โลกอาจอยู่ใกล้มหาสงครามมากกว่าที่คิด!!!
ที่จริงอาจจะไม่ค่อยมีใครคิดถึงสงครามโลกในยุคนี้หรอกครับ กลายเป็นค่านิยมสากลไปแล้วว่าสงครามไม่ใช่คำตอบ ระบบการผลิตและระบบเศรษฐกิจ ไม่ได้ขึ้นกับพื้นที่อาณาเขตเพื่อครอบครองทรัพยากรอีกต่อไป การติดต่อค้าขายสามารถแลกมาซึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตได้
แต่สิ่งที่ไม่คาดหมาย ก็เกิดขึ้นในเวลาที่เราไม่คาดหมายเสมอๆ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อการติดต่อค้าขายหยุดชะงัก การผลิตเพื่อการดำรงชีวิตยังจะสามารถดำเนินอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ด้วยกำลังการผลิตที่มีผู้กล่าวว่าเกินความต้องการใช้ถึงสามเท่า ประกอบกับกระแสทุนนิยมหมกมุ่นและคงอยู่ด้วยการแสวงหากำไร
กำไรเกิดขึ้น เมื่อรายได้สูงกว่าต้นทุน สามารถกระตุ้นรายได้ได้ด้วยคุณภาพที่ดี ด้วยแบรนด์ ด้วยการตลาด และด้วยการบิดเบือนหลอกลวง ส่วนค่าใช้จ่ายลดลงได้ด้วยความชำนาญที่สูง ปริมาณผลิตที่มาก การตัดต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป บีบผู้ขายวัตถุดิบให้ต้นทุนต่ำลง ลดสเป็ค(โกงผู้บริโภค) ฯลฯ ป่วยการจะไปพูดเรื่องคุณธรรม หรือธรรมาภิบาล ในเมื่อธุรกิจส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่บนความโลภ และการเบียดเบียนกัน เช่นเดียวกับการเมืองบ้านเรา
อธิบายแบบง่ายๆ: วิกฤติซับไพรม์เกิดจากราคาถูกปั่นจนเกินความเป็นจริง สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้เกินความจริงบนราคาที่ไม่สมจริง เมื่อราคาบ้านขึ้นสูง ก็มีแรงจูงใจให้สร้างบ้านออกมาเป็นจำนวนมากเกินความต้องการที่แท้จริง แต่พอขายไม่ออกก็ลดราคา เมื่อราคาบ้านลดลง ผู้ที่ซื้อบ้านในราคาสูงก็เลิกผ่อน มาซื้อบ้านที่ราคาถูกลง สถาบันการเงินจึงมีหนี้เสียมากมาย พากันเจ๊งระนาว — คำอธิบายอย่างละเอียด ดูในบันทึกวิกฤติการเงินสหรัฐ
วิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้ มีความร้ายแรง เกิดความเสียหายรุนแรงเป็นวงกว้าง ซึ่งตลาดสหรัฐและตลาดสหภาพยุโรปซึ่งมีกำลังซื้อสูงมาก เกิดการขาดทุนมหาศาล ทำให้เงินตึงตัวขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ใครมีเงิน จะใช้จ่ายก็คิดแล้วคิดอีก คาดว่าสถานการณ์นี้ จะคงอยู่เป็นเวลานาน ที่หวังว่าจะมาเที่ยวเมืองไทย ก็ลืมไปได้เลย (ที่จะมาปีนี้ ก็เป็นพวกที่จองและลาไว้ล่วงหน้าแล้วเท่านั้น)
ดูเหมือนว่าเอเซียจะยังดีอยู่ แต่ว่าการเติบโตของเอเซียนั้น ก็อยู่บนความสามารถในการผลิตด้วยต้นทุนต่ำ ส่งไปยังตลาดสหรัฐและสหภาพยุโรป แต่ในเมื่อผู้ซื้อมีปัญหา ผู้ขายจะรอดไปได้นานแค่ไหน
สงครามโลกที่ผ่านมาล้วนมีนัยทางเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครคิดว่าจะเกิด ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น
เพราะคำว่า “เกินตัว” เหมือนนักวิ่งโน้มตัวไปข้างหน้ามากๆ พอมีอะไรสะกิดนิดเดียว ก็ล้มคว่ำคะมำหงาย
ไม่อยากให้อ่านบันทึกนี้แบบอ่านคำทำนายครับ แต่อยากให้คิดให้ดี ว่าสิ่งที่เราอยู่ในวันนี้ “ใช่” แน่หรือ?
« « Prev : เกร็ดพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
Next : Led Zeppelin - Kashmir » »
4 ความคิดเห็น
ช่วงมีมีอิสระเสรีด้านเวลามากขึ้นนี้
ถ้าเขียนมากขึ้น
ไปคุย (เป็นวิทยากร) มากขึ้น
ไปเที่ยวกับพรรคพวกมากขึ้น
จะเปรียบเหมือนน้ำขึ้นวันเดือนเพ็ญได้ไหมนะ
ตอนนี้มีเวลาว่างมากขึ้นครับ พยายามค้นมาเขียนให้มากขึ้น
ส่วนการไปคุย (บรรยายได้แต่ไม่ชอบ ชอบคุยแลกเปลี่ยนกันแบบไม่ต้องเตรียมอะไรมากกว่าครับ อิอิ) และการไปเที่ยวกับพรรคพวก ถ้าไม่ติดขัดอะไร ก็ไปได้ครับ ผมยังไม่ได้ว่างแบบที่ว่างจริงๆ แต่ว่างมากขึ้นกว่าเก่า
หลายๆ ประเด็นใช่เลย แต่ทำไม nning ไม่เคยคิดถึงสงครามนะ แต่แค่คิดก็รู้สึกผวาแล้ว กะว่าจะอยู่อีกตั้งหายปี ถ้าเจอจะทำยัไง ไง
ก็เพราะว่าคิดแบบนั้นแล้ว มีความกังวล ไม่มีความสุขไงครับ ด้วยมาตรการปกป้องจิตใจของตัวเรา เราจึงไม่คิด บอกตนเองว่าไม่น่าเชื่อ เป็นไปไม่ได้ สิ่งเลวร้ายทั้งหลายจะหายไปเอง ลืมไปว่าเราก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้นมา
รูปในบันทึกนั้นเป็นของเล่น ถ้าวางเมาส์ไว้เหนือรูป จะปรากฏอีกรูปหนึ่งครับ
คราวหลัง เมื่อมาลานปัญญาแล้ว ล็อกอินเลยนะครับ เมื่อล็อกอินแล้ว ความคิดเห็นจะปรากฏขึ้นทันทีโดยไม่ต้องรอเจ้าของบล็อกมา approve