ขึ้นรอบปีที่สี่ของลานปัญญา

15 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 July 2011 เวลา 16:29 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4324

เวลาตกฟากของลานปัญญาเป็นวันที่ 4 ก.ค. 2551 15:22 เวลาประเทศไทย (ตอนนั้นเซอร์เวอร์อยู่ที่สหรัฐ เดือนต่อมาจึงย้ายกลับเมืองไทย) วันนี้จึงไม่ใช่วันเกิดของลานปัญญา แต่ผมอยากจะเขียนวันนี้ ก็เลยเขียน

ในรอบปีที่ผ่านมา ระบบมีเสถียรภาพดีเลิศเช่นปีที่ผ่านๆ มา ลานปัญญาทำงานตลอดวันตลอดคืน ตลอดทั้งปี รีบู๊ตเครื่องไปสักสามสี่ครั้งมั๊งครับ เซอร์เวอร์ของลานปัญญา แม้จะเก่าแก่มากแล้วแต่ก็ยังทำงานได้ดี ถึงจะไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดแบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ แต่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในลักษณะของลานปัญญาและต้องขอขอบคุณผู้ดูแล ซึ่งเป็นสมาชิกลานปัญญาที่ไม่ค่อยเขียนอะไร ยินดีที่จะทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลัง ขอบคุณมากครับ ถ้าคุณไม่ช่วย คงไม่นิ่งอย่างนี้

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรประมาทกับความเสื่อม ควรจจะจัดหาเซอร์เวอร์ใหม่เพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับอายุการใช้งาน และเสถียรภาพทางความร้อนจากการเปิดใช้งานตลอดเวลามาหลายปี เอาเซอร์เวอร์เก่าไปเป็นระบบสำรอง เงินส่วนนี้มีอยู่แล้ว จากการพิมพ์หนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑ และ ๒ ขาย

ในส่วนของซอฟต์แวร์ ก็สมควรอัพเกรดไปใช้ Wordpress รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่ยังไม่ได้ทำเสียทีเป็นเพราะผมมีงานเยอะ หากอัพเกรดซอฟต์แวร์ จะกลายเป็นงานหนักสองด้านพร้อมกัน ซึ่งทำไม่ไหว… ไม่รู้ว่ายังจำได้หรือเปล่าถึงความกังวลในตอนเริ่มต้นลานปัญญา ว่าจะต้องจ้างใครมาดูแลเป็นการเฉพาะหรือเปล่า ผมตอบไปว่าหากช่วยกันประคับประคองสมาชิกใหม่ รู้อะไรบอกอย่างนั้น แบบนี้ก็จะไม่เป็นภาระหนักกับ admin มากนัก ซึ่งในที่สุดท่านจอมป่วนก็ระดมช่วยกันเขียนคู่มือขึ้นมา ทีนี้ถ้าอัพเกรดซอฟต์แวร์ ก็ต้องปรับปรุงคู่มือด้วยนะครับ รูป/ตำแหน่งต่างๆ จะไม่เหมือนเดิม

เกิดคณะกรรมการสมาชิกสัมพันธ์ขึ้นมา ไม่มีใครแต่งตั้ง ไม่ต้องออกหน้า แต่มีขึ้นมาแล้ว (พี่ตึ๋ง พี่บู๊ด พี่ฑูร) เพื่อช่วยกันทำงานดูแลสังคมลานปัญญา

ปีที่ผ่านมา มีงานเฮย่อยๆ หลายครั้ง การจัดงานเฮใหญ่ยากขึ้นเนื่องจากสมาชิกว่างไม่ตรงกัน จึงรวมพลคณะใหญ่กันได้ลำบาก อาจจะจัดตารางกันง่ายกว่า หากนัดล่วงหน้าเป็นเวลานาน

หลังจากหนังสือเจ้าเป็นไผเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ทำให้มีสมาชิกกล้าตายใหม่ๆ เข้ามาเขียนในลานปัญญามากขึ้น ในขณะเดียวกัน มีการส่งบันทึกของปัญญาไปยัง Facebook อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ชอบแบบนั้น

