หมู่บ้านโลก (3)

อ่าน: 5551

มีหนึ่งในกลุ่มคนมีการศึกษาที่คิดจะทิ้งเมืองขอให้เล่าความเป็นมา จะขอศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้ ผมก็ถือโอกาสนี้อัพเดตโครงการไปด้วย

แผนงานเรื่องของหมู่บ้านโลกปรับเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง แผนที่ยังไม่ดีก็ปรับเปลี่ยนได้ครับ ถ้าไม่เปลี่ยนเป็นการดันทุรังหรือไม่ยอมรับความจริง

เดิมทีคิดจะสร้างที่พักให้ผู้ที่มาเยือนสวนป่า ตอนนี้ไม่ทำแล้ว อาคารเก่ายังใช้ได้ ทำไมจะต้องสร้างใหม่ ที่พักสำหรับวีไอพี จะลองปรับปรุงเตาเผาถ่านดูก่อน น่าจะเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น หมู่บ้านโลกไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร (ไม่ขายที่ ไม่ขายบ้าน ไม่ให้ตัดต้นไม้ ถ้าอยากสร้างต้องขออนุญาตเจ้าที่แล้วสร้างเอง) ไม่ใช่รีสอร์ต (ไม่ใช่ว่ามีเงินจ่ายก็เข้าอยู่ได้ ถ้าไม่อยากมาเรียนรู้ อยู่บ้านสบายๆ ดีแล้วครับ ไม่มีรูมเซอวิส จะทำอะไรต้องทำเอง) และไม่ใช่โรงทาน (สวนป่ามีค่าใช้จ่าย อย่าแอ๊บลืมนะครับ)

บ้านผม ครูบากรุณาจัดที่เหมาะให้ เนื้อที่สักไร่หนึ่ง ซ่อนตัวอยู่ในชายป่า พายุมาก็พัดข้ามยอดไม้ไปหมด… ขยับมาเป็นครั้งที่สามแล้วครับ ครั้งแรกเป็นที่โล่งซึ่งตอนนี้คิดว่าเอาไปปลูกไร่ทานตะวันน่าจะดี ครูบาบอกว่าคนสันโดษ(และกวนโอ๊ย)อย่างผม อยากให้อยู่สงบๆ ไม่พลุกพล่าน ครั้งที่สองเป็นที่ขนาดสักสี่ห้าไร่คงจะได้ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เช่นกัน แล้วอยู่ห่างจากน้ำบาดาลเกินไปหน่อย ครั้งที่สามนี้เป็นทำเลที่เหมาะมาก ถูกใจทั้งท่านเจ้าของที่และผู้อยู่อาศัยจนกระทั่งครูบาเอากระต๊อบบัญชาการมาตั้งไว้ข้างหน้าที่แปลงนี้ และกินนอนมาเดือนกว่าแล้ว โซนของหมู่บ้านโลก อยู่ทางตะวันตกของบ้านผม ห่างไปสักห้าสิบเมตร

ก่อนจะตัดสินใจบอกครูบาว่าจะขอมาอยู่ด้วยเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมหาที่ที่เหมาะสมอยู่หลายปี หลายจังหวัด หลายภาค แต่หาไม่ได้ครับ ที่ “สวยๆ” มีคนจะขายเยอะ แต่มันไม่เหมาะครับ ผมไม่ได้ซื้อมาทำรีสอร์ต ผมจะซื้อมาทำเกษตร ซึ่งที่ดินที่ทำเกษตรที่บอกขายมา เป็นที่ดินที่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว เกษตรเคมี ต้นไม้เตี้ย แล้วยังต้องใช้ชีวิตแบบซื้อแหลกเหมือนอยู่ในเมือง ถ้าอาการหนักก็จะเป็นบริโภคนิยมแบบรสนิยมสูงรายได้ต่ำ แย่หนักเข้าไปอีก ผมไม่ปฏิเสธเรื่องการใช้เงินหรอกนะครับ ใช้ได้ตามแต่ความจำเป็น ซื้อพวกเครื่องมือมาทำเองจะพึ่งตัวเองได้กว่า แต่สิ่งที่หาซื้อไม่ได้คือต้นไม้ ธรรมชาติ และคนที่เข้ากันได้ครับ ที่ดินหัวโกร๋น ไม่มีร่มเงาไม้ ดินถูกแดดเผา จะร้อน ร้อน และโคตรร้อน พายุจะมีความรุนแรง

