คืนชีวิตให้แม่น้ำ
วันนี้กลับไปที่อิงนที รีสอร์ต ปทุมธานีใหม่อีกครั้งหนึ่ง เรื่องจากเครือข่ายจัดงานคืนชีวิตให้แม่น้ำ โดยมีอาสาสมัครมาร่วมสักสองสามร้อยคน มีนักเรียนจากสองโรงเรียนในท้องถิ่น สององค์การบริหารส่วนตำบล ทหารจากศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก ซึ่งรับผิดชอบในเขตจังหวัดแถวนี้ กลุ่มอาสาสมัครที่ทำงานอยู่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (ในนามส่วนตัว) ผู้ใหญ่บ้านแถวนั้น 4 หมู่บ้าน (มีมูลนิธิอะไรก็ไม่รู้ที่มาถ่ายรูปเสร็จก็หายตัวไป) แล้วก็มีกลุ่มผู้จัดงานคือ อาสาดุสิต PS-EMC และ Thaiflood งานนี้มีคุณปิยะชีพ ส.วัชโรบลเป็นพ่องาน (สงสัยว่า ส. น่าจะเป็นชื่อเดิมก่อนเปลี่ยนเป็นปิยะชีพ)
คลิปที่ถ่ายในวันนี้ ไม่ค่อยมีเรื่องความรู้หรอกนะครับ เป็นพิธีการและบรรยากาศทั่วๆ ไปเสียมากกว่า
สำหรับเรื่องที่ว่าจัดงานวันนี้ทำไมนั้น โดยส่วนตัว ผมคิดว่าเนื้อเพลงนี้ บอกอะไรหลายส่วน หากผู้คนในวงกว้างเกิดจิตสำนึกรู้คุณ ช่วยกันรักษาแม่น้ำลำคลอง ก็จะเป็นกุศลต่อตัวเอง ผู้ใช้น้ำอื่นๆ สัตว์ต่างๆ จิตสำนึกนี้ ไม่ควรจะเป็นเฉพาะที่อยุธยาตรงจุดที่เรือบรรทุกน้ำตาลล่ม ถิ่นฐานบ้านเรือนที่น้ำเสียไหลผ่าน หรือชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังเท่านั้น แต่เป็นทุกคนที่ใช้น้ำ ไม่ว่าจะอยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ หรือปลายน้ำ ต่างก็มีหน้าที่ที่จะรักษาน้ำ มันไม่ใช่หน้าที่ของผู้ที่อาศัยริมน้ำเท่านั้น
แม่เจ้าพระยา
ศิลปิน : หน้ากาก
ทำนอง / เนื้อร้อง : อรุณศักดิ์ อ่องลออโอ้เจ้าพระยา ไหลหลั่งมา จากปากน้ำโพ
สายเลือดเส้นโต หล่อเลี้ยงผู้คน มาแสนนาน
มาบัดนี้ ตื้นเขินน้ำเน่าโรงงาน ไหลรวมจากท่อจากบ้าน
ลงเจ้าพระยา สัตว์ปลาเดือดร้อนคนเนรคุณ ไม่คิดบุญคุณ แม่เจ้าพระยา
แม่เหนื่อยไหลเอื่อยเรื่อยมา ไม่เคยหยุดพักสักวินาที
ปิง วัง ยม น่าน ไหลต่อสืบสาน มาถึงบัดนี้
ต้นน้ำกำลังป่นปี้ อีกไม่กี่ปีก็คงแห้งขอดพืชน้ำ สัตว์น้ำ ในเจ้าพระยา ผู้คนที่เคยลงท่า เรือเมล์เรือปลาก็พาห่างหาย
ทุกชีวี วันนี้มีความเปลี่ยนไป โรงงานที่มันจัญไร ทิ้งน้ำเสียใส่ไร้คนดูแลหลากเรือไหลลื่น หลับตื่นบนเจ้าพระยา
เรือน้ำตาลลอยมา กลับรำพลิกล่ม โถมเจ้าพระยา
เดือดร้อนสัตว์ปลา ราหู คู่เจ้าพระยา
กระชัง ก็พังต่อหน้า เห็นสายน้ำตา ประชาทุกข์โศกโอ้เจ้าพระยา ถึงเวลา คนไทยใส่ใจ
สร้างเจ้าพระยาสดใส เทิดถวายไท้องค์ราชินี
โรงงานชาวบ้านที่ชิดอยู่ติดนที สังวรกันไว้ให้ดี
ก่อนจะไม่มี แม่เจ้าพระยา