อ่านต่อ »


หนึ่งพันบันทึกในลานซักล้าง

8 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 January 2011 เวลา 20:59 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 3017

บันทึกนี้เป็นบันทึกที่หนึ่งพันในลานซักล้าง แต่ไม่ใช่สหัสนิยายแน่นอน

ตั้งแต่เริ่มเขียนมาในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 รวม 880 วัน ไม่ได้เขียนทุกวัน แต่บางวันเขียนมากกว่าหนึ่งบันทึก — ลานซักล้างมีผู้อ่านหลากหลาย เป็นเรื่องยากที่จะเขียนให้ทุกคนเข้าใจอย่างเดียวกันหมด ด้วยรายละเอียดที่เท่ากัน เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานต่างกันครับ

ลานซักล้างไม่ได้พยายามจะผลิตคนเป็นสินค้าอุตสาหกรรมนะครับ ผมไม่ได้พยายามเขียนให้ง่ายเกินไป แต่ก็ไม่ได้พยายามจะให้ยากเกินไป คิดว่าเด็กมัธยมสายวิทยาศาสตร์ น่าจะอ่านรู้เรื่อง

ที่นี่ให้แง่คิด อย่างน้อยผมก็หวังว่าจะมีแง่คิดให้ผู้อ่านเสมอ แต่กลับก็ไม่ได้สนใจมากนัก ว่าผู้อ่านจะคิดเหมือนผมหรือไม่หรอกครับ อ่านแล้วควรจะแตกต่างกับไม่ได้อ่านบ้าง ถ้าอ่านแล้วไม่แตกต่าง เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ดีกว่า

ที่นี่ไม่มีสูตรสำเร็จอะไรให้ผู้อ่าน ถ้าจะได้อะไรไปจากบล็อกนี้ ก็ควรนำประเด็นไปปรับใช้ มากกว่าการนำไปใช้ดื้อๆ ทั้งดุ้น

หากผมเขียนแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง ผ่านไปเลยก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว หรือว่าถ้าถามมา ก็จะพยายามชี้แจงแง่คิดมุมมองของผม — ทั้งนี้เป็นเพราะคนแตกต่างกัน สังคมต้องการความแตกต่างกันบ้าง แต่ควรมีปัญญาพอที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

เมื่อเข้ามาอ่านบันทึกใดบันทึกหนึ่ง ขอให้สังเกตว่าข้อความที่มีขีดเส้นใต้ จะเป็นลิงก์ไปยังข้อมูลอื่น เพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้เอง ไม่ต้องทำตัวเป็นลูกอีแร้ง

อ่านต่อ »


งาน Ignite Thailand++ ครั้งที่ 2

อ่าน: 4763

เมื่อตอนหัวค่ำ มีงาน Ignite Thailand++ ครั้งที่ 2 ที่หอประชุมจุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย ระหว่าง 18:00-21:00

โดยส่วนตัว คิดว่า Igniter ในครั้งนี้ พูดดีมากๆ ทุกคนเลยครับ แล้วเป็นเรื่องน่าแปลกใจอยู่เหมือนกันว่า เนื้อเรื่องจาก Igniter แตกต่างกัน มีรายละเอียด แง่คิด มุมมองที่แตกต่างกัน แต่กลับนำสู่ข้อแง่คิดในทางเดียวกัน และไปในแนวของวิดีโอคลิปอันที่สองของเครือข่ายพลังบวก (ข้างล่างนี้) โดยมิได้นัดหมาย

รายละเอียดผมไม่เขียนหรอกครับ รอดูคลิปเมื่อทำเสร็จก็แล้วกัน เพราะว่าทุกอันละเอียดอ่อน สไลด์ก็ดีมาก

วิดีโอคลิปอันที่สองของเครือข่ายพลังบวก “Power of One” แบบ 120 วินาที - ผ่านเซ็นเซอร์แล้ว คำตอบในคลิป เป็นคำตอบที่แต่ละคนตอบเอง (ไม่มีบท และไม่มีค่าตัว)

