สวนครัวแนวตั้ง

อ่าน: 12266

… มีข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าแผลที่เกิดขึ้นตามมือและเท้านั้นยังไม่หาย จากกรณีดังกล่าว ได้ทำการปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอแจ้งว่าอาจมิได้เกิดจากน้ำกัดมือกัดเท้า แต่อาจเป็นแผลที่เกิดจาก สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร …

อืม…จริงหรือไม่ก็ไม่อาจตัดสินได้ครับ ไม่มีความรู้อย่าฟังธง ถึงมีความรู้มีประสบการณ์แต่ไม่ได้ตรวจก็อย่าฟันธง(จนกว่าจะเข้าใจบริบทก่อน) ข่าวคราวจะบอกต่อก็ไม่ต้องขยายความ — โมเดลการแก้น้ำท่วมก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปสำหรับทุกพื้นที่หรอกครับ ทุกพื้นที่มีบริบทที่แตกต่างกัน ตั้งโมเดลทำไม ก่อนจะทำอะไร ถาม+ขอความรู้จากชาวบ้านซะหน่อยดีไหมครับ

สวนแนวตั้งเป็นความคิดของผู้ที่ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกตามห้องพักในมหานครที่อัดกันแน่น ที่จริงแล้วก็ไม่เชิงว่าคนที่อาศัยอยู่ตามมหานคร จะสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดที่ไม่มีที่ทางปลูกอะไรหรอกครับ แต่เหตุผลเค้าเยอะไปเท่านั้นเอง ถ้าจะปลูกต้นไม้นั้น ปลูกได้เสมอ ไม่มีพื้นดิน->ปลูกในกระถางได้ ไม่มีที่วางกระถาง->แขวนก็ได้

ในกรณีอุทกภัยนั้น พื้นที่อยู่อาศัยลดลงมาก ที่ยังมีอยู่ ก็ไม่รู้จะรอดหรือไม่ เราลืมต้นไม้เล็กๆ กันไปหรือเปล่าครับ ต้นไม้เล็กพวกสวนครัวจมน้ำตายหมด ถ้าจะรอน้ำลดแล้วเริ่มปลูกใหม่ กว่าจะโตก็เสียเวลาไปเท่ากับระยะเวลาที่น้ำท่วมซึ่งคราวนี้สงสัยจะยาวครับ เป็นเดือนแน่เลย

ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่น้ำท่วม การทำมาหากินลำบากขึ้นมาก รายได้จากการรับจ้างหดหาย จะหาอะไรใส่ปากท้องก็ลำบากไปหมด

ในภาวะที่อาหารการกินฝืดเคืองไปหมดอย่างนี้ จะตามมาด้วยภาวะข้าวยากหมากแพง เหมือนเมื่อปลายปีที่แล้วหลังจากน้ำท่วม ดังนั้นแม้น้ำลด ภัยยังไม่จบง่ายๆ หรอกครับ ถ้าพอจะประทังความลำบากยากเข็ญไปได้ ใช้วิธี “เก็บกิน” (เศรษฐกิจพอเพียงนั่นล่ะครับ) — ไม่ต้องเลี่ยงการ “ทำกิน” แต่ว่าให้มีกินให้ได้ก่อน มีแรงแล้วจึงไป “ทำมาหากิน” (รับจ้าง หรือขายของ)… แต่วันนี้ ปลูกอะไรที่กินได้อย่างรวดเร็วก่อนครับ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปลูกอะไรดี แต่ละท้องถิ่นคงชอบกินไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ดูจากปริมาณน้ำแล้ว พอประเมินได้ว่าน้ำจะไม่ลดในช่วงหนึ่งเดือนนับจากนี้ครับ ดังนั้นก็ควรปลูกอะไรไว้กินได้ในช่วงน้ำยังไม่ลด ถัดจากนี้อีกสองอาทิตย์ เริ่มปลูกผักสวนครัวหรือไม้ล้มลุกที่แม้อายุสองเดือน ก็ยังไม่โตเกินภาชนะที่ปลูก

อันนี้ ผมทำเล่นช่วงย่ำรุ่ง เพียงแต่มาถ่ายรูปตอนเช้า ไม่มีเครื่องมือครับ

สามรูปแรก เอาขวดน้ำหรือขวดน้ำอัดลมมาเจาะรูจนทะลุ 2 รู เอาไว้แขวน จากนั้นร้อยเชือก 2 เส้น แขวนเลย ปลายเชือกด้านหนึ่ง ผูกไว้กับคาน อีกด้านหนึ่ง มี แหวน/washer แบบแสวงเครื่อง ที่จริงก็กิ่งไม้นั่นล่ะครับ แล้วตัดด้านบนให้เปิดออก เอาดินใส่ตรงกลางขวด ก็จะเป็นกระถางปลูกผัก ปลูกต้นไม้ได้

อีกแบบหนึ่ง เคยทำไว้นานแล้ว [กระถางที่ไม่ต้องรดน้ำ] ตัดขวดน้ำแล้วเอาดินใส่ดื้อๆ เลย ถ้าตั้งได้ก็ตั้ง แต่ถ้าตั้งไม่ได้หรือกลัวล้ม ก็เอาอีกครึ่งมารอง

