ประชุมสุภาษิตสุนทรภู่ (1)
อ่าน: 6404วันที่ ๒๖ มิถุนายน เป็นวันสุนทรภู่ (2329-2398) กวีเอกของโลกซึ่ง UNESCO ได้ยกย่องไว้ตั้งแต่ปี 2529 แล้ว
ก็คุยกับป้าจุ๋มในลานปัญญานี้ แล้วพบเรื่องน่าแปลกใจที่ตรงกัน ว่าเดี๋ยวนี้หาซื้อหนังสืออันเป็นผลงานของท่านไม่ได้เลย มีแต่ที่ตัดตอนออกมาเป็นส่วนย่อยๆ เท่านั้นที่ยังพอหาได้บ้าง แต่ก็กระจัดกระจายอยู่มาก
ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจพิมพ์ใหม่อีกที ให้อยู่ในรูปแบบของข้อความที่ค้นหาได้ด้วย search engine เพื่อประโยชน์แห่งการศึกษา โหลดต้นฉบับมาอ่านได้ที่นี่ครับ ตัวสะกดคงไว้ตามต้นฉบับซึ่งตีพิมพ์ในปี 2498 แต่ผมแยกหนังสือให้เห็นชัด และมีทั้งการสะกดแบบโบราณเช่น เปน และการสะกดสมัยใหม่เช่น เป็น
โดยเหตุที่หนังสือมีความยาวมาก จึงขอแยกสุภาษิตจากพระอภัยมณีออกไป
จะอ่านก็ได้นะครับ แต่เตือนว่ายาว ผมตั้งใจจะให้ใช้ search engine (และ control-F) ค้นหามากกว่า
ในภาษาโบราณนั้น ใช้ฟองมัน (๏) เป็นเครื่องหมายเริ่มบทกวี และใช้อังคั่นคู่ (๚) วางไว้ตรงท้ายเพื่อแสดงว่าจบบทกวี มีคำอธิบายเรื่องนี้ไว้บนเว็บของราชบัณฑิตยสถาน แต่น่าเสียดายที่เว็บนี้ติดไวรัสมานานแล้วครับ ไม่มีใครแก้ไข
นิราศพระบาท
๏ เจ้าของตาลรักหวานขึ้นปีนต้น
ระวังตนตีนมือระมัดมั่น
เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครัน
ถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล ๚
๏ เห็นเทพีมีหนามลงราน้ำ
เปรียบเหมือนคำคนพูดไม่อ่อนหวาน
เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้าราราน
ถึงหนามกรานก็ไม่เหน็บเหมือนเจ็บทรวง ๚
นิราศภูเขาทอง
๏ ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเปนน่าอาย ๚
๏ ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตจะคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน ๚
๏ ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า
ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา
ทั้งผัดหน้าจับกระเหม่าเหมือนชาวไทย
โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง
เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย
นี่หรือจิตคิดหมายมิหลายใจ
ที่จิตใครจะเปนหนึ่งอย่าพึงคิด ๚
๏ ถึงบางพูดพูดดีเปนศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้พูดชั่วตัวตายทำลานมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ๚
๏ ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด
บังเกิดชาติแมลงหวี่มีในไส้
เหมือนคนพาลหวานนอกย่อมขมใน
อุปไมยเหมือนมะเดื่อเหลือระอา ๚
๏ โอ้เจดียะที่สร้างยังร้างรัก
เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น
กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ
จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น
เปนผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น
คิดก็เปนอนิจจังเสียทั้งนั้น ๚
นิราศวัดเจ้าฟ้า
๏ อสุภกรรมฐานประหารเหตุ
หวนสังเวชว่าชีวังจะสังขาร์
อันอินทรีย์วิบัติอนัตตา
ที่ป่าช้านี่แหละเหมือนกับเรือนตาย
กลับหายกลัวมัวเมาไม่เข้าบ้าน
พระนิพพานเพิ่มพูนเพียงสูญหาย
อันรูปเหมือนเรือนโรคให้โศกสบาย
แล้วต่างตายตามกันเปนมั่นคง ๚
๏ ถึงเกาะเรียนเรียนรักก็หนักอก
แสนวิตกเต็มตรองเจียวน้องเอ๋ย
เมื่อเรียนกนจนจบถึงกบเกย
ไม่ยากเลยเรียนได้ดังใจจง
แต่เรียนรักรักนักก็มักหน่าย
รักละม้ายมิได้สมประสงค์
ยิ่งรักมากพากเพียรยิ่งเวียนวง
มีแต่หลงลมลวงน่าทรวงโทรม ๚
นิราศสุพรรณ
๏ คลองคดลดเลี้ยวล้วน หลักตอ
เกะกะระเรือรอ ร่องน้ำ
คดคลองช่องแคบพอ พายถ่อ พ่อเอย
คนคดลดเลี้ยวล้ำ กว่าน้ำลำคลอง ๚
๏ ชุมนักผักตบซ้อน บอนแซง
บอนสุพรรณหั่นแกง อร่อยแท้
บอยบางกอกดอกแสดง เหลือแหล่ แม่เอย
บอนปากยากจะแก้ ไม่สิ้นลิ้นบอน ๚
นิราศอิเหนา
๏ จะหักอื่นขืนหักก็จักได้
หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
สารพัดตัดชาดประหลาดนัก
แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ ๚
นิราศพระแท่นดงรัง
๏ เห็นขนุนหนามหาไม่น่ากิน
แต่รสกลิ่นภายในชอบใจคน
เหมือนรูปชั่วใจดีเจ้าพี่เอ๋ย
ไม่เลือกเลยสุดแท้แต่กุศล
ที่รูปดีใจชั่วตัวซุกซน
ไม่เปนผลคบยากลำบากใจ ๚
๏ มีเพื่อเล่นก็ไม่เหทือนกับเพื่อตาย
มีเพื่อนชายก็ไม่เหมือนกับเพื่อนชม
ถึงจะมีวิมานสถานทิพย์
ให้ลอยลิบเลิศมนุษย์สุดปฐม
ถ้าไม่มีคู่เคียงเรียงภิรมย์
จะเตรียมตรมตรึกหาเปนอาจิณ ๚
นิราศพระประถม
๏ ที่ท้ายบ้านศาลเจ้าของชาวบ้าน
บวงสรวงศาลเจ้าผีบายศรีตั้ง
เห็นคนทรงปลงจิตอนิจจัง
ให้คนทั้งปวงหลงลงอบาย
ซึ่งคำปดมดท้าวว่าเจ้าช่วย
ไม่เห็นด้วยที่จะได้ดังใจหมาย
อันเจ้าผีนี้ถึงรับก็กลับกลาย
ถือเจ้านายที่ได้พึ่งจึงจะดี
แต่บ้านนอกคอกนาอยู่ป่าเขา
ไม่มีเจ้านายจึงต้องพึ่งผี ๚
๏ ถึงถิ่นฐานบ้านเพนียดเปนเนินสูง
ที่จับจูงช้างโขลงเข้าโรงหลวง
เหตุเพราะนางช้างต่อไปล่อลวง
พลายทั้งปวงจึงต้องถูกมาผูกโรง
โอ้อกเพื่อนเหมือนหนึ่งชายที่หมายมาด
แสนสวาทหวังงามมาตามโขลง
ต้องติดบ่วงห่วงรักชักฉะโลง
เสียดายโป่งป่าเขาคิดเศร้าใจ ๚
นิราศเมืองเพชร
๏ ถึงคลองนามสามสิบสองคดคุ้ง
ชวากวุ้งเวียนซ้ายมาฝั่งขวา
ให้หนูน้อยคอยนับในนาวา
แต่หนึ่งมาถ้วนสามสิบสองคด
อันคดอื่นหมื่นคนกำหนดแน่
เว้นเสียแต่ใจมนุษย์สุดกำหนด
ทั้งลวงล่องอเงี้ยวทั้งเลี้ยวลด
ถึงคลองคดก็ยังไม่เหมือนใจคน ๚
๏ โอ้เอ็นดูหนูน้อยร้องหอยเหาะ
