ลำดับความฉลาดของสุนัข จำแนกตามสายพันธุ์

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 November 2008 เวลา 12:17 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 8030

The Intelligence of Dogs

สิบอันดับแรกของสุนัขสายพันธุ์ฉลาด

  • เข้าใจคำสั่งใหม่อย่างรวดเร็ว สอนซ้ำๆ ไม่เกินห้าครั้ง
  • เชื่อฟังคำสั่งครั้งแรกโดยไม่ต้องสั่งซ้ำเกินกว่า 95%
  1. Border Collie
  2. Poodle
  3. German Shepherd
  4. Golden Retriever
  5. Doberman Pinscher
  6. Shetland Sheepdog
  7. Labrador Retriever
  8. Papillon
  9. Rottweiler
  10. Australian Cattle Dog

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เลี้ยงแล้ว เราก็รักมันอย่างไม่มีเงื่อนไขครับ


หมอผ่าตัด

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 2 November 2008 เวลา 1:05 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2974

ไม่แปลหรอกครับ ผมไม่ใช่ศัลยแพทย์ เดี๋ยวแปลศัพท์เทคนิคผิด ;-)

Five surgeons are discussing who has the best patients to operate on.

The first surgeon says, “I like to see accountants on my operating table because when you open them up, everything inside is numbered.”

The second responds, “Yeah, but you should try electricians! Everything inside them is colour-coded.”

The third surgeon says, “No, I really think librarians are the best; everything inside them is in alphabetical order.”

The fourth surgeon chimes in, “You know, I like construction workers. Those guys always understand when you have a few parts left over at the end, and when the job takes longer than you said it would.”

But the fifth surgeon shut them all up when he observed, “You’re all wrong.

Politicians are the easiest to operate on. There’s no guts, no heart, no balls, no brains and no spine, and there are only two moving parts, the mouth and the asshole - and they are interchangeable.”


ทักษะชีวิต: อยู่ให้รอด

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 28 October 2008 เวลา 0:21 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3162

สไลด์ชุดนี้ พูดเรื่องการเมืองในองค์กร แต่ผมคิดว่าประเด็นที่เขาพูด สามารถประยุกต์ใช้ได้ในสังคมทั่วไปนะครับ

สำหรับพนักงานบริษัทที่ตามมาอ่าน และอาจจะยังฟุ้งซ่านสงสัย ผมยืนยันอีกทีว่าเหมือนกับตอนที่ชี้แจงให้ฟัง ว่าลาออกเพราะมีงานสำคัญที่จะต้องทำ ซึ่งไม่แฟร์ที่จะทำงานนี้ด้วยการเบียดบังเวลางานของบริษัทครับ จึงลาออกจากตำแหน่งที่ต้องทำงานเต็มเวลา ไม่ได้ลาออกเพราะการเมืองในองค์กร ซึ่งผมไม่เล่นการเมืองทุกรูปแบบนะครับ คงรู้กันดีอยู่แล้ว


หมาเลี้ยงนอกบ้าน

17 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 27 October 2008 เวลา 0:40 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4860

น้องสาวผมเลี้ยงหมานอกบ้านไว้ฝูงใหญ่ หมดไปหลายรุ่นแล้ว มาจนรุ่นปัจจุบัน มีตัวนี้อาวุโสและคุ้นเคยกับน้องและหลานมากที่สุด หลานตั้งชื่อว่าโสรยา

ไม่รู้เหมือนกันว่าถ่ายรูปเค้ามาทำไม — แล้วทำไมจะต้องมีเหตุผลอธิบายทุกอย่างด้วย


โลกอาจอยู่ใกล้มหาสงครามมากกว่าที่คิด!!!

อ่าน: 4466

ที่จริงอาจจะไม่ค่อยมีใครคิดถึงสงครามโลกในยุคนี้หรอกครับ กลายเป็นค่านิยมสากลไปแล้วว่าสงครามไม่ใช่คำตอบ ระบบการผลิตและระบบเศรษฐกิจ ไม่ได้ขึ้นกับพื้นที่อาณาเขตเพื่อครอบครองทรัพยากรอีกต่อไป การติดต่อค้าขายสามารถแลกมาซึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตได้

แต่สิ่งที่ไม่คาดหมาย ก็เกิดขึ้นในเวลาที่เราไม่คาดหมายเสมอๆ

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อการติดต่อค้าขายหยุดชะงัก การผลิตเพื่อการดำรงชีวิตยังจะสามารถดำเนินอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ด้วยกำลังการผลิตที่มีผู้กล่าวว่าเกินความต้องการใช้ถึงสามเท่า ประกอบกับกระแสทุนนิยมหมกมุ่นและคงอยู่ด้วยการแสวงหากำไร