เมื่อตั้งใจไปอยู่ที่สวนป่าแล้ว ต้องทำให้อยู่ได้จริงๆ ด้วย ถ้าเสนออะไรแล้วครูบาเห็นด้วย ก็ต้องทำให้มันเกิดขึ้นจริง อย่ามัวเอ็นจอยแต่การชี้นิ้ว อยากทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสวนป่าโดยไม่ต้องออกไปภายนอกเลย ขนาดที่ว่าครูบา+แม่หวีอยู่ที่นี่มาสามสิบปีแล้ว มีอะไรๆ ตั้งมากมาย หมู่บ้านโลกในสวนป่าไม่ได้เริ่มจากไม่มีอะไรเลย แต่จนถึงขณะนี้ ผมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วหลายอย่างแล้ว เช่น ทำถนน ถมปรับที่ ซ่อมปรับปรุงบ่อน้ำบาดาลบ่อที่สอง กระต๊อบ อิฐอัด รั้วกรงแพะสามารถล้อมคอกแพะขนาด 25 ไร่ได้สองคอกหมุนเวียนกันไป ระบบน้ำสำหรับแปลงผักใหม่ยาวร้อยเมตร ระบบ wifi ระบบเก็บกักน้ำฝน ฯลฯ ให้ครูบาเป็นคนรัวกดปุ่ม เติมเชื้อไฟเพื่อความมันในชีวิต อ้อ…ซื้อรถอีกคันหนึ่งไว้ใช้ที่สวนป่า รถเบนซ์ที่ใช้ประจำจะทิ้งไว้ให้พ่อแม่ใช้ที่บ้าน นี่ยังไม่ได้เริ่มสร้างบ้านเลยนะครับ แต่เงินเป็นเรื่องกระจอก คิดว่าทำไปให้เกิดประโยชน์ส่วนรวมก่อนดีกว่า เรื่องบ้านผมยังเป็นเรื่องเล็ก บ้านผมที่สวนป่า จะไม่พรั่งพร้อมสะดวกสบายเหมือนบ้านที่อยู่ตอนนี้ แต่ยังทำงานได้ไม่ลำบาก ถ้าเป็นไปได้ อยากสร้างบ้านเองด้วยแทนที่จะจ้างเขาสร้าง เมื่อมีที่นอนถาวรที่เก็บของได้ คราวนี้จะขนเครื่องมือไปอยู่สวนป่าได้นานๆ จะมีเวลาสร้างสิ่งที่จำเป็นขึ้นอีก น่าจะสนุก

ครูบา+แม่หวีอยู่ที่นี่มาสามสิบปี ใช้วิริยะเปลี่ยนไร่สวนที่พื้นดินร้อนจนต้องตะแคงเท้าเดิน ให้เป็นผืนป่าขนาด 600 ไร่ (1 ตารางกิโลเมตร) และอยู่ได้อย่างร่มเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า “ภายนอก” หลายองศา เป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ แต่โลกนี้ “เจริญขึ้น” มีคนหลากหลายมาเรียนรู้ที่สวนป่า เพื่อให้ผู้มาเยือนซึ่งไม่คุ้นเคยกับสภาพตามธรรมชาติไม่ปรับตัวต้องมากนัก สวนป่าก็ควรจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่านี้ ให้คนจากในเมืองที่ยังต้องซื้อแหลกทำอะไรไม่ค่อยเป็น (ผมด้วย) ได้รับความสะดวกสบายตามสมควร

อ่านต่อ »


เตือนภัยผ่านมือถืออีกแล้ว

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 12 May 2012 เวลา 7:01 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 5343

