เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน พ.ศ. 2402 ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
ความเป็นมา
เมื่อสหรัฐอเมริกา ประกาศอิสรภาพในปี พ.ศ.2319 สหราชอาณาจักรยังคงยึดครองตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ (ปัจจุบันเป็นคานาดา) ทำให้มีปัญหาพรมแดนมาตลอด จนกระทั่งเกิดสนธิสัญญาโอเรกอน ซึ่งแบ่งเขตแดนสองประเทศไว้ว่า
along the forty-ninth parallel of north latitude to the middle of the channel which separates the continent from Vancouver Island, and thence southerly through the middle of the said channel, and of Juan de Fuca Strait, to the Pacific Ocean.
“แบ่งตามแนวเส้นรุ้งที่ 49° เหนือไปจนกลางร่องน้ำซึ่งแยกแผ่นดินใหญ่ออกจากเกาะแวนคูเวอร์ ซึ่งหมายรวมถึงทางใต้ของกึ่งกลางร่องน้ำดังกล่าว และกึ่งกลางช่องแคบฮวนเดอฟูคา ไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก”
แต่ข้อความในสนธิสัญญานี้ ก็ยังมีความกำกวม กล่าวคือมันมีร่องน้ำใหญ่อยู่สองอัน คือที่ช่องแคบฮาโรทางด้านตะวันตกของเกาะฮวนเดอฟูคา และช่องแคบโรซาริโอทางตะวันออกของเกาะ ที่ตีความได้ว่าคือ “กึ่งกลางของร่องน้ำ” ดังนั้นเขตแดนจึงไม่ชัดเจน
ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2402 ชาวนาอเมริกันชื่อเลย์แมน คัลทาร์บุกเบิกเข้าไปยึดครองพืนที่เกาะฮวนเดอฟูคาในยุคตื่นทอง ได้ยิงหมูตัวหนึ่งซึ่งบุกเข้ามากินหัวมันเทศในสวนของเขา หมูตัวนี้เป็นของนายชาลส์ กริฟฟิน ชาวไอริช ผู้ซึ่งถูกจ้างโดยบริษัทอังกฤษให้ดูแลฟาร์มแกะ กริฟฟินเป็นเจ้าของหมูหลายตัว และปล่อยให้หากินอย่างอิสระ
คัลทาร์ได้เสนอจ่ายเงินสิบเหรียญเพื่อชดใช้ชีวิตหมู แต่กริฟฟินตอบกลับมาว่าต้องการเงินร้อยเหรียญเป็นค่าเสียหาย พอเจออย่างนี้เข้าคัลทาร์ก็เลยไม่ยอมจ่ายเลย เพราะเขาคิดว่าหมูบุกรุกเข้ามาในที่ของเขา กริฟฟินนำเรื่องไปร้องทางการ จนทางการอังกฤษจึงขู่จะมาจับคัลทาร์ ส่วนทางเหล่าผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอเมริกัน จึงเรียกทหารมาป้องกัน
แล้วเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ลุกลามใหญ่โตจนเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ เพราะหมูตัวเดียว
อ่านต่อ »