อ่านต่อ »


โนรา มุทิตา

9 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 6 October 2010 เวลา 21:40 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4592

เรื่องเริ่มตั้งแต่ไปเยี่ยมฤๅษีอ้นช่วงหน้าหนาวปีที่แล้วครับ ระหว่างไปดูดาวบนหลังคา ได้กลิ่นไม้หอมอันหนึ่ง หอมมากเหมือนดอกส้มจากแคว้นโพรวองซ์ในฝรั่งเศสที่แม่ให้ใส่รถไว้ซองหนึ่ง (คล้ายกับบุหงาแต่อยู่ในซองกระดาษ) ป้าจุ๋มซึ่งนั่งรถผมบ่อยก็บอกว่ากลิ่นเหมือนกันเลย หอมชื่นใจ ก็เลยออกปากถามไถ่ฤๅษีอ้น ได้ความว่าเป็นดอกโนราครับ [ข้อมูลน่าอ่าน] และเพราะว่าสนใจ ป้าจุ๋มกับผมเลยได้กันมาคนละสองถุง

คุณ Fiyero ผู้เขียนบันทึกให้ความรู้เกี่ยวกับโนราข้างบน พูดไว้ตอนท้ายว่า

บทความนี้ก็มีกลิ่นหอมของดอกไม้มาสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในชีวิตนะครับ การดำเนินชีวิตที่แสนสั้นของคนเรานั้นควรยึดหลักความถูกต้องและคุณธรรมจริยธรรมที่ดี เหมือนกับโคลงโลกนิติบทข้างล่างนี้ที่แปลความได้ว่า “แม้ดอกไม้จะหอมเพียงไร ก็เดินทางได้เพียงลมพา แต่ความหอมของความดีที่ผู้มีศีลธรรมกระทำนั้น จะได้รับการเชิดชูไกลกว่าที่ดอกไม้จะส่งกลิ่นไปถึงได้”

หอมกลิ่นดอกไม้ที่ นับถือ
หอมแต่ตามลมฤา กลับย้อน
หอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ ศีลสัตย์ นี้นา
หอมสุดหอมสะท้อน ทั่วใกล้ไกลถึง

ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองครับ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกท่านที่คิดดีทำดีตลอดไปครับผม

ช่างเข้ากับอาจารย์วรากรเหลือเกิน รู้มาว่าปีนี้อาจารย์จะเกษียณอายุ ก็อยากจะแสดงความขอบคุณที่อาจารย์ยอมให้ป้าจุ๋มไปเที่ยวกับพวกเรา นอกเหนือไปจากงานที่ทุ่มเททำมาทั้งชีวิตครับ

ผมอยากให้ต้นไม้ เพราะต้นไม้มีชีวิต เติบโตงอกงามได้ ก็เลยไปตลาดนัดธนบุรีเมื่อปลายเดือนก่อน เพื่อเลือกหาต้นไม้ — เจอแต่ไม้ประดับที่มีชื่อเลิศหรู ซึ่งก็เป็นเพียงชื่อที่คนตั้งให้ ล่อลูกค้าจิตอ่อน

ดูไปดูมาไม่รู้จะหาอะไร ไปลงเอยที่โนราครับ เป็นไม้โบราณหายากแล้ว แต่หอมได้ใจ และไม่ได้หอมพร่ำเพื่อ คือหอมเฉพาะดอก และออกดอกสวยหน้าหนาว (รูปประกอบจากบล็อกในลิงก์แรก)

นัดกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าอีกสัปดาห์หนึ่งจะหามาเอาสองต้น ต้นหนึ่งไปบ้านป้าจุ๋ม อีกต้นจะอยู่บ้านผม แล้วก็เกิดอุบัติเหตุครั้งแรก พอวันนัด โทรไปหากลับบอกไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เตรียมไว้ เฮ้ย! จะเอาไปให้ผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุนะ อยู่ดีๆ มาเบี้ยวได้อย่างไร คนขายก็ขอโทษขอโพย เฮ้อ…ไม่เป็นไร คนเราผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้ตัวแล้วไม่ผิดซ้ำสอง ก็ไม่เป็นไร ผมก็ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเอาสองต้นนะ นัดกันว่าจะไปรับวันนี้

