แก้ไขไม่ทันใจ

โดย Logos เมื่อ 15 April 2011 เวลา 0:41 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3299

ผมคิดว่าเป็นเรื่องไม่ยากที่จะตำหนิการบรรเทาทุกข์ (ซึ่งมีทั้งความไม่ถูกต้องและความไม่ทันใจ) แต่ก็คิดว่าเป็นปฏิกริยาธรรมดาของอารมณ์ ที่ไม่อยากเห็นชาวบ้านเดือดร้อนนะครับ — การบ่นว่า ก็ไม่ได้ช่วยให้การบรรเทาทุกข์เร็วขึ้นมาเช่นกัน ได้แต่ระบายความคับข้องใจของตัวเอง โดยไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมา

แต่ถึงจะบรรเทาทุกข์ได้อย่างถูกต้องตามข้อจำกัดของระบบราชการ และทำได้ทันการณ์ ภัยพิบัติก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี — ที่มีผลร้ายแรงก็เพราะว่าไม่ได้มีการเตรียมพร้อมเอาไว้อย่างที่ควร ทรัพยากรกระจัดกระจาย มีหลายหน่วยงานที่อยู่กันคนละกระทรวงทำงานประสานงากันอย่างมีเอกภาพ (คือต่างคนต่างทำ) เพราะต่างก็ต้องการ “ผลงาน” ซึ่งไม่มีผลงานใดหรอกครับ ถ้าชาวบ้านเดือดร้อน;

แนวคิดที่จะตั้งกระทรวงภัยพิบัตินั้น ดูเผินๆ ว่าเป็นความพยายามจะให้งานเป็นเอกภาพ มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อการเตรียมพร้อม แต่มีจุดหนึ่งซึ่งแก้ไม่ได้ คือระเบียบราชการครับ; ระเบียบราชการไม่ไว้ใจใครเลย ทำให้การทำงานล่าช้า ไม่เหมาะกับการจัดการภัยพิบัติเลย

ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า We can’t solve problems by using the same kind of thinking we used when we created them. เราไม่สามารถจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการคิดแบบเดียวกับเมื่อเราสร้างปัญหานั้นขึ้นมา ถ้าหากการจัดการภัยพิบัติ มีปัญหาเนื่องจากการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ข้ามโครงสร้างของระบบ ตลอดจนระเบียบราชการซึ่งไม่คล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง ก็ยากจะเชื่อได้ว่าการตั้งกระทรวงภัยพิบัติ จะแก้ปัญหาอะไรได้

มีทางออกสองทางที่นึกถึงกัน หนึ่งคือใช้โครงสร้างคล้ายสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีงบประมาณสนับสนุน มีพันธกิจที่ชัดเจน แต่ปราศจากความไม่คล่องตัวของระบบราชการ (ซึ่งช้าแบบกู้ภัยได้ยาก แต่ตามไปเก็บได้ง่าย)

อีกทางหนึ่งคือโครงสร้างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เป็นการยอมรับบทบาทของภาคเอกชน

ภัยพิบัติไม่ได้เกิดบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว นำมาซึ่งความเสียหายมหาศาล ซึ่งนั่นก็ยังไม่สำคัญเท่ากับชาวบ้านผู้ประสบภัยทุกข์ยาก หมดเนื้อหมดตัวกันไปเป็นแถวๆ แนวทางที่น่าจะดีจึงไม่ควรจะตั้งกระทรวงมารอให้เกิดภัย แต่ใช้โครงสร้างที่คล่องตัว ระดมทรัพยากรมาได้เมื่อถึงคราวฉุกเฉินจะต้องบรรเทาทุกข์และฟื้นฟู เน้นป้องกันมากกว่าแก้ไขบรรเทา ให้ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่เข้าใจความเสี่ยงของตนเอง และเตรียมการไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

การไม่แนะนำให้ตั้งกระทรวงภัยพิบัติ ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เหมาะสมแล้ว ที่จริง มีงานอีกตั้งเยอะที่ต้องทำครับ ทั้ง ปภ. และ ศภช. เป็นกรมที่ใหม่มาก ยังมีที่ขลุกขลักอยู่บ้าง