ส่วนคนที่บ้านน้ำยังไม่ท่วม จะลองทำเตรียมไว้ ก็ไม่เสียหายครับ เวลาภัยมา มีเงิน ก็ใช้เงินไม่ได้ ต่อให้บ้านไม่โดนอุทกภัย แต่จะมีทุพภิกขภัยตามมา เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหาย — ไม่ได้ขู่ และไม่ต้องเชื่อผม อยากให้พิจารณาเอาเองครับ

« « Prev : สร้างแพกันเถอะ

Next : ถ่านอัดแท่ง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 September 2011 เวลา 8:29

    เรื่องวิกฤติเกี่ยวสารบ้าๆบอๆนี้ อยากที่ประชาชนคนเดินดินจะเข้าถึง
    ถ้ายังจำได้สมัยหนึ่งประมาณ 7-8 ปีมาแล้ว
    ปลาทั่วประเทศเกิดเป็นแผลเน่าตามจุดต่างๆในร่างกาย
    แผลน่าเกลียดบ้าง บางตัวหางเน่า ตัวเน่า หัวเน่า แต่ยังไม่ตายนะ
    ต่อเมื่อเน่ามากๆก็ลอยตายเกลือ่นคับแม่น้ำ
    แต่ที่แปลกๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆก็คืด แมลงวันไม่ตอม อีกาไม่กล้ากิน
    โรคที่ว่านี้ไม่มีการพิสูจน์ บอกกล่าวเล่าแจ้ง
    คนเลี้ยงปลาเจ้ง คนกินปลาขยาด ปลาตามห้วยหนองคลองบึงสูญพันธุ์
    ปลาเน่าอยู่ประมาณ..1-2 ปี โรคนี้ก็หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ปัจจุบันมีการใช้สารต่างๆมากขึ้น หลากหลายไม่บันยะบันยัง น้ำทุกหยดเจือสารพิษสารเคมี
    ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง สารพิษที่พ่นออกมาจากโรงงาน
    พวกที่อยู่มาบตาพุฒรู้ดี ว่ามันทรมานเพียงใด
    อากาศหายใจยังไม่ปลอดภัย

    อาหารการกินในตลาดไม่ต้องพูดถึง
    ใครโชคดีก็เป็นโรคช้าหน่อย ใครโชคร้ายโรคก็รุมล้อม
    หนีไม่ออกร๊อก ถ้ายังซื้อผักอาหารนอกบ้าน กินนอกบ้าน เสี่ยงตายกันทั้งนั้น
    ตักอาหารเข้าปาก ก็เหมือนตักสารร้ายเข้าสู่ร่างกาย

    เรื่องนี้ถ้าไม่วางแผนทำอย่างชัดเจน จริงจัง ก็ซังกะตายกันต่อไป อิ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 September 2011 เวลา 8:33

    น่าจะออกแบบสวนผักมือถือด้วย ช่วยกันคิด ลอง ปลูก มากๆน่าจะเป็นงานอดิเรกที่ไม่ธรรมดา ลองชี้ชวนกันทำมากๆจะสนุกแน่ๆ ที่สวนมีต้นพริกขี้หนูต้นหนึ่ง งอกเอง ออกลูกเองเต็มต้น ทำไมมันดกอะไรปานน้ำ กิ่งแทบจะหัก

  • #3 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 September 2011 เวลา 8:36
    แค่เติมสร้อยว่า”ปลอดสารพิษ”เข้าไป อาหารก็ขึ้นราคาได้อีก 20% ครับ คนกินไม่รู้เรื่องว่ากินอะไรเข้าไป ปลอดสารพิษแต่เป็นยาพิษจากเกษตรสับปะรังเค เร่งผลผลิตโดยไม่สนใจผู้บริโภค บรรดาคนปลูกกล้ากินอาหารที่ตัวเองปลูกที่ไหนครับ… ผลผลิตที่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยเอาไว้ส่งออก ส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย ส่งออกไปไม่ได้ เอาไว้กินเองในประเทศ แต่เรื่องนี้ครูบาตีฆ้องร้องป่าวมานานแล้ว อิอิ
  • #4 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 September 2011 เวลา 10:26

    เคยปลูกต้นหอม กระเทียมในที่จำกัดแบบนี้ งอกค่ะ แต่ต้องรีบตัดเอากินเมื่อต้นงอกสักสองคืบเพราะหลังจากนั้นต้นลีบสลบเพราะสารในดินคงไม่พอ เคยถามท่านเกษตรกรบอกว่าที่ทำเขาเรียกว่าเพาะ ถ้าจะให้โตต้องแยกลงดินใส่ปุ๋ย
    เพื่อนเอามั่ง เอาข้าวมาเพาะในกะบะ แคบๆ ใส่น้ำพอสักคืบเอามาปั่นกินเป็นอาหารเสริมวิตามิน
    การคิดและทำ ถึงจะไม่ได้ขั้นขายก็ยังได้กินเอง(บ้าง)

  • #5 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 September 2011 เวลา 10:31

    ผมเองก็เคยมีแนวคิดสร้าง “หน้าต่างกินได้” มานานแล้ว เช่นขอบด้านบนปลูกอะไรที่มันห้อยๆลงมา เป็นม่านหน้าต่างไปเลย ลูกมันห้อยลงมาก็เก็บกินได้ ต้นใบดอกกลายเป็นม่านที่สามารถช่วยบังแดดแบบธรรมชาติ งามไปอีกแบบ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.1497859954834 sec
Sidebar: 0.6617739200592 sec