วันนี้ไปรับ เฮ้ยอีก!! มีต้นเดียว ถามว่าทำไมถึงมีต้นเดียว คนขายบอกว่าก็ไม่รู้้ว่าจะมารับหรือไม่ จะไม่รู้ได้ยังไงในเมื่อทั้งโทรมาตาม และยืนยันตั้งหลายครั้ง

อ่านต่อ »


ส่งไป Facebook

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 1 September 2010 เวลา 6:46 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 3625

รูปนี้ ใช้เป็นรูปแทน feed ที่ส่งบันทึกใหม่ของลานปัญญาไปที่ Facebook ครับ มาจากกล้องของอาราม ถ่ายเมื่อตอนไปเที่ยววัดพระแก้ว เชียงราย ตอน เฮฯ 6 ครูบาเห็นแล้วบอกชอบรูปนี้

ผมเลือกรูปนี้ ก็ตอนที่ค้นรูปหมื่นเจ็ดพันรูปที่เก็บไว้หารูปต้นไม้ ไปสะดุดตารูปนี้ คิดว่าแสดงลักษณะของชาวเฮได้ดี ในแง่ที่กอไผ่ แม้เกิดจากหน่อคนละหน่อ มีความรู้ความชำนาญที่แตกต่างกัน แต่เมื่อเติบโตขึ้นไป ใบไผ่กลับประสานเป็นกลุ่มก้อน แยกแยะไม่ออกไม่ว่าจะด้วยสีหรือรูปพรรณสัณฐาน ต่างเติบโตขึ้นสู่ท้องฟ้าในทิศทางเดียวกัน ไผ่ลำเล็กหรือลำใหญ่ก็ไม่สำคัญ เมื่ออยู่ในกอเดียวกัน ก็เป็นไผ่กอเดียวกัน บางลำโตไม่ทันลำอื่น บางลำโตแบบโค้งงอ ลำไม่สวยไม่เนียนก็ไม่เป็นไร — ที่จริง เรื่องนี้ก็แค่การเลือกรูปครับ ไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้

อ่านต่อ »


รอบปีที่สองในการเป็นบล็อกเกอร์ที่ลานปัญญา

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 July 2010 เวลา 16:40 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 3934

ลานซักล้างนี้ เป็นบล็อกแรกของลานปัญญา สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2551

ถ้าถามว่าทำไมจึงใช้ชื่อนี้ ฟังดูเหมือนจะซักผ้าอะไรทำนองนั้น ก็ต้องเรียนว่าถ้ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มนุษย์ปรับปรุงตัวและจิตใจได้ครับ จึงเป็นวิถีปกติที่จะชำระสิ่งอกุศลและอัปมงคลออกไปตามกำลังของแต่ละคน ดังที่เขียนอธิบายไว้ใน [เกี่ยวกับบล็อกนี้]

ผมตั้งใจเขียนทุกบันทึก ต้องการให้บันทึกแต่ละเรื่องของผมมีแง่คิด ปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ ไม่ขึ้นกับกาลเวลา จะได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร จึงมักไม่ค่อยเขียนเรื่องเฉพาะกาล แม้บางครั้งเขียนเล่าถึงประสบการณ์ ก็(หวังว่า)เป็นบันทึกการเรียนรู้มากกว่าบันทึกประจำวัน รอบปีก่อนเขียนไว้ในบล็อกนี้ 470 บันทึก รอบปีที่ผ่านมานี้เขียนอีก(ถึงตอนนี้) 343 บันทึก วันที่ไม่ได้เขียนมักเกิดจากเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายไม่ได้เนื่องจากอุปกรณ์โทรคมนาคมเสีย ซึ่งไม่เขียนทุกวันก็ดีไปอย่างนะครับ คือไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่จะต้องรักษาหรือทำสถิติ ซึ่งถ้าเขียนแล้วไม่ได้ให้อะไรกับใคร ก็ไม่อยากจะเขียนหรอกครับ ไม่รู้ว่าเหนื่อยไปทำไม

