Megalopolis

โดย Logos เมื่อ 4 July 2009 เวลา 0:07 ในหมวดหมู่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม #
อ่าน: 4957

คำว่า Megalopolis (บางทีเรียก Megapolis) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก แปลตรงๆ ว่าเมืองขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกันเป็นแนวยาว

คำนี้ เป็นที่รู้จักกันเมื่อนักภูมิศาสตร์ชื่อ Jean Gottmann (1915-1994) ชาวฝรั่งเศส ทำการศึกษาเมืองในสหรัฐในช่วงทศวรรศที่ 1950s และได้เรียกเขตเมืองซึ่งติดกันไปเป็นพืดเป็นระยะ 500 ไมล์ ตั้งแต่บอสตันทางเหนือไปจรดวอชิงตัน ดีซี ทางใต้

ในอีกมุมหนึ่ง Megalopolis มีความสมบูรณ์ในตัวเองในแบบของคลัสเตอร์ ในแง่ที่จะเอาอะไรในห่วงโซ่คุณค่า Megalopolis ก็มีทั้งหมดอยู่ใกล้ๆ ทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำลงมาก ยิ่งกว่านั้น การที่อุตสาหกรรมเดียวกัน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ทำให้คนงานแม้จะตกงานจากที่หนึ่ง ก็มีโอกาสหางานได้ไม่ยากนัก และทำให้อุตสาหกรรมต่างต้องรักษาพนักงานที่มีค่าของตนไว้ ไม่ให้เสียไปให้กับคู่แข่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็จะช่วยให้คุณภาพของการจ้างงานดีขึ้นบ้าง

ทีนี้มาดูเมืองไทยบ้าง ถามว่ามีโอกาสไหม ก็ตอบว่ามีครับ แต่ว่ามันไม่เคยมีการวางแผน หรือการจัดการใดๆ

เส้นที่เห็นชัดคือ บางนา บางพลี บางปะกง ชลบุรี (แหลมฉบัง ศรีราชา พัทยา มาบตาพุด ระยอง) ซึ่งเป็นลักษณะของ Megalopolis แบบที่ไม่มีการจัดการ คือใครนึกจะทำอะไรก็ได้ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ต่อให้เราพูดกันเรื่องคลัสเตอร์ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อีกเส้นหนึ่งที่มีโอกาสคือ สระบุรี แก่งคอย มวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว นครราชสีมา — อันนี้ต้องถามว่าตรงนี้จะทำอะไรกัน เขื่อนลำตะคองเป็นต้นแม่น้ำมูล และเลี้ยงโคราชอยู่ด้วย ทำอะไรระวังด้วยครับ น้ำยังไหลไปอีกยาว

แล้วก็ยังมี เชียงใหม่ ลำพูน (ลำปาง) แต่จะต้องระวังเรื่องน้ำให้มากๆ

ทุกเส้นทาง ประเมินดูคร่าวๆ เหมาะกับรถไฟรางคู่มากกว่าจะมาทำในกรุงเทพอีกครับ ทำแล้วจะกระจายความเจริญออกไปจากกรุงเทพได้ เพราะผู้คน commute ไปมาได้ ก่อสร้างเพิ่ม ที่ดินราคาแพงขึ้น ผลผลิตกระจายออกเร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ฯลฯ Megalopolis เป็นตัวสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รัฐเก็บภาษีได้เป็นกอบเป็นกำกว่าการเจริญเติบโตที่ไม่มีโฟกัส

เรื่องนี้ไม่ได้ขัดกับเศรษฐกิจพอเพียง เพราะว่าปรัชญานี้ แทรกอยู่เป็นหลักสำคัญได้ทุกกรณี อันที่จริง ผมก็เบื่อชีวิตเมืองนะครับ แต่จะบอกให้ทุกคนไปอยู่ป่าหมด ก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เมืองก็ต้องพัฒนาต่อไปในแบบที่ดีกว่าปัจจุบันซึ่งทุกอย่างรวมศูนย์ ทำให้คนโลภผู้ไฝ่อำนาจ แสวงหาอำนาจปกครองเพื่อจะได้ยึดครอง ให้สัญญาบ้าๆบอๆ แล้วดันมีคนหลอกตัวเองว่าคำสัญญาในฝันนั้น เป็นทางออกเสียด้วย ก็เลยเพี้ยนกันไปใหญ่; ถ้าการกระจายอำนาจเป็นทิศทางของการแก้ไขอำนาจรวมศูนย์ Megalopolis ก็อาจจะเป็นทิศทางของการจัดโครงสร้างพื้นฐาน ที่กระจายออกอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

รัฐเก็บภาษีจากกรุงเทพและปริมณฑลได้เกินกว่า 50% ของทั้งหมด แต่กลับลงทุนในกรุงเทพกระผีกเดียวซึ่งก็ไม่เป็นธรรม — ผมไม่ได้เรียกร้องให้ลงทุนในกรุงเทพหรอกครับ ตรงกันข้ามเลย กลับอยากให้รัฐเก็บภาษีได้จากพื้นที่กว้างๆ ซึ่งหมายความว่าประชาชนคนไทยในทุกพื้นที่ มีโอกาสเหมือนคนกรุงเทพ (จึงเก็บภาษีได้จากฐานที่กว้างขึ้น)

ในการสร้างโอกาสนั้น อาศัยกำลังของรัฐจะทำอะไรแทบไม่ได้เลย จะต้องใช้แรงเอกชนรวมพลัง มุ่งไปในทางเดียวกัน จึงจะมีโอกาส จังหวะนี้ เป็นโอกาสในการเพิ่ม private consumption ด้วย

เรื่องนี้จะเอายังไง ก็น่าจะเริ่มด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ 2573 เกี่ยวกับการพัฒนา และการกระจายความเจริญออกจากกรุงเทพ; ถ้ายังคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม เหตุผลเดิม ข้อจำกัดเดิมๆ แต่จะให้ผลลัพท์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ก็แปลกแล้วล่ะครับ

« « Prev : ควานดาเอ็ฟเฟ็ค — แรงยกมหัศจรรย์

Next : ขึ้นรอบปีที่สองของลานปัญญา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "Megalopolis"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.52180099487305 sec
Sidebar: 0.62011885643005 sec