ฤๅษี

โดย Logos เมื่อ 10 February 2009 เวลา 4:18 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 5053

)นับเป็นโบนัสพิเศษที่ครูบา พาคณะลูกหลานไปเยี่ยม “ฤๅษี” เมื่อถามว่าทำไมจึงเรียกฤๅษี ครูบาบอกว่าเพราะวิถีการดำรงชีวิตที่สมถะ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่สังคมปัจจุบันให้คุณค่า เมื่อแรกมาอยู่ที่ลำปลายมาศ ซื้อที่ตาบอด เป็นป่าช้าเก่า ไม่มีไฟฟ้า เป็นที่ดอน แถมยังมีไฟใหม้บ่อยมาก แต่ฤๅษีใช้เวลา 9 ปี เนรมิตป่าขึ้นในที่แห้งแล้งขนาด 7 ไร่ 11 ตารางวาขึ้นด้วยตนเอง เจ้าตัวเป็นคนกรุงเทพ มาอยู่ตรงนี้เพราะอยากอยู่ใกล้ครูบา (เคยช่วยงานสวนป่าอยู่สองปี)


ไม่แน่ชัดว่าทำไมครูบาจึงยกมือ ถามแล้วไม่ได้คำตอบ ฤๅษีคือคนขวาสุด

ฤๅษี หรือครูอ้น เคยสอนที่ธรรมศาสตร์ ชาวบ้านแถวนั้นรักเขาทั้งนั้น เป็นคนประณีต มีสุนทรียภาพ ครั้งมาอยู่ใหม่ๆ ยังไม่มีไฟ มืดแล้วนั่งตีขิมอยู่คนเดียว เช้านั่งฟังเสียงดอกกระโดนตกกระทบพื้น ดังปุก ปุก ปุก แล้วยังสังเกตุถึงความเชื่อมโยงของอุณหภูมิของอากาศ กับอัตราที่ดอกกระโดนตกลงพื้น มีความรู้ทางดาราศาสตร์ (น่าจะหาเลเซอร์กำลังสูงไปให้ชี้ดวงดาว เพื่อสอนผู้คน) เมื่ออธิบายถึงดาวกา อยู่ดีๆ ก็ท่องกลอนจากพระอภัยมณีของสุนทรภู่ออกมาย.า.ว.เ.ห.ยี.ย.ด จนเราต่างทึ่งด้วยความประทับใจไปตามๆ กัน

พระชนนีชี้ชวนชมดารา ให้หลานยาลูกรักรู้จักไว้
ดูโน่นแน่แม่อรุณรัศมี ตรงมือชี้ดาวเต่านั่นดาวไถ
โน่นดาวธงตรงหน้าอาชาไนย ดาวลูกไก่เคียงอยู่เป็นหมู่กัน
องค์อรุณทูลถามพระเจ้าป้า ที่ตรงหน้าดาวไถชื่อไรนั่น
นางบอกว่าดาวธงอยู่ตรงนั้น ที่เคียงกันเป็นระนาวชื่อดาวโลง
แม้นดาวกามาใกล้ในมนุษย์ จะม้วยมุดมรณาเป็นห่าโหง
ดาวดวงลำสำเภามีเสากระโดง สายระโยงระยางหางเสือยาว
นั่นแน่แม่ดูดาวจระเข้ ศีรษะเหหกหางขึ้นกลางหาว
ดาวนิดทิศพายัพดูวับวาว เขาเรียกดาวยอดมหาจุฬามณี
โน่นดาวคันชั่งช่วงดวงสว่าง ที่พร่างพร่างพรายงามดาวหามผี
หน่อนรินทร์สินสมุทกับบุตรี เฝ้าเซ้าซี้ซักถามตามสงกา
พระชนนีชี้แจงให้แจ้งจิต อยู่ตามทิศทั่วไปในเวหา
ครั้นดึกด่วนชวนสองกุมารา เข้าห้องในไสยาในราตรีี

