รังสียูวี

โดย Logos เมื่อ 24 May 2011 เวลา 15:55 ในหมวดหมู่ การแพทย์ สุขภาพ สุขภาวะ #
อ่าน: 3735

ผมไม่ได้เป็นคนที่รักสวยรักงามจนกลัวผิวเสีย และเมืองไทยก็เป็นเมืองร้อน มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว

แต่ช่วงนี้แดดร้อนจนแสบ ยูวีจากแสงแดดในปริมาณที่มาก สามารถทำอันตรายต่อผิวหนังและประสาทตาได้

รูปทางขวาเป็นการคาดการณ์ UV Index ของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีสเกลและสีตามรหัสสากล ดังนี้

UV Index สี ความเสี่ยง เวลาในแดด (นาที)
0-2 เขียว ปกติ มักไม่มีอันตรายต่อคนปกติ ใส่แว่นกันแดดในกรณีที่มีแสงจ้า/แสงสะท้อน 30-60
3-5 เหลือง เสี่ยงเสี่ยงต่ำ ใส่แว่นกันแดด ทาครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 เข้าที่ร่มช่วงเที่ยง 30
6-7 ส้ม เสี่ยงสูง ใส่แว่นกันแดด ทาครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 เสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง หลีกเลี่ยงแดดระหว่าง 10-15 น. ใช้ร่ม 20
8-10 แดง เสี่ยงสูงมาก เหมือนข้างบน หลีกเลี่ยงแดดและกีฬากลางแจ้ง (ผิวไหม้แล้ว) 15
11 ขึ้นไป ม่วง อันตรายมาก ทำทุกอย่างเท่าที่นึกออก น้อยกว่า 15

อาการที่ตามแดดมากเกินไป คือผิวไหม้ — แต่ไม่ใช่ว่าถ้าผิวไม่ไหม้แล้ว ถือว่ายังทนได้; ค่าข้างบน แนะนำตามผิวฝรั่ง คนไทยทนได้มากกว่านี้ เพื่อความปลอดภัย ก็ใช้คำแนะนำตามตารางก็แล้วกันครับ

ถ้าเมฆมาก UV Index อาจลดได้สัก 1-3 ระดับ

อันตรายของรังสียูวี (แม้แต่สำหรับคนที่ไม่ดัดจริต)

รังสียูวี เป็นรังสีที่มีพลังงานต่อโฟตอนสูง มีความถี่สูง ถึงแม้จะเป็นแสงสะท้อนก็ยังมีพลังงานสูงอยู่ดี หากนั่งรถติดหน้าต่าง เดินทางตลอดช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายในวันที่ยูวีแรง พอถึงที่หมาย หน้าตาอาจเปลี่ยนไปเป็นเปาบุ้นจิ้นเลยก็ได้

UV Index เป็นดัชนีที่เกิดจากการวัดประมาณพลังงานต่อพื้นที่; ที่ใช้ค่าดัชนี ก็เพื่อให้พอเข้าใจง่ายๆ กลางคืนมี UV Index เป็น 0 ถ้าหากตากแดดที่มี UV Index 5 อยู่หนึ่งชั่วโมง ผิวจะไหม้เท่ากับตากแดดที่มี UV Index 10 เพียงครึ่งชั่วโมง

เนื่องจากยูวีมีพลังงานสูง เมื่อตกกระทบผิวหนัง ก็อาจจะทำให้ DNA กลายพันธุ์ไป ถ้าโชคไม่ดี ก็เป็นมะเร็งผิวหนังซึ่งมีทั้งชนิดร้ายแรงและไม่ร้ายแรง

หากนัยน์ตารับรังสียูวีมากเกินไป ต่อเนื่องยาวนาน ตาจะแห้ง แถมนอกจากจะส่งผลให้เกิดต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจกแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอตาเสื่อมด้วย

การป้องกันรังสียูวี

รังสีนี้มากับแสงอาทิตย์ตามธรรมชาติครับ แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นธรรมชาติแล้วจึงยอมรับมันเฉยๆ ทั้งที่มีอันตราย ก็คงแปลกดี