ไม่บ่อยนักที่ผมเขียนเรื่องเฉพาะกาล แต่เรื่องนี้สำคัญครับ

เช้านี้อ่านเจอข่าวรองนายกรัฐมนตรีซึ่งไปดูงานเรื่องการเตือนภัยพิบัติ ณ ประเทศญี่ปุ่น จะพูดให้เป็นธรรม ไม่บ่อยที่ผู้ใหญ่ที่ไปดูงานต่างประเทศ จะนำอะไรใหม่กลับมาเสนอหรอกนะครับ

เผอิญเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นงานที่ กทช. ควรจะทำมาตั้งนานแล้ว แต่ กทช. ก็ไม่ทำอย่างที่ควรทำ เมื่อ กทช. ล้มเลิกไป งานนี้ควรจะเป็นของ กสทช. ซึ่ง กสทช. ยังยุ่งอยู่กับแผนแม่บท มอบหมายให้กระทรวงไอซีทีทำ คาดว่าจะได้งานเตือนภัยผ่าน SMS แบบที่เป็นอยู่ด้วยความร่วมมือจากบริษัทโทรศัพท์มือถือ งานในลักษณะนี้ ในความเห็นของผม ไม่ดีพอหรอกครับ

เมื่อคราวเกิดแผ่นดินไหวทางใต้ก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลในเขตเสี่ยงภัยท่านหนึ่ง ได้รับข้อความทาง SMS แจ้งเตือนหลังจากแผ่นดินไหวสองวัน ในขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์แล้ว จึงส่งข้อความมาตรวจสอบกับผมว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า — เดิมทีท่านไปสมัครรับข่าวสารเตือนภัยทาง SMS เอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ ทางหน่วยแจ้งเตือน ก็ส่ง SMS ไปยังผู้ที่สมัครรับข่าวสารหลายหมื่นราย ข่าวทาง SMS ทะยอยส่งไปยังโทรศัพท์มือถือเรียงตัว แต่เนื่องจากมีผู้สมัครรับข่าวสารเป็นจำนวนมาก คิวจึงยาวมาก กว่าที่ข่าวจะมาถึงท่าน ก็ผ่านไปสองวันแล้ว (สงสัยว่ากลางคืนจะไม่ส่งข่าวด้วยซ้ำไป คิวจึงคั่งค้างมาก)

เรื่องนี้ไม่ถูกต้องสองอย่าง คือ เมื่อเกิดเหตุท่านไม่ได้รับข่าวสารทันเวลา และหลังเกิดเหตุท่านยังได้รับการแจ้งเตือนถึงเหตุการณ์ในอดีตซึ่งไม่มีผลแล้วและไม่รู้ว่าข้อความนั้นล้าสมัยไปแล้ว (ซึ่งเป็นอีกประเด็นใหญ่อีกอันหนึ่งว่าข้อความแจ้งเตือนไม่ลงเวลา)

อ่านต่อ »


ประชุมภาคีโอเพ่นแคร์

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 10 May 2012 เวลา 16:27 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2543

การประชุมภาคีของโอเพ่นแคร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตามคำเรียกร้องของภาคีสมาชิกเอง ที่อยากจะแลกเปลี่ยนข้อมูลความคืบหน้ากันบ้าง

การประชุมแบบนี้เคยจัดขึ้นเมื่อปลายปี 2552 แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้จัดขึ้นอีกเนื่องจากเมืองไทยประสบภัยพิบัติต่อเนื่องและยาวนาน กล่าวคือ ปี 2553: อุทกภัยและวาตภัยใหญ่ ภาคใต้ | ภัยหนาว, ปี 2554: ภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา | อุทกภัยจากลานินญา ภาคใต้ | แม่น้ำเจ้าพระยาเน่าเสีย | อุทกภัยตลอดลำน้ำน่าน | อุทกภัยใหญ่ ปี 2554/2555

ด้วยภาคีแต่ละหน่วยต่างก็มีงานล้นมือ จึงไม่มีเวลาพบปะกันเป็นกลุ่มใหญ่ ในวันนี้ แม้เป็นช่วงกำลังฟื้นฟูผลจากอุทกภัยใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ยังพอมีเวลาพบปะกันได้ มีภาคีมาร่วมพบปะกัน ณ. กองบัญชาการทหารพัฒนา 8 หน่วยงาน คือ