ฤๅษีพาเราเดินตัดทุ่งนา ไปยัง “ระเมียรไม้” อันเป็นที่พักอาศัย ห่างออกไป 600 เมตร (วัดด้วย GPS)

เดินฝ่าแดดเปรี้ยงๆ มา ฤๅษีให้เรากินน้ำอะไรก็ไม่รู้ (ผมลืมชื่อไปแล้วเนื่องจากความจำสั้น)น้ำมะเฟือง แต่เป็นน้ำผลไม้อุ่นๆ รสชาติดี บอกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง กินแล้วหายร้อน เพราะน้ำร้อนกว่าอากาศ

ประสบการณ์ครั้งนี้ เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่

  1. ยังมีคนหนุ่ม (หนุ่มกว่าผม) ที่รักสันโดษ กล้าหาญ และมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง
  2. เป็นข้อพิสูจน์ว่าสติปัญญาของมนุษย์ สามารถทำให้ชีวิตอยู่รอดได้จริง โดยไม่เบียดเบียนใคร
  3. ยอดคนงำประกายมีอยู่ทั่วไป (ส่วนมังกรที่ไม่ซ่อนคม มักไม่ค่อยคมจริง ฮี่ฮี่)

ปลูกต้นไม้ก่อนสร้างบ้าน เวลาสร้างอาจจะยากหน่อยเพราะติดต้นไม้ แต่ถ้าสร้างสิ่งปลูกสร้างก่อนแล้วจึงปลูกต้นไม้ ต้นไม้จะโตไม่ทันใจ เมื่อเข้าอยู่ บ้านจะไม่ร่มเย็น

« « Prev : รูปจากสวนป่า เฮฮามหากุศล รอบไม่กลัวน้ำร้อน 6-9 ก.พ. 2552

Next : ฤๅษี (2) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

13 ความคิดเห็น

  • #1 สายลมครับ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 6:33
    • น้ำมะเฟือง ครับ ใช้วิธีการปั่นเนื้อ ได้ทานทั้งเนื้อ ทั้งน้ำพร้อมกัน
    • อยู่อาศรม  อากาศดี พื้นเย็นสบายกาย ฟังพี่ฤาษีเสวนา……………สุดท้ายยย ……หลับบบบ ครับ
    • อิอิ
  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 7:57

    อืม..น่าสนใจและชอบตรงนี้..

    ปลูกต้นไม้ก่อนสร้างบ้าน เวลาสร้างอาจจะยากหน่อยเพราะติดต้นไม้ แต่ถ้าสร้างสิ่งปลูกสร้างก่อนแล้วจึงปลูกต้นไม้ ต้นไม้จะโตไม่ทันใจ เมื่อเข้าอยู่ บ้านจะไม่ร่มเย็น ..”ร่มเย็น” คำเดียวเห็นภาพเลยค่ะ  ท่านลงมือทำคนเดียวทั้งหมดเลยเหรอคะ

  • #3 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 8:05

    คนคือธรรมชาติ แยกกันออกจากกันไม่ได้ค่ะ คนที่เข้าใจธรรมชาติย่อมมีชีวิตที่เป็นสุข สุขที่เกิดจากปฏิบัติต่อธรรมชาติค่ะ ทำดีได้ดีค่ะ ACTION= REATION เป็นกฏของธรรมชาติโดยแท้

  • #4 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 9:34

    เห็นด้วยกับท่านคอนฯ  และพี่หลินครับ

    คนคือธรรมชาติ แยกกันออกจากกันไม่ได้ค่ะ คนที่เข้าใจธรรมชาติย่อมมีชีวิตที่เป็นสุข สุขที่เกิดจากปฏิบัติต่อธรรมชาติค่ะ ทำดีได้ดีค่ะ ACTION= REATION เป็นกฏของธรรมชาติโดยแท้

     