กำไรเกิดขึ้น เมื่อรายได้สูงกว่าต้นทุน สามารถกระตุ้นรายได้ได้ด้วยคุณภาพที่ดี ด้วยแบรนด์ ด้วยการตลาด และด้วยการบิดเบือนหลอกลวง ส่วนค่าใช้จ่ายลดลงได้ด้วยความชำนาญที่สูง ปริมาณผลิตที่มาก การตัดต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป บีบผู้ขายวัตถุดิบให้ต้นทุนต่ำลง ลดสเป็ค(โกงผู้บริโภค) ฯลฯ ป่วยการจะไปพูดเรื่องคุณธรรม หรือธรรมาภิบาล ในเมื่อธุรกิจส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่บนความโลภ และการเบียดเบียนกัน เช่นเดียวกับการเมืองบ้านเรา

อ่านต่อ »


ปรากฏการณ์ Tipping Point — เมื่อถึงจุดเปลี่ยน

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 21 October 2008 เวลา 16:04 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 8422

บันทึกนี้ งอกออกมาจากบันทึกลานเสวนาประชาธิปไตยสไตล์เฮฮาศาสตร์ครับ แยกบันทึกเพราะไม่เกี่ยวกับบันทึกหลักโดยตรง

คำว่า Tipping Point มีความหมายที่ซ่อนอยู่หลายนัย แถมดูจากรากศัพท์ก็จะงง คำว่า tip ที่เป็นคำนาม แปลว่า ยอด หรือ เงินทิป

ในความหมายกว้างทางสังคมวิทยานั้น Tipping Point หมายถึง “เวลา” ที่เหตุการณ์อันหนึ่งซึ่งเคยเป็นเรื่องพิเศษ กลายเป็นเรื่องธรรมดา เช่นความละอายเปลี่ยนเป็นความไม่อาย ความท้าทายกลายเป็นความจำเจ ฯลฯ ซึ่งในปี 2543 Malcolm Gladwell เขียนอธิบายความไว้ว่าแม้ปัจเจกบุคคลจะไม่สามารถควบคุมสังคมได้ แต่การกระทำบางอย่าง สามารถสร้างความแตกต่างได้ ในหนังสือยอดนิยมชื่อ The Tipping Point: How Little Things Can Make a Big Difference

ความหมายในแนวกว้างนั้น ทำให้ Thomas Schelling ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2548

ในความหมายของสภาวะอากาศ หมายถึงจุดที่การเปลี่ยนแปลง(อุณหภูมิ)ไปจนถึงจุดที่ไม่สามารถจะย้อนกลับได้อีก ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้ความพินาศมากแล้ว

ทฤษฎี Tipping Point ยังแตกย่อยออกไปอีกหลายแขนงเช่น

  • ทฤษฎีพินาศ​ (Catastrophe theory) เป็นทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ซึ่งไม่น่ากลัวเหมือนชื่อ
  • มวลวิกฤติ (Critical mass) ปริมาณที่น้อยที่สุดที่ทำให้เกิดผลที่ต้องการ เช่นปริมาณยูเรเนียม/พลูโตเนียมที่ใช้ในการผลิตระเบิดปรมาณู หรือจ่ายเงินเท่าไหร่จึงได้ควบคุมอย่างแน่นอน
  • ผลต่อเนื่อง (Domino effect) เมื่อเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง ก็อาจมีผลกระทบต่อผู้ที่อยู่รอบข้าง ล้มตามๆ กันไป
  • Emergence ผลรวมเมื่อสิ่งเล็กๆ มารวมกัน เช่นจอมปลวก รังนก ซึ่งเกิดมาจากชิ้นส่วนเล็กๆ มาประกอบกัน ดูส่วนเล็กๆ จะไม่เข้าใจเลยว่าเมื่อประกอบกันออกมาแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร คล้ายตาบอดคลำช้าง
  • ปรากฏการณ์ลิงตัวที่หนึ่งร้อย (Hundredth Monkey Effect) หมายถึงพฤติกรรมบางอย่างเกิดขึ้น และแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงปลายทางอาจกลายเป็นคนละเรื่องไปก็ได้ เช่น “กระแส” แฟชั่น ข่าวลือ ความลับที่บอกต่อๆ กันไปว่าห้ามบอกใคร (รวมทั้งสิ่งห่วยๆ ที่สังคมไทยชอบทำอีกหลายอย่าง ที่รับมาโดยไม่ได้พิจารณา ดัดแปลงโดยไม่เข้าใจแก่น ไม่มีราก)


