อีกครั้งหนึ่งกับพระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕​

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 July 2008 เวลา 16:53 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4699

…ปัญหาของวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาของการบัญญัติ หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกวันนี้คือความปลอดภัย ขวัญดีของประชาชน ซึ่งเดี๋ยวนี้ประชาชนทั่วไปทุกแห่งทุกหน มีความหวาดระแวงว่าจะเกิดอันตราย มีความหวาดระแวงว่า ประเทศชาติจะล่มจม โดยที่จะแก้ไขลำบาก ตามข่าวที่ได้ทราบมาจากต่างประเทศ เพราะเหตุว่าในขณะนี้ ทั้งลูกชายทั้งลูกสาวก็อยู่ต่างประเทศ ทั้งสองก็ทราบดี แล้วก็ได้พยายามที่จะแจ้งให้กับ คนที่อยู่ในประเทศเหล่านั้นว่า ประเทศไทยนี้ยังแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่รู้สึกว่าจะเป็นความคิด ที่เป็นความคิดแบบหวังสูงไปหน่อย ถ้าหากว่าเราไม่ทำให้สถานการณ์อย่าง ๓ วันที่ผ่านมานี้สิ้นสุดไปได้ ฉะนั้นก็ขอให้โดยเฉพาะสองท่าน คือพลเอกสุจินดา และพลตรีจำลองช่วยกันคิด คือหันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน เพราะว่าเป็นประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากันไม่เผชิญหน้ากันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหามีอยู่ ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่า บ้าเลือด เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชน เฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง

ฉะนั้นจึงขอให้ทั้งสองท่านเข้ามา คือไม่เผชิญหน้ากัน แต่หันเข้าหากัน และสองท่าน เท่ากับเป็นผู้แทนฝ่ายต่างๆ คือไม่ใช่สองฝ่าย ฝ่ายต่างๆ ที่เผชิญหน้ากัน ให้ช่วยกันแก้ปัญหาปัจจุบันนี้ คือความรุนแรงที่เกิดขึ้น แล้วก็เมื่อเยียวยาปัญหานี้ได้แล้ว จะมาพูดกัน ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร สำหรับให้ประเทศไทย ได้มีการสร้างพัฒนาขึ้นมาได้ กลับคืนมาได้ด้วยดี อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่เรียกท่านทั้งสองมา และก็เชื่อว่าทั้งสองท่าน ก็เข้าใจว่า จะเป็นผู้ที่ได้สร้างประเทศจากซากปรักหักพัง แล้วก็จะได้ผลในส่วนตัวมากว่าได้ทำดี แก้ไขอย่างไรก็แล้วแต่ที่จะปรึกษากัน ก็มีข้อสังเกตดังนี้

ท่านประธานองคมนตรี ท่านองคมนตรีเปรม ก็เป็นผู้ใหญ่ ผู้พร้อมที่จะให้คำปรึกษาหารือกัน ด้วยความเป็นกลาง ด้วยความรักชาติ เพื่อสร้างสรรค์ประเทศ ให้เข้าสู่ความปลอดภัยในเร็ววัน ขอฝากให้ช่วยกันสร้างชาติ

พระราชดำรัสองค์เต็ม พระราชทานแก่ พลเอกสุจินดา คราประยูร และพลตรีจำลอง ศรีเมือง วันพุธที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕


การสื่อสารกับความขัดแย้ง

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 July 2008 เวลา 4:16 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4157

บันทึกนี้ มีข้อสังเกตเรื่องของการพูดคุยเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ แม้จะเป็นเรื่องที่รู้สึกลำบากใจ ความเดิมเริ่มเรื่องจากหนังสือ Getting to YES (1981) ซึ่งให้คำแนะนำสำคัญไว้หลายเรื่อง เช่น