ตามประสาบล็อกเรื่องมาก ถ้า browse ดูไม่ไหว ก็เลือกเรื่องได้จาก [สารบัญ] ทางมุมบนขวาของทุกหน้าครับ

บันทึกที่มีคนเข้ามาดูมากคือ [สุภาษิตสอนหญิง (ฉบับเต็ม) - สุนทรภู่] ส่วนใหญ่เข้ามาดูผ่าน google (รู้เพราะดูจาก log ซึ่งต้องเก็บตาม พรบ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์) ตอนนี้มีประมาณแปดพัน pageviews จะดูว่ามากหรือน้อยก็ไม่สำคัญหรอกครับ เมื่อผมลงแรงพิมพ์แล้วมีคนได้ประโยชน์ ผมก็ดีใจแล้ว

แต่ถ้ามีคนมาทิ้งความเห็นไว้ ผมดีใจมากกว่ามีคนอ่านเยอะเลย จะได้แลกเปลี่ยนกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความเห็นเกือบทุกบันทึกนะครับ — น่าแปลกที่บันทึกที่ไม่มีความคิดเห็น กลับมีคนติดต่อมาคุยกันหลังไมค์เยอะเหมือนกัน — สำหรับความคิดเห็นที่ทิ้งไว้ในบันทึก ผมพยายามตอบเท่าที่ตอบได้ แต่ไม่ตอบหากไม่มีประเด็นอะไรเพิ่ม หรือเขียนทิ้งไว้โดยไม่มีประเด็นใดๆ และไม่มีคำถาม

ในปีที่ผ่านมา บันทึกในลานซักล้าง ส่งไปลง Twitter ซึ่งส่งต่อไปยัง Facebook อีกทีหนึ่ง แต่ความเห็นใดๆ อันต่อเนื่องจากบันทึก ไม่ได้ส่งกลับมายังลานซักล้าง


ขึ้นรอบปีที่สามของลานปัญญา

13 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 July 2010 เวลา 19:59 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 6222

ลานปัญญาเป็นชุมชนออนไลน์เล็กๆ ที่มีลักษณะที่ค่อนข้างชัดเจน คือ

  1. สมาชิกเกือบทั้งหมด รู้จักกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวตนเสมือนจึงไม่จำเป็น เพราะในที่สุดทุกคนก็จะเข้าใจเองว่าอะไรเป็นอะไร — การแนะนำตัวของสมาชิกใหม่จึงสำคัญมากต่อการเริ่มต้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกอื่นๆ ลานปัญญาไม่ใช่ที่หลบซ่อนตัวในโลกเสมือน
  2. เรายอมรับสมาชิกแต่ละท่านแบบที่เป็น ซึ่งหมายความว่าชอบก็ตามอ่าน ไม่ชอบหรือไม่มีเวลาก็ไม่อ่าน จะเขียนก็เขียน ไม่เขียนก็ไม่เป็นไร จะให้ความเห็นก็ให้ ถ้าไม่มีประเด็นเพิ่มเติมหรือไม่มีอารมณ์ก็ไม่ต้องให้ ต่างคนต่างเลือกเองอย่างอิสระ ไม่ต้องให้เหตุผล
  3. ลานปัญญาอาจเป็นแบบจำลองของสังคม ในแง่ที่ว่าเรายอมรับความแตกต่างได้ตราบใดที่ไม่เบียดเบียนใคร และยืนอยู่บนประโยชน์ร่วมกัน+ความสงบสุขของชาวลานปัญญา — ต่างคนต่างมีดีกันคนละอย่างหรือหลายอย่าง ไม่ต้องเหมือนกัน สังคมจึงจะได้สัมผัสแห่งความชำนาญความรอบด้าน
  4. สมาชิกของลานปัญญาเป็นสุภาพชน ที่รวมตัวกันอยู่บนความแตกต่าง — แต่ละคนมาจากหลายหลายสาขาอาชีพ มากกว่าจะเป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญทางใดทางหนึ่ง ทำให้ลานปัญญามีความหลากหลายเช่นเดียวกับชีวิตของคน ซึ่งจะไม่เจอแต่เรื่องเดียวซ้ำซากอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรียนอะไรมาสูงแค่ไหน ทำงานอะไรตำแหน่งใหญ่โตขนาดไหน จึงไม่จำเป็นต้องเบิ้ลใครเพื่อให้ตัวสำคัญขึ้นมา — ซึ่งนั่นทำให้ลานปัญญา ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงเครื่องมือสื่อสาร ดูเสมือนกับมีชีวิตชีวา
  5. ลานปัญญาไม่ยุ่งกับเรื่องการเมือง และไม่ให้มีการโฆษณา (อันไม่ใช่สาธารณประโยชน์)
  6. โครงสร้างลานปัญญาเป็นบล็อก สมาชิกผู้สร้างบล็อกเป็นเจ้าของบล็อก จะดูแลบล็อกของตัวเองอย่างไรก็ได้ตราบใดที่ไม่ละเมิดกฎหมาย เหมือนดูแลบ้านของตัวเอง — ไม่รู้อะไรก็ถาม ถ้าไม่ถามจะเรียนเองก็ได้ ถ้าไม่ชอบใจไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร ย้ายบล็อกออกไปที่อื่นได้ ไม่มีกั๊กครับ