  • #5 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 9:57
    #1 ขอบคุณครับ แก้ไขบันทึกแล้ว
    #2 ต้นไม้ปลูกเองครับ แต่บ้านคงมีช่างเข้ามาทำ
    #3 #4 ใช่แล้วครับ คนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติ ติดอยู่กับสมมุติทั้งนั้น; ที่ลานไผ่นักศึกษาของ อ.แป๋ว ถามผมว่า ถ้าไม่ได้ “มี” ขนาดนี้ จะตัดสินใจลาออกจากงานหรือไม่ ผมตอบไปว่าผมไม่รู้ [เพรามันไม่เกิดขึ้น] ผมเชื่อว่าความคิด/แนวคิดต่อสังคมคงไม่เปลี่ยน [ผมคงทำ ส่วนจะทำได้แค่ไหนนั้นแล้วแต่กำลังในขณะนั้น เพราะผมไม่เบียดเบียนตัวเอง]
  • #6 khajitf ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 13:37

    อึ้งกับการวงแผนของอาจารย์อ้นครับ ทั้งการเลือกซื้อที่และการปลูกต้นไม้  แนวคิดในการซื้อที่ คนขายมีไร่เดียวก็ไม่ซื้ออยากให้คนขายมีสบัติที่เป็นที่ดินติดตัว  การปลูกบ้านก็ปลูกต้นไม้ก่อน  แล้วปลูกบ้าน พยายามแทรกบ้านข้าไปในบริเวณที่มีต้นไม้เดิม ไม่ตัดต้นไม้ ทึ่งมากๆๆ

  • #7 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 13:59

    น่าสนใจวิถีชีวิตของฤาษีตนนี้ครับ จะหาโอกาสไปเสวนาด้วย

  • #8 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 15:07

    กำลังยุพ่อครูบา ฯ ให้ชวนฤษีมาสวนป่าช่วงปลายเดือนด้วย ถ้าได้จริง ๆ คงมีเรื่องให้อึ้ง และทึ่งตลอดเวลาแน่ๆ  ค่ะ ^_^

  • #9 ลานซักล้าง » ฤๅษี (2) ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 15:52

    [...] เมื่อคืนเขียนต่อไม่ไหว จึงพักไว้แค่นั้น… เขียนต่อนะครับ [...]

  • #10 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 February 2009 เวลา 19:10

    ถ้าครูปูมาอีก  ก็จะชวนฤๅษีมา

  • #11 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 February 2009 เวลา 0:44

    ทึ่งและประทับใจฤาษีครูอ้นมาก  ตอนเดินออกจากระเมีนรไม้ คิดว่ากลับกรุงเทพฯจะไปหาหนังสือสุนทรภู่อ่านเพราะชอบกลอนที่ท่านแต่ง ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว คุณLogosนำมาเสนอให้ได้อ่าน ป้าจุ๋มprintเอาไว้แล้ว ขอบคุณค่ะ

  • #12 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 February 2009 เวลา 0:49

    ขอโทษค่ะ”บ้านระเมียรไม้” รีบๆเขียนเป็น ระเมีนร  ครูอ้นบอกว่าคำว่า “ระเมียร”ิ มีรากศัพท์ภาษาเขมรแปลว่าน่าดูน่าชม ดังนั้น”บ้านระเมียรไม้”แปลว่าบ้านที่เต็มไปด้วยมวลไม้มากมายที่น่าดูน่าชม

  • #13 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 February 2009 เวลา 0:56
    ขอบคุณครับ ตอนอธิบายความหมายของชื่อ ผมอยู่ไกล มัวแต่ถ่ายรูป ได้ยินแว่วๆ เท่านั้น จึงไม่แน่ใจ และไม่แปลครับ แต่ตัวสะกดอยู่ในรูปถ่าย (ตั้งใจถ่ายมา)

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.82660412788391 sec
Sidebar: 0.36356592178345 sec