  1. กสท.โทรคมนาคม (วิทยุเรือ)
  2. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพอากาศ
  3. กรมอุตุนิยมวิทยา
  4. หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา
  5. สํานักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย
  6. กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
  7. Thaiflood.com
  8. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

อ่านต่อ »


งานวันรวมพลังรับมือภัยพิบัติ

อ่าน: 5190

เมื่อวาน โครงการรวมพลังรับมือภัยพิบัติ ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. จัดงานวันรวมพลังรับมือภัยพิบัติขึ้นเป็นครั้งแรก ที่หอประชุมใหญ่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผมไปงานนี้ในฐานะเพื่อนของผู้จัด

เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยจะไปงานไหนเนื่องจากจะเตรียมตัวไปอยู่สวนป่า ไม่อยากให้เกิดงานผูกพันมากเกินไปเนื่องจากข้อจำกัดของระยะทาง แต่ที่เลือกไปงานนี้ก็มีหลายเหตุผลครับ

  1. งานนี้ไม่ใช่งานปล่อยของ ไม่ใช่งานโปรดสัตว์ซึ่งผู้รู้มาบรรยายโดยมีผู้ฟังเป็นตัวประกอบเหมือนงานสัมนาทั่วไป ช่วงเช้าเป็นพิธีการและการติดเครื่อง ส่วนช่วงบ่ายเป็นเวทีของความคิดอิสระซึ่งผู้เข้าร่วมงานเสนอเรื่องเอง พูดเอง ฟังเอง สรุปเอง เลือกหัวข้อที่อยากมีส่วนร่วมเอง (Open-space Meeting) โดยผู้จัดไม่ปักธงมาล่วงหน้า แต่ปล่อยให้เป็นไปตามพลวัตของกลุ่มและผู้ที่มาเข้าร่วม
  2. ผมพอรู้เรื่องภัยพิบัติอยู่บ้าง และผมศึกษาเรียบเรียงแผนการรับมือภัยพิบัติที่มีความซับซ้อนมานานหลายปีแล้ว ใครจะเรียกผมว่าผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเรื่องของเขานะครับ ผมรู้หลายอย่างแต่ไม่ได้รู้ทุกอย่างและไม่ได้หลงแสดงตนว่ารู้ไปหมดทุกเรื่องทำได้หมดทุกเรื่อง ผมเพียงแต่พอจะให้แง่คิดในเรื่องที่ผมศึกษามาแล้วได้เหมือนกันถ้าบริบทเหมาะสม
  3. ผมอยากไปฟังว่าคนทำงานในภาคประชาชน คิดอย่างไร เตรียมตัวในเรื่องการจัดการภัยพิบัติอย่างไร

ถึงตั้งใจไว้อย่างนั้น แต่ทำไม่ได้ ถูกแซวตั้งแต่เช้าเลยว่าสลึมสลือมางาน เห็นอัพเดต status ตั้งแต่เช้ามืดเลย นอนดึกตื่นเช้าอย่างนี้ จะไหวหรือ… ผมไม่ได้นอนดึกตื่นเช้าหรอกนะครับ ผมไม่ได้นอนต่างหาก จึงไม่ได้ทั้งนอนดึก นอนไม่พอ หรือว่าตื่นเช้า ถึงอย่างไรช่วงเย็นก็ต้องกลับบ้านก่อนเนื่องจากอายุอย่างผมนี่ไม่ควรขับรถในช่วงที่แสงน้อยแล้ว จึงไม่สามารถอยู่ร่วมจนจบได้อยู่ดีนั่นแหละ

อ่านต่อ »


ดินแทนปูน

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 1 May 2012 เวลา 18:54 ในหมวดหมู่ เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 5002

บ้านดินไม่เชิงว่าสร้างจากดินเท่านั้นหรอกครับ เรียกว่าบ้านดินสร้างจากวัสดุธรรมชาติจะดีกว่า