« « Prev : ตกหล่น

Next : คนเมืองแบบคนป่า คนป่าแบบคนเมือง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 April 2011 เวลา 0:55

    ระเบียบๆๆๆ ราดชะกาน ตัวปัญหา ถ้าแก้จุดนี้ไม่ได้ ทุกเรื่องก็โหล่ยโท้ยต่อไป
    รู้แต่แก้ไขไม่ได้ มันก็มึนตึบ ไม่รู้จะคิดต่อยัง
    สุดท้ายก็มาจบที่ต้องพึ่งตนเองให้มาก
    พึ่งให้ได้บ้าง ยังดีกว่าไม่เคยคิดอะไรเลย
    เรื่องต่อไป ทำยังไงจะเกิดสำนึก ไม่ประมาท
    องค์กรท้องถิ่น ควรทำการบ้านเรื่องนี้
    รึ องค์การท้องถิ่นก็อยู่กติกาเดียวกันกับราชการ
    โธ่ๆๆๆ สุดท้ายก็งูกินหาง

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 April 2011 เวลา 1:05

    ทิศทางของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยคือ …… ลดอำนาจรัฐ  เพิ่มอำนาจประชาชน
    วิธีทำคือ  กระจายอำนาจ ถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  (แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องพัฒนาตัวเองและทำงานแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วม……ชุมชนท้องถิ่น =องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น+ชุมชน)  …ไม่หวังให้รัฐบาลกลางทำแบบมีส่วนร่วมแล้ว
    แต่ ณ เวลานี้  สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้  ยังอีกนาน…..อิอิ

  • #3 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 April 2011 เวลา 2:04
    ถ้าเริ่มต้นที่ประเด็นของของชีวิตและความยั่งยืนของชุมชน ทุกอย่างก็เป็นประโยชน์ร่วมกันของทุกคนนี่ครับ ชุมชนไหนพร้อมทำไปได้เลย ไม่ต้องรอรัฐ (ถ้าไม่พร้อม ยังมีตัวช่วย แต่ตัวช่วยได้แค่ช่วยนะครับ เพราะไม่มีใครจะรู้จักความเสี่ยงของพื้นที่ ดีเท่ากับคนในท้องที่เอง) การที่ประชาคมมาคิดร่วมกันเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง สมเหตุผลออกครับ

    ยกตัวอย่างเช่น ทำไมไม่มีอำเภอคู่แฝด-พี่น้องที่ห่างกันสัก 30 กม. แต่มีความเสี่ยงต่างกัน เป็นแหล่งผลิตอาหารแบ็คอัพกันและกันสำหรับกรณีฉุกเฉินล่ะครับ — แค่มองตากันแล้วตกลงด้วยสัญญาใจก็พอ — ดีกว่าขนน้ำและอาหารมาจากส่วนกลางตั้งเยอะ ส่วนอาหารที่ส่งไปช่วยอำเภอคู่แฝดเวลาฉุกเฉินนั้น ถ้าส่วนกลางซื้อ (แค่โอนเงิน) แล้วขนจากใกล้ๆ พื้นที่ประสบภัย เหมาะกว่าขนจากกรุงเทพเยอะเลยครับ

  • #4 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 April 2011 เวลา 4:06

    ภัยพิบัติสำหรับประเทศไทยได้เกิดขึ้นนานแล้ว และกำลังเกิดอยู่ในขณะนี้อย่างล้นหลามที่สุด …..ภัยพิบัตินั้นคือ  การอุบัติขึ้นมาของนักการเมืองและนักวิชาเกินไทยนั่นแล

    ขอเสนอให้ตั้ง กระทรวงปัญญา ขึ้นมาเป็นการเริ่มต้นสักที แล้วล้มกระทรวงบ้าบอทั้งหลายให้หมด …คงจะดีนะ.ผมว่า …ฮิตเลอร์ทางวิชาการน่ะเนี่ย
     

  • #5 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 April 2011 เวลา 13:30
    ถ้าตั้งกระทรวงที่ยกเว้นการใช้ระเบียบราชการ ผมเห็นด้วยนะครับท่านฮิตเลอร์ทางวิชาการ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.19479703903198 sec
Sidebar: 0.20047688484192 sec