  • อย่าต่อรองในเรื่องของจุดยืน (don’t bargain over positions)
  • แยกตัวตนออกจากปัญหา (separate people from the problem)
  • เน้นประโยชน์ไม่ใช่จุดยืน (focus on interests, not positions)
  • สร้างสรรค์ทางเลือกเพื่อประโยชน์ร่วมกัน (invent options for mutual gain)
  • ตกลงเรื่องวัตถุประสงค์ของการเจรจาก่อน (insist on using objective criteria)
  • เรื่องอื่นๆ เช่น
    • เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ก่อน ในกรณีที่การเจรจาที่เตรียมไว้ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
    • ถ้าหา win-win solution ไม่ได้ บางทีการไม่ตกลงก็อาจเป็นทางออกที่ดีเหมือนกัน (ไม่เสีย)

ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ไม่ว่าจะหลีกเลี่ยงหรือเผชิญหน้า ก็ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำให้ท่านจมปลักอยู่กับคำถามเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก เครียด นอนไม่หลับ และหาทางออกไม่ได้

ท่านไม่สามารถจะพ้นไปจากภาวะอย่างนี้ได้ จนกระทั่งตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเท่านั้น การกลุ้มใจไม่ได้แก้ปัญหาใดๆ การประนีประนอมก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีหากไม่บรรลุวัตถุประสงค์

เมื่อเจอปัญหาที่ดูเหมือนไม่มีทางออก เราอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทางออกที่ดีที่สุดคือการทำให้เป้าหมายสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ลดความกลัวและวิตกจริตซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตั้งสติเรียนรู้ที่จะจัดการกับสิ่งที่ต้องทำอย่างฉลาด

เมื่อเจอภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงเป็นไปได้ยากที่จะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ดังนั้น การไม่เข้ามาอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียตั้งแต่แรก น่าจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า ก่อนจะทำอะไร คิดไตร่ตรองเสียก่อน อย่าสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นมา


กระโถน

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 July 2008 เวลา 2:06 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 5380

เป็นกระโถนนี่ ใครมีขยะ+สิ่งปฏิกูลอะไรก็ทิ้งมาหมด จึงทำให้เห็นอะไรจากหลายมุม และรู้สึกกระอักกระอ่วนกับหลายเรื่องที่ไม่เหมาะที่จะพูด กระโถนไม่ได้สร้างสิ่งปฏิกูลขึ้นมา แต่สิ่งปฏิกูลถูกสร้างมาจากผู้คนอันสูงส่งต่างหาก

บอกได้อย่างหนึ่ง ว่าเรื่องที่คิดว่าใช่แน่ๆ นั้น อาจพลิกเป็นอีกอย่างได้อย่างน่าอัศจรรย์

คนเรานี่ก็แปลก ชอบถามหาเหตุผลโดยไม่รู้หรอกว่าเหตุผลกับข้อแก้ตัวนั้น เป็นเรื่องที่ทับซ้อนกันอยู่ ใช่หรือไม่ใช่ขึ้นกับมุมมอง — จุดดำในรูปทางขวา มีขนาดเท่ากันทั้งสองจุด

illusionความผิดเป็นของคนอื่นทั้งนั้น เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็พยายามทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดังนั้นความผิดจึงเป็นของคนอื่นเสมอ คนอื่นโง่ ไม่แยกแยะดีชั่ว มีตัวเราดีและถูกต้องคนเดียว

ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ไปหาพวกพ้องใกล้ตัวมาผลัดกันชม ชมกันไป ชมกันมา สบายใจดี

ยิ่ง “สูง” ก็ยิ่งกลัวตก ยิ่งได้รับการยกย่อง ยิ่งทำให้หลง และกลับยิ่งมีพื้นที่ในจิตใจที่จะต้องรักษามากขึ้น ติดแหงกอยู่กับอัตตา

จะแก้ไขความขัดแย้งเปิดใจก่อนครับ เข้าใจก่อนว่าขัดแย้งกันเรื่องอะไร ถ้าเอาตัวตน ฝักฝ่ายเข้ามาปน สาเหตุก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะมันจะนำไปสู่สถานะ ชนะหรือแพ้เท่านั้น การแก้ไขกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป



Main: 0.081074953079224 sec
Sidebar: 0.15586495399475 sec