ตอนเช้า เรานั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังวัดไก่เตี้ย ปทุมธานี เป็นที่ที่อาสาสมัครในพื้นที่รวมพลกันอยู่ มีหัวเชื้อ EM ซึ่งบจก.เอ็มโร เอเซีย บริจาคมา 1.5 ตัน มีหน้าดินที่มีผู้บริจาค 5 ตันกองอยู่ (ขออภัยที่ผมไม่ทราบนาม) มีรถน้ำ (เพื่อใช้ผสมหัวเชื้อ EM) จาก บมจ.ปตท และของทหารบก หน่วยละคัน มีรถดับเพลิงของ อบต.ด้วย
จากนั้นก็เป็นพิธีเปิด สำหรับผมซึ่งไม่ชอบพิธีการแต่ก็เข้าใจว่ามีส่วนราชการมาร่วมด้วยหลายหน่วย ก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ เมื่อเสียงดังเกินไป ถ้าไม่ได้ถ่ายคลิป ก็แค่เดินหนีไป
สำหรับคำถามของอาจารย์ทวิชที่ว่าทำไมถึงปั้นเป็นลูกกลม ผมไปถามอาจารย์มนัส แต่มีคนถามคำถามพื้นๆ (และไม่น่าสนใจ) ก็เลยไม่ได้คำตอบในคลิป แต่ยังพอประมวลคำตอบได้ว่า
- ถ้าเอา EM ผสมน้ำแล้วฉีดลงแม่น้ำ ก็จะไม่เกิดผลอะไร เพราะมันจะกระจายเร็วจนจุลินทรีย์ทำงานไม่ทัน
- จึงปั้นดิน/รำ ชุบ EM ให้เป็นก้อน หน่วงเวลาเอาไว้ ให้จุลินทรีย์ได้มีเวลาทำงาน
- ใช้เด็กปั้นช่วยเรื่องสมาธิไปด้วย ดังนั้นทรงกลมก็เหมาะดี เมื่อปั้นเสร็จ ให้เด็กเอาไปโยนลงแหล่งน้ำ นอกจากสนุก(และได้ค่าขนม)แล้ว เด็กยังมีความภูมิใจ ว่าความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำนั้น เค้ามีส่วนร่วมทำมา ก็จะมีความหวงแหนแหล่งน้ำ
หลังจากพิธีเปิด ก็ลงเรือออกไปโยน EM Ball ที่เตรียมมาก่อนงาน มีข้อสังเกตว่าวันนี้มีผักตบชวาค่อนข้างเยอะ ต่างกับเมื่อสองวันก่อนในขณะที่น้ำเสียผ่านจุดนี้ ซึ่งไม่ค่อยมีสวะลอยน้ำมา; เนื่องจากเรือมีจำนวนไม่มาก จะพาคนทั้งหมดลงเรือต่างๆ ไปพร้อมกันไม่ได้ จึงมีการสอนการทำ EM Ball ให้กับกลุ่มชาวบ้านที่ยังคอยอยู่บนฝั่ง ทหารก็ลงมือช่วยด้วย เด็กๆ ปั้นเป็นรูปต่างๆ เพราะว่าในช่วงบ่าย เค้าจะได้ลงเรือไปโยนเอง
EM Ball ปั้นเป็นลูกกลม ขนาดประมาณลูกเปตอง หนัก 200 กรัม (5 ลูก/กก. หรือ 1 ตันมี 5,000 ลูก)
หัวเชื้อ EM ใช้น้ำเติมในขวดน้ำขนาด 1 ลิตร เติมเชื้อ 1 ฝา (10 ซีซี หรือ 1%) หมักไว้ 1 สัปดาห์ ก็จะกลายเป็นหัวเชื้อ EM 1 ลิตร เอาไปขยายต่อได้ — ดังนั้น EM 1 หน่วย ใช้เวลา 7 วัน สามารถขยายได้เป็น 100 หน่วย; 14 วันเป็น 10,000 หน่วย และ 21 วัน เป็น 1,000,000 หน่วย
« « Prev : วันไหว้บ๊ะจ่าง กับ EM Ball
1 ความคิดเห็น
รูปนี้เป็นรูปปลาหน้ารีสอร์ต ถ่ายสองวันหลังจากไปโยน EM Ball ลงไป
เดิมที ไม่มีปลาเลย แต่หลังจากโยน EM Ball ลงไป ก็มีปลาตัวเล็กๆ โผล่มาที่ตลิ่ง
กรมประมงเคยใช้ EM จัดการน้ำเสีย