ชีวิตนี้น้อยนัก
ชีวิตนี้น้อยนัก — บทพระนิพนธ์ ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
มนุษย์เราอยู่ร่วมกันต้องให้อภัยกัน อย่าถือสีถือสากันอย่างง่ายดาย ไม่ดีไม่ถูก นี่พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้ ความเสียสละเพื่อชาติของเรานี่ยิ่งเป็นของสำคัญ การให้ทานเพื่อชาตินี้มีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ทีเดียว เรียกว่ามหาทาน เราให้ทานคนนั้นคนนี้ ให้ทานมามากมาน้อยเพียงไรก็ตาม เรียกว่าเป็นทานธรรมดา ๆ แต่ทานนี้เราทานเพื่อชาติจึงกลายเป็นมหาทาน มีมากมีน้อยอานิสงส์มากที่สุด
เราเกิดมาเรายังไม่เคยทำมหาทานต่อชาติของเรา คราวนี้เป็นคราวสำคัญของเราแล้ว ให้ทำให้เป็นมหาทาน มหากุศลนะ เราอย่าเสียดายในสิ่งที่ให้ไปเพื่อเป็นกุศล ให้เราเสียดายที่ความตระหนี่ถี่เหนียวมันเก็บไว้นั้นนะ เสียดายให้เอาออกมาทาน เราอย่าเสียดายในสิ่งที่เราเสียสละแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่เราทั้งชาตินี้และ ชาติหน้า
มหาทานมหากุศล
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๑
[ ตัดตอนจากความตอนท้ายสุด ในบทพระนิพนธ์ ชีวิตนี้น้อยนัก ]
ชีวิตนี้แม้น้อยนัก แต่ก็เป็นความสำคัญนัก สำคัญยิ่งกว่าชีวิตในอดีตและชีวิตในอนาคต ที่ว่าชีวิตนี้คือชีวิตในชาติปัจจุบันนี้สำคัญ ก็เพราะในชีวิตนี้เราสามารถหนีกรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตได้ และสามารถเตรียมสร้างชีวิตในอนาคตให้ดีเลิศเพียงใดก็ได้ หรือตกต่ำเพียงใดก็ได้ ชีวิตในอดีตล่วงเลยไปแล้ว ทำอะไรอีกไม่ได้ต่อไปแล้ว ชีวิตในอนาคตก็ยังไม่ถึง ยังทำอะไรไม่ได้ เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่าชีวิตนี้สำคัญนัก พึงใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ ให้สมกับความสำคัญของชีวิตนี้
ชีวิตนี้น้อยนัก แต่มีความสำคัญนักด้วยเหมือนกัน ถ้าชีวิตนี้ไม่วิ่งหนีกรรมไม่ดีในอดีต ชีวิตนี้ก็จะรับผลกรรมไม่ดี ถ้าวิ่งหนีก็จะพ้นได้ กรรมไม่ดีจะตามทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับชีวิตนี้ ยิ่งกว่านั้นถ้ากรรมตามทันในชีวิตนี้ ก็จะตามต่อไปได้อีกในชีวิตอนาคต กรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตมากมาย อาจจะตามไม่ทันตลอดไปก็ได้ ถ้าทำชาตินี้ให้ดีที่สุด