ครั้งจะบอกให้หลบอุดอู้อยู่ในตู้ ในกำแพง ก็คงไม่ได้ แต่มีมาตรการหลายอย่างที่พอป้องกันได้ เช่น

  1. อย่านั่งจ้องแสงสะท้อน หากทำได้ ในวันที่มี UV Index สูง ก็หาม่าน หากระดาษไปปิดกระจกห้องทำงานเสียบ้าง
  2. ร่มเงา ที่เหมาะที่สุดคือร่มเงาของต้นไม้ หากไม่มี ใช้ผ้าใบขึงสร้างร่มเงาเทียม
  3. พื้นที่โล่ง ปล่อยวัชพืชให้คลุมดินไว้บ้าง อย่าปล่อยให้หน้าดินเจอแสงแดดเผาโดยตรง ซึ่งนอกจากจะสะท้อนแสงแล้ว ยังจะลดความอุดมสมบูรณ์ของดินอีกด้วย
  4. แต่งกายให้เหมาะ เก็บพวกเสื้อแขนกุด กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้นไว้ก่อน ใช้พวกเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก ร่ม และแว่นกันแดด
  5. กินอาการที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง เป็นการสร้างความแข็งแรงจากภายในร่างกาย ถ้าไม่แน่ใจว่าควรจะเป็นอะไร ให้ดูสีก็พอจะเดาได้โดยไม่มั่วมาก กินพืชพันธุ์ผลไม้ สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีเขียว สีฟ้าและม่วง เช่นมะเขือเทศ แตงโม เสาวรส ข้าวโพด แครอท ส้ม ผัก องุ่นดำ ฯลฯ

« « Prev : มายากล

Next : วันอัฐมีบูชา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 May 2011 เวลา 16:56

    ปกติผมเป็นอาตี๋ผิวขาวยังกะหยวก แต่ช่วงนี้คงยูวีนี่แหละผิวเป็นกาแฟเหยาะนมเลยครับ เพราะขับรถแดดส่องทั้งวัน แถมไปเดินงกๆกลางแดดหลายแห่ง ผมเดาว่ายูวีก็คงเหมือนคอเลสเตอรอล น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างนะครับ แต่ถ้ามากเกินไปก็กลายเป็นโทษ  โอโซนก็เหมือนกัน

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 May 2011 เวลา 21:49
    รังสียูวีเร่งให้เซลผิวตายกลายเป็นขี้ไคลครับ หลังเลือกตั้งเราดูสีผิวนักการเมืองได้ หากใครไม่คล้ำลงก็คงไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียง (แล้วหลุดเข้ามาได้ยังไง?)
  • #3 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 May 2011 เวลา 23:02

    ดินสอพองช่วยได้ค่ะอย่าทาครีมที่มีส่วนผสมน้ำมันแม้ว่าจะมีสารป้องกันยูวีค่ะเพราะครีมที่มีน้ำมันจะทำให้พื้นผิวบริเวณที่ทา มีความร้อนสูงขึ้น อันตรายตามมา

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 May 2011 เวลา 23:09
    ขอบคุณครับพี่สร้อย สงสัยว่าดินสอพองอาจมีส่วนผสมของ zinc oxide (ZnO) ซึ่งป้องกันยูวีได้ ผมเคยพยายามหาสูตรครีมกันแดด ทุกสูตรที่พบ บอกว่าให้ผสม ZnO ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีขาย รู้สึกว่าจะยุ่งยากไปหน่อยก็เลยตัดออกครับ

    นี่ถ้ารู้ว่าดินสอพองใช้ได้ คงเขียนไปแล้วครับ

  • #5 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 May 2011 เวลา 5:21

    ลองสังเกตอย่างง่ายค่ะคนที่ใช้โลชั่น หรือครีมทาตัว ผิวจะเป็นฝ้ามากกว่าคนที่ไม่ทาคนที่ทาผิวด้วยแป้งแข็ง (มีส่วนผสมน้ำมัน) จะผิวคล้ำเร็วกว่าคนทาแป้งฝุ่นกระป๋องหญิงไทยโบราญมีผิวผ่องเพราะดินสอพอง ทั้งๆที่ใส่ผ้าแถบค่ะ

