ภาษีจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์​

อ่าน: 4904

ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดรองต่างๆ เป็นตลาดทุนของประเทศ — กิจการตลาดหลักทรัพย์มีมาตั้งแต่ปี 2496 มีการรวมตลาดหลักทรัพย์(เอกชน)ต่างๆ เป็นตลาดเดียวในปี 2505 และจัดตั้งเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตาม พรบ.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2517 [อ้างอิง]

รัฐบาลที่ผ่านมา เห็นว่าตลาดทุนมีความสำคัญต่อการระดมและบริหารจัดการเงินทุน จึงยกเว้นภาษีเงินได้จากกำไรที่เกิดจากการซื้อขายหลักทรัพย์ เฉพาะที่เกิดขึ้นในตลท. แม้จะมีผลทางด้านบวกจริง แต่การยกเว้นภาษีเงินได้จากกำไรนี้ ทำให้ ตลท.เป็นเครื่องมือที่ใช้ปั่นกำไรมหาศาลตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าในปี 2535 จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์​ (กลต.) เพื่อดูแลตลาดทุนทั้งระบบ ซึ่งการกำกับด้วยกฎระเบียบได้สร้างภาระมากมายต่อบริษัทจดทะเบียน และการดูแลก็ทำได้เพียงลักษณะ reactive คือให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วจึงสอบสวนลงโทษ

ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ มีความอ่อนไหวต่อข่าวและกระแสเป็นอย่างมาก รายการวิเคราะห์หุ้นต่างๆ ใช้เครื่องมือทางเทคนิคกันเป็นหลัก ทำให้การลงทุนในตลาดทุนกลายเป็นการเก็งกำไรไปซะมาก; ผมเคยเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนครับ เมื่อหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายใน ตลท. มีหุ้นที่ไม่ติด silent period และสามารถซื้อขายในตลท.ได้ 110 ล้านหุ้น แต่วันแรกที่ทำการซื้อขายในเดือน พ.ย.2544  ปรากฏว่ามีหุ้นของบริษัทซื้อขายในตลท. 318 ล้านหุ้น โดยเฉลี่ยแสดงว่าทุกหุ้นที่มีอยู่ในตลาดในขณะนั้น ซื้อขายกันเกือบสามรอบ ซื้อเช้า-ขายสาย-ซื้อก่อนเที่ยง-ขายตอนเปิดตลาดช่วงบ่าย-ซื้ออีกตอนบ่ายแก่ๆ-ขายก่อนกลับบ้าน อะไรจะขนาดนั้น!

ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ ชี้ให้เห็นว่า “ผู้ลงทุน” ใน ตลท. ต้องการกำไรระยะสั้น ซึ่งไม่น่าจะตรงกับคำว่าการลงทุนครับ ผมไม่คิดว่าควรจะห้ามซื้อขายหุ้นเร็ว แต่ถ้าจะอาศัยเครื่องมือพัฒนาตลาดทุน ก็ควรใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ถ้าจะถือสั้น ก็น่าจะแบกต้นทุนเพิ่มบ้างครับ

อ่านต่อ »


โลกเปลี่ยนไป จึงสิ้นโลก?

อ่าน: 3324

บันทึกรีไซเคิลครับ เคยเขียนไว้ที่อื่นเมื่อ 24 เม.ย. 2550 ซึ่งก็มีประเด็นที่น่าสนใจ คือเมื่อเรารับข่าวสารมา ดูน่าเชื่อถือ มีการอ้างอิงที่ดูจะเป็นวิทยาศาสตร์ อ้างชื่อนักวิทยาศาสตร์นามกระเดื่อง ควรเชื่อไปเลยหรือ?


เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อคืนดูสารคดีของ the Horizon Project เรื่อง Bracing for Tomorrow ซึ่งออกแนว science fiction คือเขาทำนายต้นเหตุของวันสิ้นโลก โดยพยายามผูกโยงบุคคลที่มีชื่อเสียง กับแนวคิดวิทยาศาสตร์เข้ามาครับ ใช้ศัพท์วิทยาศาสตร์เยอะๆ ดูน่าเชื่อถือดี — ใครอยากดู อาจหาดูได้โดยค้น bittorrent ได้ ถ้าเน็ตเร็วพอ (เตือนแล้วนะครับ)

ที่มาเขียนบันทึกนี้ ก็เพราะสารคดีกล่าวอ้างไอน์สไตน์ ว่าไอน์สไตน์เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแกนหมุนของโลกที่ทำให้อารยธรรมมนุษย์สูญสิ้น (อ้างปฏิทินชาวมายันซึ่งคำนวณไว้ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2012 หมายความว่าโลกจะจบวันนั้น; กระแสกราวิตรอนจากหลุมดำใจกลางกาแล็กซี ทำให้เกิดแผ่นดินไหว+ภูเขาไฟระเบิด+สึนามิสูงหกพันฟุต; การกลับขั้วแม่เหล็ก ทำให้โลกไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันรังสีคอสมิค ฯลฯ)

อ่านต่อ »



Main: 0.020542144775391 sec
Sidebar: 0.18925786018372 sec