ขึ้นไปเกาะกิ่งตลอดยอดพฤกษา
ล้วนจุ๊บแจงแผลงฤทธิ์เขาปลิดมา
กวักตรงหน้าเรียกให้มันได้ยิน
จุ๊บแจงเอ๋ยเผยฝาหาข้าวเปียก
แม่ยายเรียกจะให้ไปกฐิน
มั้งงวงทั้งงาออกมากิน
ช่วยปัดลิ้นปัดยุงกระทุงราย
เขาร่ำเรียกเพรียกหูได้ดูเล่น
มันอยากเปนลูกเขยทำเงยหงาย
เยี่ยมออกฟังทั้งตัวกลัวแม่ยสย
โอ้นึกอายด้วยจุ๊บแจงแกล้งสำออย
เหมือนจะรู้อยู่ในเล่ห์เสน่หา
แต่หากว่าพูดยากเปนปากหอย
เปรียบเหมือนคนจนทุนทั้งบุญน้อย
จะกล่าวถ้อยออกไม่ได้ดังใจนึก ๚
โคบุตร
๏ เจ้าโฉมงามทรามรักของแม่เอ๋ย
อย่าลืมเลยจงจำคำแม่สอน
ภัสดาอุปมาเหมือนบิดร
จงโอนอ่อนฝากองค์พระทรงฤทธิ์
สรงเสวยคอยระวังอย่าพลั้งพลาด
เมื่อไสยาสน์ผ่อนพร้อมถนอมจิต
ถ้าท้าวโศกแม่อย่างสรวลจงควรคิด
ระวังผิดอย่าให้ผ่านวรกาย
ผัวเคียดแม่อย่าเคียดทำโกรธตอบ
เอาความชอบมาดับให้สูญหาย
ถึงท้าวรักก็อย่าเริงละเลิงกาย
ครั้งระคายแล้วมักมีราคีคาว
ความลับแม่อย่าแจ้งแถลงไข
จงกล้ำกลืนกลบไว้อย่าให้ฉาว
แม้ปากชั่วตัวจะดีก็มีคาว
พระทัยท้าวเธอจะแหนงระแวงความ
อันหญิงชั่วผัวร้างนิราศรัก
อัปลักษณ์ข้าคนจะหยาบหยาม
มารดาพร่ำร่ำสอนจงทำตาม
แล้วโฉมงามแต่งกายให้สายใจ ๚
๏ ใครเกิดมาถ้าจิตนั้นติดปราชญ์
ย่อมหมายมาดขันตีเปนที่ตั้ง
เหมือนเขาสุเมรุมาศไม่พลาดพลั้ง
ใครชิงชังเหมือนหนึ่งว่าพายุพาน
ถึงแสนลมที่จะหมายทำลายโลก
ไม่คลอนโยกหนักแน่นเปนแก่นสาร
ใครเกิดจิตอิจฉาเปนสามานย์
สันดาลพาลผู้ใดทำกรรมอนันต์ ๚
๏ ตามโบราณก่อนเก่าท่านกล่าวมา
ว่าญาติใครได้ดีเขามีทรัพย์
ตัวแค้นคับเข็ญใจอย่าไปหา
ถึงรักแรงแขงขันได้สัญญา
อนาถาแล้วไม่นับเขาอับอาย ๚
๏ อันมนุษย์สุดจะเชื่อมันเหลือปด
พูดสบถแล้วสบัดไม่ขัดสน
เพราะแต่คำน้ำจิตคิดประจญ
ปากเปนผมใจเปนพาลเหลือมารยา
ใครหลงลิ้นกินลูกยอก็พอม้วย
ต้องตายด้วยปากมนุษย์ที่มุสา
คนทุกวันมันมิซื่อถือสัจจา
สู้สัตว์ป่าก็ไม่ได้ใจลำพอง ๚
๏ พระโคบุตรสุดสังเวชด้วยเหตุทรัพย์
จึงประทับหยุดนั่งบัลลังก์ผา
เรียกภูติผีปีศาจมาดาษดา
แล้วตรัสว่าเองนั่งคอยฟังคำ
เรามีจิตคิดสังเวชจะเทศนา
พวกเองมาหลงใหลอยู่ในถ้ำ
ดูอยู่เปล่าราก็เห็นว่าเปนกรรม
ทุกคืนค่ำเฝ้าแหนแสนศฤงคาร
ไม่กินอยู่ดูเหมือนบ้าน่าทุเรศ
เที่ยวเปนเปรตเวียนวงในสงสาร
ตั้งลโมภโลภไว้ไม่ให้ทาน
ทรมาณกายาอยู่ตาปี
ที่จริงเล่าเราไม่เห็นเปนประโยชน์
มีแต่โทษทัณฑ์ทุกข์ไม่สุขี
เครื่องสาธารณ์ถมแผ่นดินหลงยินดี
สมบัติมีเสียเปล่าปล่าไม่เข้าการ
เหมือนฝันเห็นเป็นแต่ลิ้มไม่อิ่มหนำ
มาตรากตรำอยู่ไม่เห็นเป็นแก่นสาร
ใบไม้นุ่งรุงรังเที่ยวจังฑาล
ไม่ต้องการเลยมาหลงจนงงงวย
จงตรองตรึกนึกกำดัดสมบัติทิพย์
วิมานลิบลอยสลอนอัปสรสวย
สมบัติใครในมนุษย์ถึงสุดรวย
จะเปรียบด้วยทิพยสมบัติไม่ทัดทัน
ทรัพย์ทั้งนี้ที่เอาไว้ไม่กระผีก
