เสียงพูดสุดท้าย ‘รงค์ วงษ์สวรรค์
อ่าน: 4635เมื่อตอนบ่าย ออกไปเจอ อ.แฮนดี้ เพื่อส่งคืนกล้องซึ่งอาจารย์ลืมไว้ในรถผมเมื่อตอนกลับมาจากสวนป่า ก็เลยเถลไถลไปร้านหนังสือ ซื้อวารสาร สารคดี ฉบับเดือนเมษายน 2552 ซึ่งหน้าปกเป็นเรื่องทุ่งกุลาร้องไห้มาอ่าน
พอตอนหัวค่ำ ไปงานศพลูกน้อง เศร้าอีกแล้วครับ เธอคนนี้ขยันขันแข็ง เลิกงานตอนเย็น ไปรำแถวสีลมหาเงินช่วยครอบครัว ทำงานด้วยกันมา 12-13 ปี แต่งงานที่นี่ สร้างครอบครัวใหม่ที่นี่ มีลูกที่นี่
เลยเลื่อนเรื่องเกลืออีสานเอาไว้ก่อน มาเขียนบอกว่า สารคดี เล่มนี้ มีเรื่อง เสียงพูดสุดท้าย ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ ด้วยครับ ผมยกเฉพาะไฮไลท์ที่หนังสือทำเป็นตัวใหญ่มาให้อ่านครับ
“เด็กสมัยใหม่คิดว่าการเป็นนักเขียนมันง่าย แป๊บ ๆ พิมพ์เป็นเล่มแล้ว ง่ายไป ก็เลยไม่ยั่งยืน กับนักเขียนใหม่ ๆ เราบอกอย่าเพิ่งพิมพ์เป็นเล่ม ให้คนอ่านยอมรับก่อนค่อยพิมพ์ หลายคนไม่เชื่อเรา แล้วมาเจ็บปวดภายหลัง บางคนตั้งตัวเป็นบรรณาธิการเอง คุณภาพไม่ถึง บางคนเพื่อนเป็นบรรณาธิการ เขียนไม่ดีแกล้งบอกดี แบบนี้ไม่รอด”
“เราไม่ชอบรัฐบาลมายื่นเงินให้ แต่คุณควรทำถนนให้ดี ทำโรงพยาบาลให้ดี ทำโรงเรียนดี ๆ ไม่ใช่ว่ามาให้ข้าวสาร ให้เงิน แค่ปกครองให้เป็นธรรมก็พอ นี่เปลี่ยนรัฐบาลที เข้ามาก็รู้ หน้าตาซ้ำ ๆ หรือเปลี่ยนก็เป็นญาติพี่น้องผลัดกัน มาโกง ไม่เห็นมีสติปัญญา ไม่มี pearl of wisdom คือไม่มีไข่มุกทางปัญญา มีแต่ผรุสวาท”
“การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าเรื่องเซ็กซ์ เรื่องประวัติศาสตร์ เรื่องแฟชั่น ประเทศไทยการศึกษาเหมือนจะดีแต่ไม่ดี รู้น้อย รู้ในเรื่องที่ไม่ควรรู้เยอะ เปิดอินเทอร์เน็ตแล้ว อ้างว่ารู้เยอะ แต่ไปรู้ในเรื่องที่ไม่ควรรู้ ชีวิตลวกขึ้น รีบร้อน เด็กยุคนี้เสียบไอพอดฟัง ๓,๐๐๐ เพลง แต่ไม่รู้จักคนแต่งเพลงเลยสักคน”
“ทุกสังคมมีคนดัดจริต อายในสิ่งที่ไม่ควรอาย มือถือสาก ปากถือศีล ชอบสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดี จริง ๆ เหี้ยมาก ชอบสร้างกฏหมายให้ตนเองเป็นคนดี แต่จริง ๆ ทำชั่วฉิบหาย มนุษย์เป็นแบบนี้ ชอบสร้างกฏหมายให้ดูว่าพลเมืองประเทศนี้ชั้นหนึ่ง เบื้องหลังก็คอร์รัปชันแหลก สำส่อน ผิดลูกผิดเมีย เราเกลียดมาก เสแสร้งไม่เข้าเรื่อง”
“เราคิดว่ากำลังใจเราดี แต่อย่าถามว่ากลัวตายไหม กลัวทุกคน ไม่มีใครรู้จักว่าความตายคืออะไร เพื่อนที่วัยไล่ ๆ กันมา ป่วยทั้งนั้น…เรารู้สึกว่าเราควรจะปลอบใจ ปลอบโยนกันตามโอกาสสมควร เพราะรู้ว่าความตายใกล้มาถึงแน่แล้ว”