สู่ความปลอดภัย
หลังจากประเมินสถานการณ์ สี่ทุ่มคืนวันเสาร์(22) ผมก็ตัดสินใจโทรบอกทุกคนในบ้านกลางดึกให้อพยพทันทีในตอนเช้า(23)
ทุกคนช็อคแน่นอนครับ… มีการเตรียมการป้องกันบ้านมาเป็นอย่างดีแล้ว มีน้ำ-มีอาหารสำรองไว้พอสมควร มีเขื่อน มีปั๊มน้ำ มีเรือ มีความสามารถในการจุดไฟหุงหาอาหารเมื่อครัวหลักใช้ไม่ได้ มีความรู้ และมีข้อมูล… แต่การเตรียมพร้อมนี้ ไม่สามารถจะประเมินความเป็นมือสมัครเล่น และความเป็นอันธพาลของคนบางกลุ่มได้
สำหรับผมแล้ว ยังไงก็ดูความปลอดภัยของพ่อกับแม่ก่อนครับ จึงเดินทางมาบ้านพักตากอากาศ พ่อแม่รู้สึกสบายใจที่จะอยู่ที่นี่และสามารถอยู่ได้เป็นเวลานานๆ ผมมาถึงที่พักก็น็อคไปเลย แบตหมดทั้งคนและโทรศัพท์
ที่ประเมินไว้ สถานการณ์นี้จะนานหลายเดือน เขียนมากไม่ได้ อยากรู้ก็โทรมาถามก็แล้วกัน บอกได้เพียงแต่ว่า แม้ยกเอาอคติออกไป การมองชั้นเดียวก็จะเห็นแต่เปลือก ซึ่งอาจจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดไปได้ ถ้ามองความเชื่อมโยงลึกๆ พูดไปคนก็ว่าบ้า… เรื่องถูกผิดเป็นเรื่องกระจอกครับ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไร
ก่อนออกมาจากบ้าน เตือนเพื่อนที่อยู่ในบริเวณที่เสี่ยงที่สุดจากความวิปลาส ความดื้อรั้นและการไม่มองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ว่าอย่าเห็นว่าน้ำลดแล้วความเสี่ยงจะลด ให้เตือนเพื่อนคนอื่นๆ แถวนั้น และแนะนำให้ออกมาทันทีที่มีโอกาส
มาถึงจุดหมาย เห็นความขาดแคลน น้ำเริ่มหายาก (ถ้าไม่ดัดจริตนัก ดื่มน้ำประปาก็ได้ ดีกว่าดื่มน้ำคลอง) มีถึงขนาดที่คนกว้านซื้อน้ำเข้าไปในกรุงเทพ คิดว่าคงไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ถ้าตัดสินใจจะอยู่ในกรุงเทพ ก็จะต้องอยู่ในภาวะที่พึ่งตัวเองได้ 100% ขนาดที่ว่า ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแก๊ส ไม่มีน้ำมัน เดินทางไม่ได้ และเงินหาซื้ออะไรไม่ได้ ฯลฯ ถ้าอยู่อย่างนี้ได้ ก็โอเคนะครับ
อย่ามาคิดว่าท่านมีทรัพย์สินที่มีค่าจะต้องรักษาเลยครับ ถ้าท่านรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ ทรัพย์สินของท่านก็ไม่มีค่าอะไรหรอก
อยู่ตัวคนเดียว จะทำอะไรก็ทำไป แต่ผมคิดว่าอย่าเอาชีวิตของคนที่รักมาเสี่ยงเลยครับ หาทางขยับขยายซะดีกว่า เป็นผู้อพยพดีกว่าเป็นผู้ประสบภัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะกำลังในการเข้าไปช่วยเหลือมีจำกัดมาก… ไม่ว่ากูรู เทพธิดาพยากรณ์ หรือผู้รู้ดีทั้งหลายจะว่าอย่างไร ท้ายที่สุด ตัวท่านจะต้องตัดสินใจเอง เลิกโบ้ย เลิกดันทุรัง เลิกพยายามจะฉลาดเสียทีครับ อยากให้หยุดคิดสักพัก มองไปให้รอบตัว ซึ่งถ้ายังไม่เห็นความหมายอะไร ก็สุดแต่บุญกรรมของแต่ละคนก็แล้วกัน ไม่ว่าคำว่า “เอาอยู่” จะแปลว่าอะไรก็ตาม
อ่านบันทึกนี้ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะว่าถ้าย้อนกลับไปดูในบล็อก ผมเขียนเรื่องทำนองนี้ล่วงหน้ามาเป็นปีแล้ว ไม่ค่อยมีใครเก็ตเหมือนกันครับ ผมไม่ต้องการอะไรนอกจากให้คน(ที่เก็ตแล้ว)ตระหนักว่ายังมีทางออก เพียงแต่ว่าต้องพึ่งตนเองให้มาก
ขอให้ทุกท่านโชคดี
