หนึ่งในร้อย: กตัญญู
หนังสือใหม่ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
ขอให้อ่านเถิดครับ ถ้าเชื่อถือการเลือกสรรของผม อ่านเล่มนี้แล้ว รับประกันว่าจะไม่เสียใจอย่างแน่นนอน
โมทนียพจน์
สังคมไทยในยุค “โลภาภิวัตน์” (ประชาชนตกเป็นทาสของความโลภ) เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แตกสามัคคี ประชาชนทั่วทุกภาคแบ่งกันออกเป็นสามฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่งเลือกข้างรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งเลือกข้างพันธมิตร อีกฝ่ายหนึ่งไม่เลือกข้างไหนได้แต่เก็บตัว เป็นพลังเงียบด้วยความเบื่อหน่ายต่อความเป็นไปของการเมืองที่มองไม่เห็นว่า จุดสิ้นสุดยุติจะอยู่ตรงไหน ท่ามกลางความขัดแย้งแตกแยกนี้เอง มีการเพรียกหา “คนดี” ให้เข้ามาเป็นอัศวินม้าขาวเพื่อเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ “การเมืองใหม่” ดังกึกก้องไปทั่วทุกหัวระแหง แต่ยิ่งเพรียกหาคนดี ก็ดูเหมือนว่า คนดีในเมืองไทยในยามนี้จะหายากเสียเหลือเกิน เพราะเมื่อมีฝ่ายใดก็ตามเสนอ “คนดี” ของตนขึ้นมา ให้เป็นตัวเลือก ก็มักถูกอีกฝ่ายหนึ่งตีให้ตกไปด้วยการให้เหตุผลว่า คนดีที่ว่านั้นเป็นคนดีที่ไม่มีความเป็นกลาง
ในทางโลกียวิสัย การหาคนดีที่มีมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในทางธรรมวิสัย การหาคนดีไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ด้วยในพุทธศาสนานั้น ท่านมีหลักการวัดคนดีเอาไว้อย่างชัดเจนผ่านพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
“นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา”
“ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี”คนดีตามนัยทางพุทธศาสนา ท่านนิยามสั้นๆว่าคือ คนที่มี “ความกตัญญู กตเวที” ใครมีคุณสมบัติข้อนี้เพียงข้อเดียว ก็นับเป็นคนดีที่ประเสริฐเลิศล้ำ
จริงอยู่ แม้ความเป็นคนกตัญญูกตเวที จะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับประชาชนทั่วไป แต่หากนำมาใช้ในทางบ้านเมือง ความกตัญญูกตเวที ก็สามารถนำพาเมืองไทยให้ก้าวพ้นวิกฤติได้เหมือนกัน เนื่องเพราะคนที่มี “ความกตัญญูกตเวที” นั้น ไม่มีทางเลยที่เขาจะเป็นคนเลวที่มุ่งแต่การทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง ตรงกันข้าม คนกตัญญูกตเวที จะเป็นคนที่พิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดินเอาไว้ด้วยชีวิตเสียด้วยซ้ำ
หนังสือชื่อ “หนึ่งในร้อย” ที่จัดพิมพ์โดย “กลุ่มกัลยาณธรรม” ซึ่งนำโดย ทันตแพทย์หญิงอัจฉรา กลิ่นสุวรรณ และกัลยาณมิตรเล่มนี้ เกิดขึ้นจากการถอดเทปบันทึกเสียงของผู้บรรยายสองเรื่องด้วยกัน กล่าวคือ
(๑) มารดามหาบุรุษ
(๒) ร้อยความดี ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่งสาระสำคัญว่า ด้วยความหมาย ความสำคัญ ของความกตัญญูในแง่มุมต่างๆ อย่างกว้างขวาง หวังว่า ทุกถ้อยกระทงความในผลงานเล่มนี้ คงจะเป็นประทีปธรรม นำทางให้คนไทยได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องความกตัญญูกตเวทีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี และหากจะมีคนกตัญญูกตเวทีเพิ่มขึ้นมาอีกมากมายหลังจากได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว คณะผู้จัดทำทุกคนก็คงจะมีความสุขในหัวใจเป็นอย่างยิ่ง
ว.วชิรเมธี
๖ ตุลาคม ๒๕๕๑