สู้แต่ซีกหนึ่งไม่ได้ในสวรรค์
อย่าห่วงใยในสมบัติจงตัดมัน
หมายสวรรค์เถิดออเจ้าไปเฝ้าชม ๚
๏ ซึ่งสองข้างต่างแค้นแสนระคาย
ต่างมุ่งหมายคิดมาจะฆ่าฟัง
เพราะโมโหพาหลงในสงสาร
กรรมฐานนั้นจะคิดก็บิดผัน
คือเวรกรรมทำมาจึงฆ่ากัน
ขืนฆ่าฟังอีกก็เห็นเป็นเวรไป
เหมือนกงเกวียนเวียนกำดูซ้ำซาก
กรรมวิบากนี้ก็ตรงอย่าสงสัย
ทำอย่างไรได้อย่างนั้นเห็นมั่นใจ
เป็นเวรไปตั้งกัปไม่นับปี ๚
มูลบท
๏ ภุมราการุญสุนทร ไว้หวังสั่งสอน
เด็กอ่อนอันเยาว์เล่าเรียน
๏ ก ข ก กา ว่าเวียน หนูน้อยค่อยเพียร
อ่านเขียนผสม กม เกย
๏ ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย ไม้เรียวเจียวเหวย
กูเคยเข็ดหลาบขวาบเขวียว
๏ หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยิกซ้ำช้ำเขียว
อย่าเที่ยวเล่นหลงจงจำ
๏ บอกไว้ให้ทราบบาปกรรม เรียงเรียบเทียบทำ
แนะนำให้เจ้าเอาบุญ
๏ เดชะพระมหาการุญ ใครเห็นเป็นคุณ
แบ่งบุญให้เราเจ้าเอย ๚
สิงหไตรภพ
๏ เหมือนคำพระเทศนาท่านว่าขาด
ใครคบปราชญ์ก็เป็นปราชญ์ในสัณฐาน
ใครพบพาลก็จริตติดเป็นพาล
เหมือนนิทานช้างทรงกระษัตรา
มีโจรไพรมาอาศัยในโรงช้าง
พูดแต่ข้างหุนหันจะหันฆ่า
จนช้างพลายร้ายตามไอ้โจรา
ครั้งเสนาขับโจรเสียทันที
ให้ชีพราหมณ์รามราชมาอยู่ชิด
กระทำกิจส่วนศีลพระชินศรี
พระยาช้างได้สดับก็กลับดี
พระยาลีตรงตัวไม่กลัวไย ๚
๏ ดำริธรรมกรรมฐานสังหารรัก
ด้วยไตรลักษณ์หักธุระพระฤๅษี
อันรูปทรงหลงเห็นว่าเป็นดี
คือซากผีพองเน่าเสียเปล่าดาย ๚
เพลงยาวถวายโอวาท
๏ ขอพระองค์ทรงยศเหมือนคชบาท
อย่าให้พลาดพลั้งท้าวก้าวถลำ
ระมัดโอษฐ์โปรดให้พระทัยจำ
จะเลิศล้ำลอยฟ้าสุราลัย ๚
๏ หนึ่งปราชญ์ราชครูซึ่งรู้หลัก
อย่าถือศักดิ์สนทนาอัชฌาสัย
อุส่าห์ถามตามประสงค์จำนงใน
จึงจักได้รู้รอบประกอบการ ๚
๏ อนึ่งบรรดาข้าไทที่ใจซื่อ
จงนับถือถ่อมศักดิ์สมัครสมาน
อนึ่งคนมนต์ขลังช่างชำนาญ
แม้พบพานผูกไว้เป็นไมตรี
เขาทำชอบปลอบให้น้ำใจชื่น
จึงเริงรื่นรักตรงไม่แหนงหนี
ปรารถนาสารพัดในปฐพี
เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง ๚
๏ คำโบราณท่านว่าเหล็กแข็งกระด้าง
เอาเงินง้างอ่อนตามความประสงค์ ๚
๏ แต่คนร้ายหลายลิ้นย่อมปลิ้นปลอก
เลี้ยงมันหลอกหลอนเล่นเหมือนเช่นผี
อย่าพานพบคบค้าเป็นราคี
เหมือนพาลีหลายหน้าระอาอาย ๚
๏ อันคนดีมีสัตย์สันทัดเที่ยง
ช่วยชุบเลี้ยงชูเชิดให้เฉิดฉาย
เอาไว้ใช้ใกล้ชิดไม่คิดร้าย
เรารักตายด้วยได้ด้วยใจตรง ๚
๏ อันโซ่ตรวนพวนพันมันไม่อยู่
คงหนีสู้ซ่อนหมุนในฝุ่นผง
แม้ผูกใจไว้ด้วยปากไม่จากองค์
อุส่าห์ทรงทราบแบบที่แยบคาย ๚
๏ อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นทราก
แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้เจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย
แจ็บจนตายนั้นเพราะเหน็บให้เจ็บใจ ๚
๏ จะรักชังทั้งสิ้นเพราะลิ้นพลอด
เป็นอย่างยอดแล้วพระองค์อย่าสงสัย
อันช่างปากยากที่จะมีใคร
เขาชอบใช้ช่างมือออกอื้ออึง ๚
๏ จงโอบอ้อมถ่อมถดพระยศศักดิ์
ถ้าสูงนักแล้วก็เขาเข้าไม่ถึง
ครั้นต่ำนักผักจะคิดผิดรำพึง
พอก้ำกึ่งกลางนั้นขยันนัก ๚
๏ อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
ประเสริฐซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย ๚
๏ จับให้มั่นคั้นหมายให้วายวอด
ช่วยให้รอดรักให้ชิดพิสมัย
ตัดให้ขาดปรารถนาหาส่งใด
เพียรจงได้ดังประสงค์คงจะดี ๚
๏ ธรรมดาว่ากษัตริย์อติเรก
เป็นองค์เอกอำนาจดังราชสีห์
เสียงสังหารผลาญสัตว์ในปฐพี
เหตุเพราะมีลมปากนั้นมากนัก ๚
๏ พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าบรรดาศักดิ์
แม้ไม่รักษายศจะอดสู
ซึ่งยศศักดิ์จักประกอบจำรอบรู้
ได้เชิดชูช่วยเฉลิมให้เพิ่มพูน ๚
๏ ประเพณีที่บำรุงกรุงกษัตริย์
ปฏิพัทธ์ผ่อนผันตามบรรหาร
ต่างพระทัยไนยเนตรสังเกตการ
ตามบุราณเรื่องราชานุวัติ ๚
๏ อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก
แม้ถอบศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา
เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา
แต่วิชาช่วยการจนวายปราณ ๚
๏ อย่าฟังฟ้องสองโสตจงโปรดปราน
ด้วยลมพาลพานพัดอยู่อัตรา ๚
ขุนช้างขุนแผน
๏ โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้
ยากแล้วมีใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน
ที่ทุกข์โศกโรคร้อนค่อนผ่อนปรน
คงจะพ้นโทษทัณฑ์ไม่บรรลัย ๚
๏ รู้อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา
ไปเบื้องหน้าเติบใหญ่จะให้คุณ ๚
๏ จะเป็นข้าจอมอินทร์ปิ่นนคร
อย่านั่งนอนเปล่า ๆ ไม่เข้าการ ๚
๏ ที่ไม่สู้รู้อะไรผู้ใหญ่เด็ก
มหาดเล็กสามพ่อต่อลูกหลาน
เสียตระกูลสูญลับอัประมาณ
เพราะเกียจคร้านคร่ำคร่าเหมือนพร้ามอญ ๚
เสภาพระราชพงศาวดาร
๏ อันเชื้อชาติราชสีห์มีอำนาจ
ไม่เขลาขลาดเหมือนมฤคถึกเถลิง
ท้าวพระยาสามัญย่อมบันเทิง
ที่สำเริงสำราญการณรงค์ ๚
Next : ประชุมสุภาษิตสุนทรภู่ (2) » »
2 ความคิดเห็น
ดีจริงๆที่รวบรวมไว้ จะขอเอาไปใช้ได้ง่าย อิ
-ต้องขอขอบคุณคุณLogos อย่างมากๆเลยค่ะ ที่ได้รวบรวมมาให้ได้อ่านกันตรงนี้
-เมื่อวานป้าจุ๋มก็คุยกับหวานใจว่าทำไมหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับสุนทรภู่ในร้านหนังสือทั่วไปไม่มี
เห็นเขาบอกว่าส่วนมากเขามักจะจัดพิมพ์ในโอกาสพิเศษเท่านั้น น่าจะหาได้แถวๆร้านหนังสือสวนจตุจักรค่ะ กำลังคุยๆกันว่าสักวันจะไปลุยกันดู หาซื้อมาเก็บไว้อ่านกันค่ะ