« « Prev : ความหมายของการเตือนภัย
Next : วันที่น้ำเข้ากรุงเทพ » »
11 ความคิดเห็น
ทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว ใครเก็ตไม่เก็ต ก็แล้วแต่….บุญกรรม….ของแต่ละคนครับ
สิ่งต่าง ๆ ต้องเป็นไปตามธรรมชาติของมัน
โล่งใจที่เห็นการตัดสินใจอพยพ ขอให้โชคดี พักสักหน่อย เพื่อให้มีแรงช่วยคิดเพื่อช่วยคนกันต่อไป ธรรมชาติเอาคืนคราวนี้….แรงงงงงงงงงงงง….เพราะผสมโรคทำตัวเองเข้าไปหลายซับหลายซ้อน
เห็นด้วยครับ
แต่บางคนบางครอบครัวมีเงื่อนไขที่ต้องขึ้นต่อ
ตัวอย่างของผมนะ รอส่งภรรยาจะต้องลงไปภาคใต้วันที่ 25 นี้เพราะมีโปรแกรมที่วางไว้นานแล้วการเตรียมตัวทำไปแล้ว
ลูกสาวเป็นฝ่ายจัดซื้อของ บิกซี สำนักงานใหญ่ ต้องจัดการในความรับผิดชอบของเขาตลอดเวลา บริษัทไม่อนุญาติให้อพยพไปไหน ผมเองนั้นอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ เพราะลักษณะงานช่วงนี้อิสระ
แต่เราวางแผนพร้อมที่จะเดินทางได้ตลอดเวลาตราบใดที่เราประเมินเองว่า ถึงที่สุดแล้วนะ ทางหนีทีไล่ มีพอสมควร
เราคิดเหมือนพี่ชายยาหยีผม ท่านเป็นอดีตรองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ปิดบ้านที่กรุงเทพฯไปนานแล้วและบินไปหัวเราะที่สุราษฎร์ธานีดังลั่นมาถึงญาติพี่น้องกรุงเทพฯ อีกคนเป็นรองผู้ว่าการประปานครหลวง ก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเสียงแหบแห้งมาหลายสัปดาห์แล้ว เพราะต้องรักษาคลองประปา และคุณภาพน้ำประปาให้ได้มาตรฐาน น้ำประปาดื่มได้นั่นแหละครับ ทั้งที่บ้านตัวเองอยู่พงษ์เพชร ส่วนตัวก็ให้ครอบครัวรับผิดชอบไป ตัวเองต้องไปรับผิดชอบสังคมในยามวิกฤต
เรายังดีกว่าคนอีกจำนวนมาก เมื่อวานก่อนเพื่อนลูกสาวก็อพยพมาจากบางบัวทอง มาพักอาศัยด้วย เราก็ยินดี ทำข้าวปลาอาหารเลี้ยงให้ มีที่กินที่นอนให้ตามสมควร
หากไม่มีภาระผูกพัน เผ่นไปนานแล้วเหมือนกัน…
ดูข่าวบอกว่า อาจจะนานกว่า 6 สัปดาห์ แต่คิดว่า หลังน้ำจากไปแล้วกรุงเทพฯ คงไม่เหมือนเดิม
ในระยะต่อไป โรคติดต่อต้องระวังมากเลยค่ะ
คนที่ยังจำเป็นต้องอยู่ในกรุงเทพฯ
ถ้าพกเจลล้างมือได้ก็ต้องทำ ซื้อด่างทับทิมไว้ใช้บ้างก็ดีนะคะ
ที่หลบออกจากกรุงเทพเพราะเข้าใจภัยที่กำลังจะมา “กำลังจะ” แปลว่ายังไม่มา ถ้าคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นภัยแล้ว รอดูไคลแม็กซ์อีกสักพักสิครับ จะถ่ายวิดีโอไว้ก็ได้ เผื่อจะมีล้านคลิกบน YouTube ดังไปเลย
ต่อเน็ตผ่านมือถือ แปลว่าใช้ได้เป็นช่วงๆ คงพักอยู่แถวนี้หลายวันนะครับ ติดต่อผ่านโทรศัพท์ อีเมล หรือเขียนบน Wall ที่เฟสบุ๊ค ช่วงนี้งดรับปรึกษาปัญหาชีวิต
สถานีวิทยุ 92.25 วิเคราะห์ว่า ท่วมแน่ๆ (ฟังหูไว้หู) เขาก็อธิบายเหตุผลมากมายโดยเฉพาะน้ำที่มานี้เป็นน้ำที่มาจากเขื่อนที่ไม่ได้พร่องน้ำมาตั้งแต่แรก มาถึงช่วงนี้เขื่อนจะแตกก็เลยจำเป็นต้องปล่อยน้ำที่รู้ทั้งรู้ว่า ท่วมแน่ ทุกเขื่อนปล่อยมาหมด และรัฐบาลไม่ใช่มืออาชีพด้านนี้ ไม่ฟังใครเอาแต่ตัวเอง ปริมาณมวลน้ำที่ทยอยเอื่อยลงมานั้นมหาศาล เมื่อไม่มีการพร่องน้ำก็ไหลออกไม่ทันก็ท่วมแน่นอน โอย คอนมีข้อมูลดีกว่ามากมายนัก นี่สถานีวิทยุแห่งนี้เรียกร้องให้นายกลาออกแล้วนะครับ..