อ่านต่อ »


ลดขนาดภาพ

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 March 2010 เวลา 0:06 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 3962

เพื่อประโยชน์แห่งการชะลอการเพิ่มของเอนโทรปีของจักรวาล (นี่เขียนเป็นภาษาอะไรเนี่ย) การอัพโหลดรูปภาพควรจะลดขนาดไฟล์ลงให้มาก จะประหยัดทั้งพื้นที่และเวลาในการโหลด ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ชม และเซอร์เวอร์

แต่ถ้าไม่มีเครื่องมือจะทำ ลองอันนี้ครับ http://webresizer.com/resizer/

อัพโหลดรูปขึ้นเว็บ webresizer แล้วปรับแต่งขนาดภาพ ความคมชัด ฯลฯ ตามต้องการ จากนั้น คลิกขวา เลือก Save Image As บนรูปใหม่ หรือคลิกที่ “download this image” ซึ่งจะปรากฏขึ้นหลังจากที่เราอัพโหลดรูปขึ้นไปแล้ว

มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง คือเว็บนี้ไม่บอกว่าเก็บรูปของเราไว้หรือไม่ (ควรลบทิ้ง)


รูปประจำบล็อก

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 15 February 2010 เวลา 22:55 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4676

โดยปกติ โปรแกรมที่ใช้ควบคุมลานปัญญา ไม่มีที่ให้ใส่รูปประจำตัวหรอกครับ แต่ว่ามีการใช้รูปประจำตัว (gravatar) เวลาไปให้ความคิดเห็นตามที่ต่างๆ

มีสมาชิกหลายท่าน ที่พบวิธีติดรูปประจำบล็อก กล่าวคือใช้ Text Widget เขียน HTML Code ที่แสดงรูปลงไป ซึ่งเป็นวิธีที่สะอาดและตรงไปตรงมามากครับ มีปัญหาอยู่อันหนึ่งซึ่งผมเคยตอบไปหลายครั้งแล้ว (และรู้ว่าผู้ถาม ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะต้องทำอย่างไร)

ปัญหาคือจะทำอย่างไรที่จะให้รูปประจำตัวกับรูปใน Gravatar ตรงกัน ถ้าเปลี่ยนรูปใน Gravatar ให้รูปประจำตัวเปลี่ยนด้วย

เรื่องนี้ก็ไม่ยากหรอกครับ ถ้ามีรูปประจำตัวอยู่แล้ว ยิ่งง่ายใหญ่

อ่านต่อ »


Logos เป็นหยัง

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 February 2010 เวลา 3:00 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4088

