทางส่งเสริมมิตรภาพที่มีต่อกันให้มั่นคงยิ่งขึ้น
งานของชาติที่จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากท่านทั้งหลายยังมีอีกมาก งานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นงานที่ทุกๆ คน จะต้องมีส่วนช่วยเหลือ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของชาติ เพื่อให้ชาติของเรามีความสงบสุข ขอท่านทั้งหลายจงอย่าได้ประมาท ควรพร้อมอยู่เสมอที่จะเผชิญต่อภัยทั้งปวงที่จะมีมา ซึ่งอาจน่ากลัวยิ่งกว่าภัยธรรมชาติก็ได้ ขอท่านทั้งหลายจงช่วยกันป้องกันภัยอันตรายใดๆ อันจะมีมาในภายหน้า ดังเช่นบรรพบุรุษของเราได้ฟันฝ่ามาแล้วในอดีต และรักษาความเป็นไทยของชาติไว้ให้ยืนยง
โอกาสนี้ ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองท่านทั้งปวง และดลบันดาลให้ทุกๆ ท่านมีความสุขความเจริญประสบแต่สิ่งพึงปรารถนาในปีใหม่นี้ทั่วกัน.
« « Prev : การสื่อสารฉุกเฉิน (2)
Next : คนหนึ่งคน จะทำอะไรได้ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "กระแสพระราชดำรัสพระราชทานหลังภัยธรรมชาติ"