เฮฯ หก: เบื้องหลังภาพถ่ายที่เอามาอวด
อ่าน: 5509ก็ไม่เชิงเป็นภาพส่งประกวดหรอกนะครับ กล้องเก็บความทรงจำ กล้องใหญ่บางทีก็เก็บรายละเอียดได้มากกว่า (ปลอบใจตัวเองให้สมกับที่แบกไป) ไม่ได้ซีเรียสกับการประกวดภาพถ่ายหรอกครับ แต่อยากบันทึกเหตุการณ์ไว้กันลืมเท่านั้น
เหตุการณ์แรก “อุบัติเหตุน้ำมูกช้าง”
เช้าวันที่ 4 ธ.ค. เป็นโปรแกรมล่วงหน้าระหว่างรอพลพรรค มาพบกับทีมวงน้ำชาที่ห้องนั่งเล่น คุณเบิร์ด พาครูบา ป้าจุ๋ม พี่ตา น้องจิ กับผม ไปปางช้างกะเหรี่ยงสามัคคี; ไม่รู้ว่าสามัคคีอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นได้ว่าอยู่ร่วมกันหลายเผ่าพันธุ์
ป้าจุ๋ม น้องจิ ขึ้นช้างแก่ พี่ตาขึ้นช้างหนุ่ม ไปเที่ยวกัน ที่เหลือก็ซื้อกล้วยอ้อยเลี้ยงช้าง ดูงูเหลือม แล้วไปนั่งคุยกันริมน้ำ รออีกสามท่านจับตั๊กแตนเสร็จ
ตอนเลี้ยงช้าง ผมอยากได้ภาพช้างยื่นงวงมาหากล้อง ก็เลยยื่นอาหารให้ช้างยื่นงวงมาเอา พอกล้วยกับอ้อยหมด ช้างไม่รู้ หรือคิดว่ากล้องผมเป็นอาหารก็ไม่รู้ เลยยื่นงวงมาจะเอาอีก แล้วก็ แ-ผ-ล-ะ
งวงมาแปะอยู่ที่ฟิลเตอร์เลนส์ของผม แถมมีน้ำมูกเป็นเมือกๆ ด้วย รูปทางซ้ายเป็นเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ก่อนที่เหตุการณ์สยดสยองนี้จะเกิดขึ้น
โมโหก็โมโห ขำก็ขำ แต่ไม่ได้โทษช้าง เป็นเพราะเราประมาทเอง ยืนใกล้เค้าเกินไปเอง
ครูบาถ่ายเบื้องหลังไว้ได้ด้วยเป็นภาพทางขวาครับ
1.เก็บกล้อง 2.หยิบกล้วย 3.ถ่ายรูป 4.เอาอีก 5.ภัยมาไม่รู้ตัว 6.เละ
จากปางช้างแล้ว ฝ่ายโภชนาการ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์เลี้ยงข้าว จากนั้นไปพิพิธภัณฑ์อูบคำ บ้าน อ.ถวัลย์ ดัชนี แล้วก็ไปห้องนั่งเล่นในตอนเย็น
ผมอายุไม่ยืนพอที่จะยืนยัน แต่มีผู้รู้บรรยายไว้ว่าเมื่อโลกเกิดขึ้นนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นจุลชีพขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรมีพื้นผิวกว้างที่สุด จึงมีพื้นที่ให้คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศละลายน้ำได้กว้างใหญ่