เตรียมตัวไปสำรวจ “เขาบันไดม้า”

7 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 10 October 2008 เวลา 10:01 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4710

ปีนี้บริษัทจะไปสำรวจวัดที่จะไปทอดกฐินที่ วัดป่าเขากะไดม้า  อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ในวันที่ 11-12 ต.ค. นี้ครับ

ที่จริงจะไปสำรวจพื้นที่+หากความต้องการเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แต่เกิดอุทกภัย และแผ่นดินถล่มขึ้นในบริเวณใกล้เคียง จึงระงับไว้ก่อน เลื่อนมาเป็นวันเสาร์-อาทิตย์นี้ มีกัลยาณมิตรในบริษัทไปกัน 13 คน บวกคนขับรถอีกหนึ่ง

ออกจากกรุงเทพใกล้เที่ยงใวันเสาร์เนื่องจากมีผู้ติดงานบุญสองท่าน จะแวะที่เมืองสองแควไหว้พระ และกินข้าวเย็น จากนั้นก็จะออกไปพักยังอำเภอชาติตระการเลย ตอนเช้าวันอาทิตย์จะได้รีบขึ้นเขา ตระเตรียมอะไรได้ก่อนเพล

ขอบพระคุณเจ้าของพื้นที่ที่ในมุทิตาจิต ที่แสดงความจำนงจะพบปะและต้อนรับ แต่เนื่องจากพวกผมไปกันหลายคน เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ ขออนุโมทนากับผู้ที่ปวารณาจะร่วมทำบุญด้วย จะพยายามหารายละเอียดออกมาว่ายังขาดอะไร

ตอนแรกที่กัลยาณมิตรมาบอกว่าจะไปทอดกฐินที่ “เขาบันไดม้า” นี้ งงไปหมดครับ ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคำว่าเขาบันไดม้าที่ ชาติตระการ/พิษณุโลก ค้นเน็ตก็ไม่เจอ! คงเป็นสถานที่วิเวกจริงๆ

สำหรับตอนนี้ มีข้อมูลเบื้องต้น เป็นไปตามหัวข้อ “จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เคยไป” ดังนี้ครับ

อ่านต่อ »


แบบทดสอบ Multiple Intelligences

10 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 October 2008 เวลา 0:15 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 5258

มีทฤษฎีการศึกษาอันหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดชื่อ Howard Gardner ในปีพ.ศ. 2527 ซึ่งบอกว่า “แทนที่จะสร้างหลักสูตรมาตรฐานอันเดียวแล้วใช้กับนักเรียนทุกคน โรงเรียนควรจะปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เข้ากับนักเรียนทุกคนได้” — The theory suggests that, rather than relying on a uniform curriculum, schools should offer “individual-centered education”, with curriculum tailored to the needs of each child.

เราอาจจะรู้จักความคิดนี้ในชื่อของ Child-centered ที่เคยมีเด็กเรียกว่าควายเซ็นเตอร์ ความคิดอันนี้ดูเหมือนจะเป็นภาระหนักของการจัดการเรียนการสอน แต่ผมคิดว่าตัวทฤษฎี เข้าท่าเหมือนกันนะครับ

เค้าบอกว่าคนเรามีทักษะ(ความฉลาด)ที่ต่างกัน จึงมีความถนัดในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นหลักสูตรที่บังคับให้ผู้เรียนเรียนรู้ในแบบใดแบบหนึ่ง ก็อาจจะไม่ได้ผลเพราะว่าวิธีการนั้นเข้ากับทักษะของผู้เรียนไม่ได้

Howard Gardner แบ่งทักษะการเรียนออกเป็นหลายแบบ แต่เดิมทีมี 7 แบบครับ

  1. Linguistic ความสามารถทางภาษา กวี สุนทรียภาษา
  2. Logical-Mathmatical ตรรกะและความสามารถทางคณิตศาสตร์
  3. Musical ความสามารถทางดนตรี จังหวะ
  4. Bodily-Kinesthetic ความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกาย สัมผัส
  5. Spatial-Visual ภาพ และจินตภาพ
  6. Interpersonal ความสามารถในเข้าใจผู้อื่น
  7. Intrapersonal ความเข้าใจตนเอง

ดาวน์โหลดแบบทดสอบ (Microsoft Excel) กรอกตัวเลข 1 ถึง 4 ในแต่ละช่อง — ผลการทดสอบของผมอยู่ในรูปข้างล่างครับ แต่ละแท่งเต็ม 40


“เจ้าเป็นไผ”

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 October 2008 เวลา 4:01 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, ลานปัญญา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4433