ในการที่ดินจะยึดตัวกันได้นั้น เมื่อเรามองแต่คำว่าบ้านดินก็จะไปนึกถึงดินเหนียวเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่จริงการทำให้ดินจับตัวกันได้ยังขึ้นกับคุณสมบัติของดินในบริเวณนั้นอีกด้วย บางทีดินหมาดๆ อัดด้วยแรงก็อยู่ได้ [กำแพงดินอัด] บางทีก็ต้องใส่ทรายและฟาง ซึ่งฟางเป็นไฟเบอร์ธรรมชาติซึ่งช่วยยึดเกาะอนุภาคของดินไว้ได้ บางทีก็ใช้น้ำแป้งผสมก็พอไหว แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้ปูนซิเมนต์ผสมก่อนนำไปอัดเลยเช่นกรณีของอิฐอัดที่สวนป่า

วัสดุในบันทึกนี้ เรียกว่า cob ซึ่งเป็นส่วนผสมของดิน ทราย ฟาง และน้ำ ผสมคลุกเคล้ากันพอหมดๆ ก็สามารถจะนำไปปั้นหรือพอกใช้เป็นรูปทรงที่ต้องการได้ เมื่อทิ้งให้แห้ง จะมีความแข็งแรงพอสมควร พอที่จะทำกำแพง เก้าอี้ หรือพื้นได้ แต่ถ้า cob จะโดนน้ำ ต้องแน่ใจก่อนว่าทิ้งไว้จนแห้งสนิทแล้ว

อ่านต่อ »


ปฏิบัติธรรม

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 30 April 2012 เวลา 23:42 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3544

พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่คณะผู้แทนพุทธสมาคมทั่วประเทศ
ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย
วันเสาร์ ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๒๓

ในโอกาสที่ผู้ที่เป็นผู้สนใจในพระพุทธศาสนา เป็นสมาชิกของพุทธสมาคมและสมาคมเครือทางพุทธศาสนา และผู้ที่สนใจอื่นๆ ได้มาประชุมกัน เพื่อปรึกษาหารือในปัญหาของพุทธศาสนาในทุกด้าน ได้มาให้พรในโอกาสคล้ายวันเกิด ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ปลาบปลื้ม และทำให้มีความรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง ท่านนายกพุทธสมาคมได้ยกยอปอปั้นอย่างมากว่า เป็นผู้ที่ปฏิบัติทางพุทธศาสนาอย่างชำนิชำนาญ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ลำบากที่จะรับ แต่ก็ได้ขอให้ให้โอวาท

ข้อแรกเนื่องจากที่ได้กล่าวว่า ท่านทั้งหลายหวังในบารมีให้ปกเกล้าบ้านเมืองนั้นก็เป็นข้อหนึ่งที่น่าคิดเพราะว่าบ้านเมืองประกอบด้วยบุคคล และแต่ละบุคคลจะต้องทำด้วยตนเองตามหลักของพระพุทธศาสนา แต่ละคนต้องการอะไร ก็ต้องการความสุขคือความสงบ ความสุขและความสงบนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยตนเอง ฉะนั้น ที่จะให้คนอื่นมาปกป้องรักษาก็เป็นสิ่งที่ยากถ้าตัวเองไม่ทำ อันนี้เป็นข้อที่สำคัญยิ่ง ในพระพุทธศาสนาและผู้ที่ถือตัวว่าเป็นพุทธศาสนิก ต้องพึ่งตัวเองมิใช่พึ่งคนอื่น แต่การที่จะอาศัยคนอื่นก็อาศัยได้โดยดูผู้อื่นที่ปฏิบัติดีชอบ และคอยฟังสิ่งที่ผู้อื่นที่เราเห็นว่าปฏิบัติดีชอบ ได้พูดได้แนะนำดังนี้ก็เป็นสิ่งที่อาศัยผู้อื่นได้ ผู้อื่นจะช่วยเราได้ ฉะนั้น ก็จะต้องมีการพิจารณาของตัวเองว่าผู้ที่น่าที่จะดูการปฏิบัติหรือฟังข้อแนะนำในการปฏิบัติและทำตาม อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคคลได้บรรลุถึงความสำเร็จความสุขได้ อันนี้ก็ได้ชี้แจงตามที่ได้กล่าวมาเมื่อตะกี้

มาถึงปัญหาของพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ลำบากที่สุดที่จะเห็นพระพุทธศาสนาและประโยชน์ของพระพุทธศาสนา เพราะแต่ละคนก็มีกายและใจของตัว แต่ละคนก็มีความรู้หรือปฏิปทาของตัวแล้วแต่ภูมิแต่ชั้น การที่จะปฏิบัติตามพระพุทธศาสนานั้น ย่อมจะเป็นแล้วแต่บุคคล แล้วแต่สภาพของตัว จะเรียกว่าสภาวะหรือสภาพหรือฐานะของตัวฐานะนี้ไม่ได้หมายถึงฐานะทางการเงินการทองหรือความเป็นอยู่ แต่เป็นฐานะของจิตของแต่ละคน ฉะนั้น พุทธศาสนาถ้าว่าไปเป็นสิ่งที่ลุ่มลึก ที่ลำบากที่จะสั่งสอนหรือที่จะเรียนเพราะว่าแต่ละคนจะต้องทำตามฐานะของตัว หรือจะว่าได้ว่าพุทธศาสนามีหลายชนิด แต่ละคนก็มีพุทธศาสนาของตัว ฉะนั้น การที่จะสั่งสอน การที่จะชี้แจง การที่จะฟัง การที่จะเรียนพุทธศาสนานั้น จะต้องพยายามที่จะทำด้วยตนเอง

อ่านต่อ »


บ่อน้ำ

อ่าน: 4601

ไม่มีน้ำ แย่แน่ครับ แต่น้ำที่จัดหามาเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำผิวดินอย่างเดียว

ในรัฐราชาสถานในอินเดีย ใกล้เมืองชัยปุระ มีบ่อน้ำซึ่งสร้างมาประมาณพันสองร้อยปีแล้ว ชื่อว่า Chand Boari เป็นบ่อหินยาปูน ลึกรอยฟุต ประมาณตึก 13 ชั้น ผนังชัน สร้างบันได 3500 ขั้นให้คนเดินลงไปตักน้ำ ดูรูปเพื่อความเข้าใจดีกว่าครับ

[รูปอีกเยอะแยะเลย]

อ่านต่อ »


บ้านใหม่ในสวนป่า แบบที่ 1ก

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 24 April 2012 เวลา 0:08 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 5607

แบบที่ 1ก — ก คือกลับทางครับ น้องซึ่งเป็นคนร่างแบบบอกว่ากลับทาง สเกลผิดด้วย ต้องลดขนาดลงมา ลองเขียนดูก็ได้

รูปนี้มองจากกระท่อมบัญชาการ จากทางทิศตะวันออกเฉียใต้ ตัวบ้านยก 1 เมตรจากพื้นเช่นเดิม เข้ามาจากคอคอดกระ จะมาเจอสันบ้านแล้วต้องเดินอ้อมบ้านไป จึงจะขึ้นบ้านได้ ทางขึ้นมีทางลาดสำหรับเก้าอี้รถเข็น หรือจะขึ้นทางบันไดห้าขั้นก็ได้ เดินเข้าไปมีห้องอยู่สองปีก ปีกละสองห้องเช่นเดิม

อ่านต่อ »


บ้านใหม่ในสวนป่า แบบที่ 1

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 23 April 2012 เวลา 0:13 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 5146