  • #6 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 May 2011 เวลา 5:53

    สำหรับผมธรรมชาติล้วนๆ ผิวผมดำเร็วมากถ้าถูกแดดลม แต่ขาวช้ามาก ประมาณว่าถูกแดดวันเดียวก็ดำปื๋อ แต่ต้องรอ 1 เดือนกว่าจะขาวดังเดิม ผมก็เลยดำตลอดปี เพราะชอบเดินตากแดด เวลาเดินไปสอน เขามีหลังคากันแดดให้เดินก็ไม่เดิน เลี่ยงไปเดินกลางแดดแทน ให้ยูวีมันไล้โลมเสียบ้าง อิอิ

    ความจริงน่าทำวิจัยมากๆ ผมสังเกตหลายคนผิวคล้ำกว่าผมเสียอีก และเดินตากแดดมากด้วย แต่ผิวเฉลี่ยโดยรวมกลับขาวกว่าผม  แสดงว่าผิวหนังคนมีสารอะไรบางอย่างที่สะท้อน ดูดซับ แสงแดดได้ต่างกัน

  • #7 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 May 2011 เวลา 8:48

    ยืนยันประสิทธิภาพดินสอพองค่ะ เคยคิดจะเขียนในเรื่องเล่าจากอดีตตอนใหม่เพราะใช้มานานตั้งแต่เด็ก ซึ่งได้ผลแค่ไหนก็พอทราบแก่ใจตัวเองอยู่

    เวลาร้อนๆ ไม่เคยทาผิวด้วยโลชั่นในตอนกลางวันเลยค่ะ เพราะมันร้อนมากกว่าเดิม แต่ใช้ดินสอพอง/แป้งร่ำ ทาตัวหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ (ใช้หยดน้ำที่เกาะตัวเป็นสื่อพาความร้อนออก เมื่อระเหยโดยมีดินสอพองเป็นตัวกั้นไอแดด) ร้อนเปรี้ยงตอนเที่ยงก็ยังนอนอ่านหนังสือบนตั่งใต้ร่มไม้ได้สบายโดยไม่เหนอะตัวล่ะค่ะ แถมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวรัดตัว ทำให้ผิวละเอียดด้วยนะคะ

    แต่ตอนนี้มีลูกหมาทำให้ตัวมีรอยเขี้ยว แถมดำลงเพราะวิ่งเล่นกัน อันนี้ดินสอพองยังช่วยไม่ได้อ่ะค่ะ 555

  • #8 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 May 2011 เวลา 12:30
    สมัยที่ผมยังตีกอล์ฟอยู่ แคดดี้บางคนก็จะพอกแป้งเครื่องสำอางค์หนา บางคนก็โพกผ้าปิดหน้าปิดคอ ส่วนเพื่อนๆ ก็มักใช้ sun block ราคาแพงของญี่ปุ่น ผมเลิกตีกอล์ฟไปห้าปีแล้ว สีผิวยังไม่เหมือนก่อนตีกอล์ฟครับ แต่ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่ได้มาจากการตีกอล์ฟ คือกลายเป็นคนไม่กลัวแดด แล้วแต่ว่ามีอะไรทำหรือไม่-ผมไม่ตากแดดตากฝนแบบหุ่นไล่กาครับ
  • #9 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 May 2011 เวลา 20:18

    วิศวกรเครื่องกลอย่างผมคิดต่อไปว่า แป้งนั้นสามารถดูดซับความชื้นได้มาก ดังนั้นเหงื่อที่ออกมาก็ถูกซับด้วยแป้ง ทำให้ไม่เหนอะตัว ส่วนสีขาว ช่วยสะท้อนแสงแดดออกไป ก็เลยทำให้ไม่ร้อนได้ถึง “สองต่อ”

    ส่วนผิวรัดตัวนั้น อิอิ ต้องขอคิดดูก่อน แรงดึงระหว่างโมเลกุลแป้งไม่น่ามากปานนั้นนะครับ 

    ที่สาวพม่าทาหน้าด้วยแป้งเป็นวงๆ อาจด้วยเหตุนี้หรือเปล่า มีผสมสมุนไพรด้วย


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.66506195068359 sec
Sidebar: 0.50167393684387 sec