“เ จ้ า เ ป็ น ไ ผ” คำถามง่ายๆ ของชาวเฮฯ แต่ตอบยากชะมัด

แม้ว่าจะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่เฉลยได้อย่างการเฉลยข้อสอบ แต่คำตอบที่เป็นการเล่าประวัติตำแหน่งหน้าที่การงานนั้น ผิดอย่างแน่นอน

คำถาม เจ้าเป็นไผ นั้น ถามง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง คนเราจะเป็นเพื่อนกัน ก็ควรรู้จักกันไว้บ้าง ไม่เพียงแต่พื้นเพ ปูมหลัง นิสัยใจคอ หรือเรื่องพื้นๆ ที่เกี่ยวกับการแนะนำตัวอื่นๆ แต่ผมคิดว่า อย่างน้อยมีอีกสองเรื่องสำคัญคือ

  • เรียนรู้ได้อย่างไร -> เล่าผ่านประสบการณ์ ที่หล่อหลอมมาจนท่านเป็นท่านในปัจจุบัน
  • จุดหมายปลายทางทิศทาง -> ต้องการอะไร และจะทำอะไร

เจ้าเป็นไผ ไม่ใช่การเล่าเรื่องเพื่อให้คนอื่นมาชื่นชมหรอกครับ นั่นมันเรื่องเด็กๆ; มันไม่ใช่ความผิดที่ใครจะมาชื่นชม แต่หากว่าเราทำอะไรโดยหวังให้คนอื่นมาชื่นชม (ซึ่งเมื่อไม่ชมก็เกิดเป็นง่อย หรือว้าเหว่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน) แบบนี้เป็นการการของการเสพติดคำชมแล้วล่ะครับ เป็นอาการของคนที่ตั้งตนอยู่ในความประมาท อีกทั้งไม่มี self-esteem ด้วย หลงอยู่กับคำป้อยอที่ไม่จริง

เพราะการชมบ่อย-ชมมาก-ชมโดยไม่มีเหตุผล ก็เป็นการเสแสร้งประจบประแจง — สังคมไทยจึงเป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน คือจะต้องมีการหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมทำในสิ่งที่ต้องทำหากไม่ได้อะไรตอบแทน ไม่มี self-esteem

ความชื่นชมนั้น ต้อง earn มา กล่าวคือหามาได้แบบที่สมควรจะได้รับด้วย ซึ่งหมายความว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างที่มีผลต่อผู้อื่น ไม่ใช่การกระทำเพื่อตนเอง


Geotagging ของเล่นใหม่

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 October 2008 เวลา 21:14 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4253

ตามที่เล่าให้ฟังในลานเจ๊าะแจ๊ะว่าได้โทรศัพท์มาใหม่ โทรศัพท์เครื่องนี้ มีกล้อง 3.2 megapixels และมี GPS (ซึ่งไม่ใช่ A-GPS) อยู่ภายในด้วย

คงจะดีไม่น้อยหากรูปถ่ายมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง เพื่อที่จะรู้ว่ารูปนั้น ถ่ายที่ไหน

โทรศัพท์ที่ผมได้มา ไม่เขียนตำแหน่ง GPS ลงไปใน EXIF ซึ่งเป็นข้อมูลเสริมของรูป JPEG แต่ก็มีวิธีการที่ช่วยให้ทำได้ดังนี้

  1. โหลดโปรแกรมฟรีจาก locr.com จะสมัครเป็นสมาชิกก็ได้ครับ เค้าให้โควต้าอัพโหลดรูปขึ้นได้เดือนละ 100 MB
  2. โปรแกรมนี้ ใช้ได้บน 3 platform คือ Windows, Windows Mobile และ Symbian ซึ่งสองระบบหลังเป็นระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ หมายความว่าติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์มือถือ
  3. หลังจากติดตั้งโปรแกรม เมื่อเราถ่ายรูป ก็จะมีทางเลือกให้ระบุพิกัดที่อ่านจาก GPS ลงไปใน EXIF ของรูป
  4. ในกรณีที่จะอัพโหลดรูปขึ้น Flickr ต้องตั้งค่าเพิ่มอีกนิดหนึ่งคือ
            Your Account > Privacy & Permissions >Import EXIF location data: Yes

    จะเห็นรูปมี Geotagging (Latitude/Longtitude) ดังนี้
  5. แต่ถ้าอัพโหลดรูปขึ้น locr จะมีแผนที่ของจุดที่ถ่ายรูปขึ้นมาเองด้วย



Main: 0.048434019088745 sec
Sidebar: 0.21699595451355 sec