ดีแล้วที่”ไปเที่ยว”ค่ะ
อะไรที่จะเป็น ก็ต้องปล่อยให้เป็น แล้วค่อยว่ากันใหม่ หลังจากนั้นล่ะค่ะ เก็บแรงไว้ เพื่อช่วงหลังจากนี้ดีกว่า
เห็นด้วยกับเบิร์ด งานช่วยเหลือหลังจากนี้ยังมีมหาศาล เคลียร์กันนานกว่าช่วงเกิดสึนามิหลายเท่า วันนี้ยังเป็นแค่น้ำจิ้ม เก็บแรงช่วยไว้ให้มากๆหน่อย ช่วงหลังจากนี้ไป ต้องการคนมี “สติ” จำนวนมากไว้ช่วยคน
โล่งอกที่ทราบว่าป๋าและครอบครัวปลอดภัยนะคะ เกือบจะต้องหาเรือพายไปส่งกล้วยหอมหวีใหญ่ ๆ ที่พ่อฝากไปให้ป๋าเสียแล้วสิคะ ดีเหมือนกันนะคะถือโอกาสพักผ่อนเพื่อชาร์ตแบตฯ ให้เต็มอิ่มเสียทีนึง เพื่อพร้อมรับกับ สิ่งที่กำลังจะมา (จะโทรหาป๋ากันหลายวันแล้วแต่เดาถูกว่าป๋าคงกำลังฮอต เลยไม่ได้โทร) จาก ผู้อพยพรุ่นแรก อิอิอิ
ดีใจที่ทราบว่าคุณLogosตัดสินใจพาคุณพ่อคุณแม่ไปพักผ่อนและอยู่ในที่ปลอดภัย(แต่คราวนี้อาจจะได้พักผ่อนนานหน่อย…หรือเปล่า?) นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากค่ะ
เมื่อแนวหน้าที่คอยส่งข่าว รายงานข่าวและเตือนป้าจุ๋มตลอดเวลาไม่อยู่แล้ว…ป้าจุ๋มก็ต้องคอยติดตามสถานะการณ์เองค่ะ วันนี้ตอนเที่ยงๆลองขับรถไปดูแถวแถวๆเมืองทอง พบว่าถนนเข้าบ้านคุณLogosและแถวๆนั้นไม่มีน้ำเลยค่ะ ซึ่งต่างจากเมื่อวานที่น้ำเจิ่่งท่วมถนนลึกราว 20 ซ.ม.แล้ว แปลกที่วันนี้แถวนั้นแห้งค่ะ และแถวบ้านป้าจุ๋มถ้าไม่ติดตามข่าวทางทีวีก็ยังดูปกติค่ะ แต่ที่บ้านก็เตรียมพร้อมพอสมควรค่ะ ตอนนี้คิดว่าคงยังไม่อพยพไปไหนค่ะ เพราะไม่รู้จะไปไหนดี…เหนือ ใต้หรืออิสาณ…ลูกหมอที่ธรรมศาสตร์ก็ตกงานคงจะใช้เวลาประมาณ 1เดือน ลูกรักกลับจากอังกฤษพอดี ตอนนี้ที่บ้านก็มีความสุขและอบอุ่นดีค่ะ พ่อ-แม่-ลูกอยู่กันพร้อมหน้ากันหมด มีเวลานั่งคุยเรื่องเก่าๆตลกๆตอนที่พวกเขายังเด็กๆกัน(ก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันอย่างนี้นานแล้วค่ะ) คิดแบบเอาวิกฤตเป็นโอกาสค่ะจะได้ไม่ทุกข์มากค่ะ
ป้าจุ๋มต้องขออนุญาตคุณLogosผ่านลานซักล้างขอบคุณพี่น้องชาวลานฯหลายๆท่าน ที่คอยโทรฯถามข่าวคราวด้วยความห่วงใยตลอดเวลาค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ เพราะในยามนี้แม้ความห่วงใยเล็กน้อยที่มีให้กันก็รู้สึกอบอุ่นและมีกำลังใจค่ะ
ขอให้พี่น้องชาวลานฯทุกท่านแคล้วคลาดจากพยันตรายทั้งปวงค่ะ และขอคุณพระคุ้มครองทุกท่านค่ะ