ชื่อ Logos นี้ (อ่านว่าโลกอส หรือ ลอกอส อ่านออกเสียง) พระอาจารย์ชัยวุธท่านตั้งให้ เป็นคำที่มีความหมายสำคัญในวิชาปรัชญา ท่านเคยเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.)

wikipedia ให้ความหมายไว้หลายอย่าง ตั้งแต่ในปรัชญากรีก คริสต์ศาสนา เทววิทยา จิตวิทยาวิเคราะห์ ซึ่งทั้งสี่อาจจะเกินจากบริบทที่พระอาจารย์ชัยวุธตั้งให้

อนึ่ง เมื่อถือเอาตามนี้ ก็อาจแปล Logos ได้ทำนองว่า..

  • Logos แปลว่า คำพูด หรือ คำศัพท์…… นั่นคือ God สร้างสรรพสิ่งด้วยคำพูด
  • Logos แปลว่า จิต เจตจำนง หรือ ความคิด….. นั่นคือ God สร้างสรรพสิ่งด้วยเจตจำนง
  • Logos แปลว่า ความรู้ หรือ ปัญญา …… นั่นคือ God สร้างสรรพสิ่งด้วยปัญญา
  • ฯลฯ

ในปรัชญาสมัยใหม่ ให้ความหมายไว้แบบที่น่าจะแปลเป็นไทยได้สั้นๆ ว่า โลกทัศน์ คือการมองภาพใหญ่ เห็นความแตกต่าง หลากหลายตามความเป็นจริง กล่าวคือ Logos คือแนวคิดต่อโลก ต่อองค์รวม ต่อสังคม ต่อองค์กร ที่ให้น้ำหนักกับหมู่คณะมากกว่าปัจเจกชน และพบในพจนานุกรมและสารานุกรมหลายฉบับ ที่หมายถึง “คำ” ที่มีความหมายศักดิ์สิทธิ์ (ออกแนวพระผู้สร้าง-จักรวาล ทำนองนั้น)

คาร์ล กุสตาฟ จุง ชาวสวิส-เยอรมัน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่งจิตวิทยาวิเคราะห์  ได้ให้คำนิยามที่น่าสนใจไว้ว่า Logos คือเพศชายของหลักแห่งเหตุผลและจิตสำนึก เป็น hard-side; ส่วนเพศหญิงของหลักแห่งเหตุผลและจิตสำนึก คือ Eros (ภาษากรีกเช่นกัน แปลตรงตัวว่าความรัก) แต่ในที่นี้หมายถึงความเชื่อมโยง เป็นด้าน soft-side

ทางด้านปรัชญาตะวันออก ก็ไม่ใช้ภาษากรีกอยู่แล้ว แต่คำว่า Logos น่าจะเทียบได้กับคำว่าหยาง ในหยิน-หยาง เป็นสีขาว ในขาว-ดำ เป็นกลางวัน ในวัน-คืน เป็นเพศชาย ในชาย-หญิง เป็นความร้อน ในร้อน-เย็น

อาจจะต่างกับความเชื่อโดยทั่วไปว่า “คู่” ธรรมชาตินี้ เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันและอยู่กันคนละขั้วเสมอ — ผมกลับคิดว่าไม่ว่าจะเป็นขั้วใด อีกขั้วหนึ่งก็เป็นสิ่งที่ขาดไปของตัวเองเสมอ จะต้องใช้ทั้งสองด้านจึงจะสมบูรณ์ ขาดไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะแหว่ง จะเบี้ยวทันที

ไม่รู้ว่าแม่นหรือเปล่านะครับ รู้แต่ว่าไม่ควรตอบว่าแม่นหรือไม่แม่น เพราะว่าถ้าเลือกเมื่อไหร่ ก็แหว่ง ก็เบี้ยว เสียสมดุลย์ทันที จะเป็นอะไร ก็เป็นอย่างนั้นล่ะครับ

Logos ที่เป็นคนนั้น ไม่สามารถจะตัดสินด้วยคำว่าแม่น ไม่แม่น ใช่ ไม่ใช่ นะครับ



Main: 0.048595905303955 sec
Sidebar: 0.128093957901 sec