ความเป็นธรรมเรื่องพื้นที่น้ำท่วม
คงไม่มีใครอยากให้น้ำท่วมหรอกครับ แต่มันก็ท่วมนะ การไหลของน้ำเป็นไปตามหลักง่ายๆ แต่ในสภาพพื้นที่กลับมีความซับซ้อนมากมาย
ทำไมน้ำท่วมปักธงชัย เพราะติดทางหลวงหมายเลข 304 เมื่อไหลว่าปักธงชัย ไปโชคชัย ก็ติดทางหลวงหมายเลข 24 อีก เมื่อน้ำไหลผ่านช่องแคบๆ ไปได้ช้า ก็จะยกตัวเอ่อขึ้นล้นตลิ่ง กลายเป็นน้ำท่วม
ทำไมไม่ปล่อยให้น้ำท่วมกรุงเทพบ้าง
(ยังไม่รู้เลยว่าจะท่วมหรือไม่) รอบๆ กรุงเทพก็ถนนเยอะเช่นกัน เยอะที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ อันที่ทำให้กรุงเทพเป็นไข่แดงที่น้ำ(ยัง)ไม่ท่วมคือทางหลวงหมายเลข 9 ซึ่งเรียกว่าถนนวงแหวนรอบนอก แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งนำน้ำลงมาจากทางเหนือนั้น เจอคอขวดแถวอยุธยา กล่าวคืออัตราการไหลของน้ำเหลือน้อยลง จากไหลได้ ~3,000 ลบ.ม./วินาที เหลือเพียง ~2,000 ลบ.ม./วินาที ถ้าอัตราการไหลของน้ำไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที น้ำก็ไม่ล้นตลิ่งที่อยุธยา
แต่น้ำเหนือหลากมาเร็วกว่านั้นมาก บางวันถึง 4,000 ลบ.ม./วินาที น้ำในปริมาณมากนอกจากล้นตลิ่งแล้ว ยังดันน้ำที่อยู่เหนือขึ้นไปด้วย ทำให้น้ำยกตัวล้นตลิ่งเหนือขึ้นไป ดังที่ปรากฏเป็นเหตุอุทกภัยใหญ่ในขณะที่เขียนนี้
[หากใครยังไม่ได้ดู ก็ขอให้แวะดู Google Maps ซึ่งเพิ่งจะอัพเดตภาพถ่ายจากดาวเทียมเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้เห็นขอบเขตของความเสียหาย]
ทีนี้มาดูแผนที่เหนืออยุธยา เมื่อแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน อ.ป่าโมก อ่างทอง ลงมาถึง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก แม่น้ำไหลไปทางตะวันออกไปยังตัวจังหวัดอยุธยา แต่มีคลองใหญ่แยกออกไปทางตะวันตกเข้าสู่โครงการชลประทานเจ้าเจ็ด-บางยี่หนอีกเส้นหนึ่ง [น้ำมาก ก็เป็นปัญหาอีก] เมื่อน้ำล้นตลิ่งฝั่งตะวันตกแล้ว มันจะไม่ไหลกลับข้ามแม่น้ำมาท่วมกรุงเทพฝั่งตะวันออกหรอกครับ น้ำไหลไปตามภูมิประเทศของพื้นที่
เหนือกรุงเทพฝั่งตะวันออก นอกจากทางหลวงหมายเลข 9 แล้ว ก็ยังมีถนนจากแยกบางปะอิน-สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1) กันอยู่อีกชั้นหนึ่ง แนวถนนหลายชั้น แล้วยังมีทางหลวงหมายเลข 31 (มอเตอร์เวย์) ปกป้องสนามบินสุวรรณภูมิและสมุทรปราการจากน้ำเหนืออยู่อีกครับ
เอาล่ะครับ ทีนี้ถ้าปล่อยน้ำปริมาณมหาศาลลงมา กรุงเทพก็อาจจะท่วมได้ (ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยท่วม) แต่ที่หนักกว่าคือชาวบ้านแถวอ่างทอง ลพบุรี สระบุรี อยุธยา นครปฐม นนทบุรี และสมุทรสาคร เพราะน้ำจะล้นตลิ่งตลอดทางของแม่น้ำ
กรุงเทพเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ จากรายงานประจำปีของกรมสรรพากร ปี 2552
ซึ่งแบ่งตามเขตพื้นที่ของกรมสรรพากร ภาค 1-3 คือกรุงเทพ เก็บภาษีได้ 50.9% ของภาษี(สรรพากร)ทั้งประเทศ; ภาค 4 ภาคกลางเหนือกรุงเทพ 6.8%; ภาค 5 ภาคตะวันตก 16.8%; ภาค 6 ภาคตะวันออก 2.8%; ภาค 7-8 ภาคเหนือ 1.7%; ภาค 9-10 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.0%; และ ภาค 11-12 คือภาคใต้ 2.2% — ที่เหลือเป็นกองคลังและหน่วยงานอื่น
งบประมาณแผ่นดิน ไม่ได้แบ่งมาลงกรุงเทพ 50.9% หรอกนะครับ — (ผมไม่ได้อยู่กรุงเทพ เดี๋ยวนี้ไม่ได้เข้าไปในเขตกรุงเทพบ่อยนักอีกแล้ว แต่กรุงเทพนั้นเป็นพื้นที่สำคัญจริงๆ ครับ)
« « Prev : การจัดการสิ่งที่จัดการไม่ได้
2 ความคิดเห็น
รู้ทั้งรู้ว่าอยู่ในแอ่งกะทะ ก็ก่อสร้างกันเหลือเกิน ถ้ากระจายตัวออกภูมิภาค
การกระจายความเจริญพิ้นฐานก็ค่อนข้างดีแล้ว
ต่อไปลดสิ่งก่อสร้างในเมืองหลวง
กรมกอง หน่วยทหาร โรงงานขนาดใหญ่
ออกมา ผู้คนก็จะออกมาตาม
การสื่อสารก็สะดวกแล้ว น่าจะตัดสินใจได้
น้ำท่วมปีหนึ่งๆใช้งบประมาณซ่อมแซม/ชดเชย เป็นหมื่นล้าน
น่าเสียดาย แผ่นเสียงตกร่องกับเรื่องนี้ทุกปีๆ
ถ้ามันมากขึ้นๆกว่านี้ละ
-ยังมีเรื่องแห้งแล้งอีกนะ ต่อไปก็จะวิบัติพอๆกัน
ผมเคยถามแม่ยกรัฐบาลนี้ท่านหนึ่ง ว่าสร้างรถไฟฟ้ากันทำไมเยอะแยะ สู้เอางบไปสร้างเมืองหลวงใหม่เตรียมพร้อมไม่ดีกว่าหรือครับ [ย้ายเมืองหลวงเถิดครับ] ได้รับคำตอบว่าบางทีการเมืองก็เป็นเรื่องของคะแนนเสียง