บ้านไม่ใช่ของเล่นราคาแพง เมื่อจะสร้างบ้านก็แล้วแต่ความต้องการที่มีอยู่

สี่เดือนที่ผ่านมา ผมก็ยุ่งแต่กับเรื่องบ้านและหมู่บ้านโลกนี่ละครับ ถ้าไม่มีที่พักถาวร ก็ยากที่จะดูแลผลักดันโครงการหมู่บ้านโลกได้ ครูบาท่านกรุณากันที่แปลงสวยในชายป่าเอาไว้ให้ เป็นรูปเหลี่ยมแต่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 19×21x17.5×18 เมตร ที่ดินในชายป่ามีปลวกมีแมลง ดังนั้นก็ต้องถม แต่เมื่อถมแล้วดินยังไม่ได้บดอัด จึงเสี่ยงมากที่จะสร้างบ้านใกล้ไหล่ของที่ดิน

หลายเดือนมานี้ แผนเกี่ยวกับหมู่บ้านโลกเปลี่ยนแปลงไปมากมายแล้ว ด้วยความเห็นชอบของครูบา ที่พักจะไม่สร้างใหม่ แต่จะเอางบประมาณส่วนนี้มาปรับปรุงที่พักของสวนป่าแทน งานก่อสร้างจึงเหลือแต่บ้านของตัวเอง

สำหรับบ้าน น่าจะมีห้องส่วนตัวในบริเวณที่สังเกตได้รอบ มีห้องที่กันไว้ให้พ่อแม่ (ซึ่งท่านคงไม่มาพักอยู่ดีเนื่องจากระยะทางไกลจากบ้านมาก) มีเผื่อไว้สำหรับครอบครัวของน้องอีก 3 ครอบครัว ซึ่งหากว่าจะมาพร้อมกันหมด ผมก็จะออกมานอนข้างนอก

แบบข้างล่างนี้ ลองพยายามจัดเอาความต้องการ ขึ้นรูปผังของบ้านออกมาก่อน รูปนี้คงยังสร้างไม่ได้เนื่องจากอยู่ใกล้ขอบที่ดินเกินไป แต่ก็มีประเด็นทางการก่อสร้างหลายประเด็นซึ่งแก้ไขไปแล้ว ยังไงก็ต้องลองเอาบ้านลงในที่ไปก่อน แล้วค่อยแก้ไขเรื่องอื่นทีหลัง

อ่านต่อ »


โครงการ “ถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย”

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 18 April 2012 เวลา 21:42 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 4183

ไปๆ มาๆ สวนป่านี้เหนื่อยไม่ใช่เล่น แต่ความเหนื่อยนี้ ดูกระจอกมากเมื่อเทียบกับความทุ่มเทที่ ปรีดา ลิ้มนนทกุล ทำ

คุณปรีดาเป็นผู้ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ตามหลักทางด้านความหมายทางกายภาพ แต่ทางด้านจิตใจคงไม่ใช่ ไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร เพราะไม่มีใครจ้าง กำลังทำงาน เพราะชอบทำงาน เพราะรักงาน และถ้าเพราะไม่ทำงาน อาจทำให้รู้สึกว่า เป็นผู้ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร คุณปรีดาพิการทั้งแขนและขา นั่งรถเข็นตลอดเวลา เดินทางลำบากมาก แต่คุณปรีดาและทีมคนพิการคอยช่วยเหลือ thaiflood อยู่เบื้องหลัง คอยประสานและตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่

คุณปรีดาทำโครงการ  “ถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย” เป็นความพยายามจะหมุนวงล้อของชีวิตผู้ประสบภัยขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ถุงยังชีพอาจช่วยบรรเทาความทุกข์ยากได้ชั่วคราว แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ว่า เมื่อถุงยังชีพ+กระแสความช่วยเหลือหมดไป ผู้ประสบภัยจะทำอย่างไรต่อ

โครงการนี้ระดมปัจจัยเพื่อนำไปเป็นทุนฟื้นฟูชีวิตของผู้ประสบภัย หากได้เงินจากผลผลิต ก็นำมาคืนโครงการเพื่อที่จะใช้เป็นทุนหมุนเวียนช่วยเหลือพื้นที่อื่นต่อไป ความคืบหน้าของโครงการ ติดตามได้ที่ http://selfreliefpackage.blogspot.com/

อ่านต่อ »



Main: 0.071311950683594 sec
Sidebar: 0.2049880027771 sec