มหาสยามยุทธ — ศ.นพ.ประเวศ วะสี
อ่าน: 3746ผมตั้งชื่อเลียนมหากาพย์ “มหาภารตยุทธ” ของอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องราวสงครามใหญ่ระหว่างพี่น้องครูบาอาจารย์ รวมทั้งแม้พระกฤษณะก็ยังลงมาเป็นสารถีขับรถรบให้ท้าวอรชุน ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องคนไทยขณะนี้ซึ่งแบ่งข้างด้วยอารมณ์รุนแรงเป็นฝ่าย รักทักษิณกับฝ่ายเกลียดทักษิณ ข้างละเท่าไรไม่ทราบแน่ แต่อาจมากกว่าข้างละ ๑๐ ล้านคน จึงน่าจะเป็นความแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกันที่ใหญ่ที่สุดอันอาจนำไปสู่การนองเลือด จึงเรียกการต่อสู้ครั้งนี้ว่า “มหาสยามยุทธ” น่าจะมีผู้วิจัยเก็บข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องและเหตุการณ์ไว้อย่างละเอียด และนำมาประพันธ์เป็นมหากาพย์ เพื่อให้เป็นที่เรียนรู้ใหญ่ของคนไทยทั้งชาติสืบต่อไป
ผมเห็นว่าจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ และมีแนวโน้มจะรุนแรงนี้ มีจากความยึดมั่น ถือมั่น ว่าตนนั้นถูก (ฝ่าย “ของตน” จึงถูกเหมือนกัน และเป็นคนดีที่สุดที่เห็นด้วยกับตน) ส่วน “อีกฝ่ายหนึ่ง” ผิดอย่างชั่วร้าย เลวทราม รับไม่ได้เลย
ว่าก็ว่าเถอะ ทุกฝ่ายช่วยกันต้อนเมืองไทยเข้ามุมอับ เพราะยังยืนอยู่ที่เดิม ยังมองแต่เรื่องเดิม จะบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งถอยออกจากจุดยืนของเขา เพื่อที่ตนจะได้พอใจว่าตนนั้นถูก และอีกฝ่ายหนึ่งผิด เป็นการสร้างเงื่อนไขที่รู้อยู่แล้ว ว่าอีกฝ่ายหนึ่งรับไม่ได้
ทั้งสองฝ่าย มีประเด็นที่ผมคิดว่าใช่ และมีประเด็นที่ไม่ใช่ มากบ้าง น้อยบ้าง ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรือทำถูกต้องทุกเรื่อง แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆ ได้เปิดหูเปิดตา เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ของเมืองไทย ที่ถูกปกปิดบิดเบือนให้เห็นกระจ่างขึ้น เห็นถึงจิตใจคน เห็นถึงระดับจริยธรรม มารยาท ทัศนคติ ฯลฯ
แต่ตลอดเวลาที่เบิ้ลกันมายาวนาน เรื่องราวดำเนินไปสู่ทางตัน ไม่มีทางออกให้เมืองไทยเลย
ผมคิดว่าทั้งสองฝ่ายต่างคิดว่าตนทำเพื่อเมืองไทย แต่ขออภัยที่ต้องถามกลับ ว่าเป็นการคิดและทำเพื่อเมืองไทยจริงหรือไม่ มีเป้าหมายร่วมกันหรือไม่ เป้าหมายส่วนตัวกับของส่วนรวม ห่างกันมากหรือไม่
คือผมก็เข้าใจล่ะ ว่าถ้าไม่คิดว่าถูก ก็คงไม่ทำอย่างแน่นอน แต่ว่า “เราถูก” หรือ “เมืองไทยผาสุก” จะสำคัญกว่ากันครับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแง่คิดไว้นานก่อนจะเกิดเหตุนี้ ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างว่าจงรักภักดีต่อสถาบัน ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทมาใส่เกล้าใส่กระหม่อมจริงหรือไม่ เรามีเป้าหมายร่วมกันเพื่อความสุขความเจริญของคนในชาติหรือไม่
- โลกบาลธรรม — อาจต้องอบรมบ่มนิสัยกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะโตแล้วแก้ยาก-แก้ไม่ได้ ผิดแล้วไม่รู้ตัวว่าผิด เปลี่ยนออกลูกเดียว
Next : “โลกร้อน” ในหน้าหนาว » »
4 ความคิดเห็น
ครับ ดูแล้วท่านประเวศพูดไว้ไม่ผิด แต่เบื้องลึกจริงยังซับซ้อนมากกว่านี้ ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่เกาะเกี่ยวกันมานาน จากระดับธรรมดาจนพัฒนาไปจนใหญ่โต
ผลประโยชน์ที่ดำรงมานาน ปัญหาประเทศที่สะสมมาอย่างฝังลึก มาปะทุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การต่อสู้ระหว่างชนชั้น ได้แปรเปลี่ยนไปจากขั้วใหญ่สองขั้วในอดีต มาเป็นขั้วใหม่
ทุนนิยมก็เปลี่ยนโฉมไปมาก ระหว่างประเทศได้แปลงโฉมไปเป็นโยงใยกันทั่วโลก
พันธะต่างๆที่เกี่ยวโยงย่อมยากที่จะแก้ไขโดยง่าย
ฐานอำนาจจริงอยู่ตรงไหน
ผลประโยชน์ที่แท้จริงใครเป็นผู้ยึดครอง
แล้วใครหละที่ห่วงประชาชนจริงๆ ใครหละที่สู้เพื่อประชาชนโดยแท้จริง และใครหละที่จะนำพาประเทศชาติไปทางไหน
ประชาชน ถูกจุงเข้าสู่ภาวะสงครามประชาชนด้วยตัวเอง เพื่อใคร ใคร ใคร
สรุปว่า..ยังหาเกียร์ถอยไม่เจอ ถึงมีก็ไมใช้ เพราะตะบึงไปข้างหน้า ให้เร็ว ให้แรง
เป็นสูตรสำเร็จของทุกฝ่าย
เรื่องนี้มองเหมือนเรื่องเก่าๆ สงครามอภิมหายุทธอะไรนั่น
แต่คราวนี้เป็นสงครามจากสันดานคนๆเดียวที่ดื้อดึงมะทะลุ
ประจวบกับ..สังคมเถื่อน ที่เกิดจากการเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี
ประชุมที่เอาแต่ซื้อหาความเจริญโดยสังคมไม่ได้เรียนรู้วิถีลึดตื้นหนาบางไปพ้อมด้วย
ขาด ขาด กระบวนการ เอาแต่น้ำ ไม่เอาเนื้อ เครื่องปรุงก็ขึ้นรา จึงได้อาหารบูดมาหล่อเลี้ยงสังคม
ระยะนี้ไม่มีทางออก
ระยะต่อไป ถึงจะเห็นทางที่ไม่มีใครยอมออก
สงครามเละเทะ เพราะคนไทยเอาแต่แบะๆ
แบ..กันต่อไปเถิดไทยเอ๋ย
พวกเจ้าไม่มีความรู้เพียงพอที่จะสงบศึกนี้ได้หรอก
ปล่อยให้มันเป็นไป มันก็ไปเป็นอะไรก็ได้
ไม่นานหรอก ปีศาจทยอยโผล่ออกมาเรื่อยๆ
สงครามนั้นใกล้เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ เราคนไทยที่ไม่ได้ใส่เสื้อแดง แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับกลุ่ม พธม. ทุกประการจะทำอะไรได้บ้างเพื่่อช่วยให้ชาติรอดพ้นการนองเลือด หรือถึงคราวที่ไทยจะต้องต่อสู้กันเอง