เตรียมตัวไปสำรวจ “เขาบันไดม้า”

โดย Logos เมื่อ 10 October 2008 เวลา 10:01 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4708

ปีนี้บริษัทจะไปสำรวจวัดที่จะไปทอดกฐินที่ วัดป่าเขากะไดม้า  อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ในวันที่ 11-12 ต.ค. นี้ครับ

ที่จริงจะไปสำรวจพื้นที่+หากความต้องการเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แต่เกิดอุทกภัย และแผ่นดินถล่มขึ้นในบริเวณใกล้เคียง จึงระงับไว้ก่อน เลื่อนมาเป็นวันเสาร์-อาทิตย์นี้ มีกัลยาณมิตรในบริษัทไปกัน 13 คน บวกคนขับรถอีกหนึ่ง

ออกจากกรุงเทพใกล้เที่ยงใวันเสาร์เนื่องจากมีผู้ติดงานบุญสองท่าน จะแวะที่เมืองสองแควไหว้พระ และกินข้าวเย็น จากนั้นก็จะออกไปพักยังอำเภอชาติตระการเลย ตอนเช้าวันอาทิตย์จะได้รีบขึ้นเขา ตระเตรียมอะไรได้ก่อนเพล

ขอบพระคุณเจ้าของพื้นที่ที่ในมุทิตาจิต ที่แสดงความจำนงจะพบปะและต้อนรับ แต่เนื่องจากพวกผมไปกันหลายคน เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ ขออนุโมทนากับผู้ที่ปวารณาจะร่วมทำบุญด้วย จะพยายามหารายละเอียดออกมาว่ายังขาดอะไร

ตอนแรกที่กัลยาณมิตรมาบอกว่าจะไปทอดกฐินที่ “เขาบันไดม้า” นี้ งงไปหมดครับ ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคำว่าเขาบันไดม้าที่ ชาติตระการ/พิษณุโลก ค้นเน็ตก็ไม่เจอ! คงเป็นสถานที่วิเวกจริงๆ

สำหรับตอนนี้ มีข้อมูลเบื้องต้น เป็นไปตามหัวข้อ “จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เคยไป” ดังนี้ครับ

ข้อมูล สถานที่ที่จะไปทำบุญกฐิน ปี พ.ศ.2551

ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เราจะไป จากสมาชิกชมรมท่านหนึ่งที่ไปช่วยค้นข้อมูลจาก net มาให้ดังนี้

” ที่พิษุโลก มีที่เงียบๆดีๆหลายแห่ง  เพราะยังมีป่ามากพอควร …
มีสถานที่หนึ่ง  ทางฝ่ายพระธุดงค์บางท่านจะแวะไปพักปฏิบัติธรรมบ่อย แต่จะรักษาสถานที่นี้ไว้เป็นความลับ กลัวคนไปยุ่มย่ามมาก เป็นสถานที่สวยเงียบสงบมากๆ  เกรงว่านานไปถ้ามีคนรู้มากเข้า อาจจะโดนจัดเป็นที่ท่องเที่ยวไปซะอีก

สถานที่นี้ เป็นภูเขา  เรียกว่า “เขาบันไดม้า”  อยู่ห่างจาก อำเภอชาติตระการไปประมาณ กว่า ๑๐ กม.   ต้องไปเริ่มต้นถามที่ อ.ชาติตระการว่าจะเข้าไปยังไง  ซึ่งจะมีรถสองแถววิ่งเข้าออกอยู่บ้างวันละเที่ยวสองเที่ยว  เมื่อไปถึงใกล้ๆ  ต้องปีนหน้าผาสูงชันเกือบ 90 องศาขึ้นไปกว่าครึ่งกม.  จึงจะขึ้นไปถึงบนเขาได้ ต้องมีกำลังร่างกายดีพอควรจึงจะขึ้นไปได้ กว่าจะไต่ขึ้นไปได้คงใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงอย่างน้อย การจะขึ้นไปจึงต้องเตรียมน้ำอาหารขึ้นไปให้พร้อม บนนั้นมีลักษณะแบนเรียบ คล้ายๆภูกระดึง  ไม่ค่อยมีใครขึ้นไป นอกจากนานๆ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะแวะขึ้นไปบ้าง หากใครขึ้นไปถึง จะเหมือนไปอยู่บนแดนสวรรค์ เพราะจะดูวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลไปถึงแม่น้ำโขงของฝั่งลาวได้ด้วย มีลมพัดตลอดเวลา  เหมือนใครไปทำสวนญี่ปุ่นขนาดยักษ์ไว้บนนั้น แต่ที่จริงเป็นธรรมชาติแท้ๆ บนนั้นมีสำนักสงฆ์กรรมฐานเล็กๆแบบเพิงพักอยู่ด้วย  มีพระกรรมฐาน ๑ หรือ ๒ องค์อยู่ดูแล  เป็นพระสายวัดป่าบ้านตาด แต่บางคราวก็ไม่มีใครอยู่เลย เพราะลำบากเรื่องการขึ้นลง  …. แต่ถ้ามีใจนักสู้  ไม่กลัวความลำบาก สถานที่นี้เป็นสถานที่หนึ่งที่น่าไปฝึกมากๆ เพราะจะเหมือนแยกตัวออกไปอยู่อีกโลกหนึ่ง   ที่สงบวิเวก สวยงามไปด้วยธรรมชาติดั้งเดิม ที่ยังไม่โดนรบกวน”

จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เคยไป

ข้อมูลด้านบนที่ให้มาน่าจะเป็นเขาลูกเดียวกัน ที่นั่นสงบเงียบ มีผาหิน และถ้ำ มีสถานที่ปฏิบัติธรรม หากคณะต้องการไปปฏิบัติธรรมและพักค้าง ถือว่า สงบเงียบมากๆ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง กว่าจะขึ้นไปถึงถ้าเดินขึ้นใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 ชม. เดืนไปพักไปนานหน่อยก็ประมาณไม่เกิน 1.5 ชม. แต่จะเหนื่อยสักนิด เพราะเดินขึ้นเขา แต่สำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่ต้องการเดินนานไม่ต้องกังวล ปัจจุบัน ท่านเจ้าอาวาสได้ทำรถไต่เขา ไม่มีหลังคา คนขับที่เชี่ยวชาญทราบว่า กว่าจะคล่องก็เกือบตกเขาไปหลายรอบ รถนี้เป็นภูมิปัญหาของท่านเจ้าอาวาสจริงๆ ต้องไปดูกันเองเห็นแล้วทึ่ง บรรทุกคนได้ทีหนึ่งก็ประมาณ 10 คน

ที่นี่เป็นสถานที่ที่เราควรให้ความเคารพ ตั้งใจอยู่ในบุญกุศล สถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนที่เป็นสัปปายะ เหมาะแก่การเข้าถึงธรรม เป็นสถานที่พระภิกษุสงฆ์และผู้แสวงบุญท่านจะมาสร้างบุญกุศลและเจริญภาวนาเพื่อให้เข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์

« « Prev : พุทธวิธีควบคุมความวิตก

Next : Paradox ของสายตา กับการไม่รู้จักเป้าหมาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 20:27

    อนุโมทนาค่ะ และรอดูรูป จะไปสร้างทางเดินขึ้นสำนักสงฆ์ให้ท่านหรือเปล่าคะ?

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 20:44
    สาธุ

    ตั้งใจจะทำเท่าที่ทำได้ครับ แต่ก่อนอื่น ต้องไปให้ถึงซะก่อน จากนั้นจะพยายามสำรวจความต้องการที่แท้จริง ถ้าหากเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการบำเพ็ญภาวนา บางทีการสร้างอะไรมากๆ ก็อาจจะไม่เหมาะนัก ส่วนจะทำอะไรนั้น คงขึ้นกับพื้นที่ และความเหมาะสมครับ

    ในเมื่อเป็นภูสูง ผมอนุมาณไว้ก่อนว่าน้ำหายากครับ ได้ทราบว่าพระท่านตัดหินเองมาทำทางเดิน แต่ทั้งหมดนี้ ต้องไปดู ไปหาข้อมูลก่อนครับ จึงจะพิจารณาได้ว่าควรจะทำอะไร

  • #3 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 21:40

    เห็นด้วยครับ คุณ คอนฯ

    วัดที่สงบ มีคนไปทำลายความเป็นสถานธรรมโดยไม่รู้ตัว บางวัดเสื่อมสภาพความเป็นสถานที่สงบเพราะพวกเรานี่แหละ

    วัตถุหลั่งไหลเข้าหา ความเป็นจริงในธรรมะถูกทำลาย
    ดูดีๆครับ ดูว่าความจำเป็นทางวัดต้องการอะไรครับ ทำบุญนะครับ ท่านคอนฯ….ขอบคุณมากครับ

    อยากเห็นภาพจริงๆครับผม

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 21:45
    อนุโมทนาด้วยครับพี่เหลียง ทุกอย่างที่เขียน ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้ยินมาครับ ส่วนของจริงเมื่ออยากรู้ก็ต้องไปศึกษา จะถ่ายรูปมาเยอะๆ ครับ
  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 23:31

    อยากไปจังเลย

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 October 2008 เวลา 23:34
    ถ้าพี่ว่างก็เชิญครับ แต่ผมว่ารอวันทอดกฐิน วันที่ 9 พ.ย. ก็ได้นะครับ ขากลับจะไปผาซ่อนแก้วที่แคมป์สน เพชรบูรณ์ครับ
  • #7 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 October 2008 เวลา 17:41

    รอดูรูปค่ะ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.36321496963501 sec
Sidebar: 0.16371297836304 sec