เจ้าเป็นไผ ๒ พร้อมส่ง

อ่าน: 2972

หนังสือเจ้าเป็นไผ ๒ พร้อมจะส่งไปถึงผู้ที่ได้สั่งซื้อแล้วครับ หนังสือออกจากโรงพิมพ์เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่พบที่ผิดที่ควรแก้ไขสามแห่ง ทั้งสามที่เป็นความผิดของผมเอง ที่ค้นตัวสะกดของนามสกุลแล้วเจอตัวสะกดสองแบบ แต่ผมดันไปเลือกเชื่อตัวสะกดตามฐานข้อมูลบรรณานุกรมที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งท่านเจ้าของนามสกุลไม่ได้เลือกเขียนนามสกุลของท่านอย่างนั้น (บรรณานุกรมผิด แต่ผมยอมรับผิดครับ พยายามค้นตัวสะกดนามสกุลของท่านแล้ว แต่ผมย้ายหนังสือส่วนใหญ่ไปไว้ที่ออฟฟิศ จึงไม่มีหนังสือที่ท่านเขียนอยู่ใกล้ๆ ให้ตรวจสอบได้เลย)… เมื่อปรึกษากันดูที่กฐินป้าจุ๋มแล้ว เห็นว่าจะต้องแก้ไข

ซึ่งบัดนี้การแก้ไขความผิดพลาด ได้ทยอยเสร็จแล้ว ผมจะเริ่มส่งหนังสือ 167 เล่มแรกออกในวันจันทร์นี้เลย ขออภัยอย่างสูงที่ต้องให้รอครับ

จปผ๒ นี้ เป็นความภูมิใจอย่างมาก ผมคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีจริงๆ เรื่องก็ดี-มันหยดทุกเรื่อง รูปก็สวย สนุกและได้ประเด็นคิดไม่น้อยกว่าเล่มแรกแน่นอนครับ

ขอขอบคุณป้าจุ๋มและทีม (เอหยีคนเดียว) กับครูปูและทีม (จานปูและนักศึกษา VBAC) ที่ช่วยกันแก้ไขคำผิดครับ

ขอบคุณบรรดานักเขียน และบรรณาธิการที่ช่วยกันทำจนหนังสือออกมาดีอย่างนี้


สมดุลย์อันเปราะบาง

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 22 October 2009 เวลา 3:09 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการ #
อ่าน: 3698

“เบื่อ…เบื่อ…เบื่อ…เบื๊อ…เบื่อ…งี่เง่าจัง…ทำไมอย่างนี้ฟะ” คงได้ยินอะไรทำนองนี้กันบ่อยๆ นะครับ เป็นคำบ่นยอดฮิตของคนทำงาน มักจะเกิดจากการที่จะต้องปฏิบัติอะไรที่ไม่ตรงกับความคาดหวัง ไม่เห็นด้วย ไม่สามารถ ไม่รู้เรื่อง หรือไม่มีประโยชน์

แต่รากเง่าของ “ปัญหา” นี้ มาจากการไม่พูดกัน ทำให้ผู้ตัดสินใจออกคำสั่งที่ผู้ปฏิบัติขัดเคืองคับข้องใจ แต่เพราะผู้ปฏิบัติไม่กล้าพูด จึงหาทางระบายออกด้วยการบ่น นินทาว่าร้ายอย่างสนุกสนาน เป็นการระบายแรงกดดันในใจ ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย

แล้วถ้าถามว่าแรงกดดันเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็คงตอบว่าเกิดจากความคาดหวัง ไม่ตรงกับความเป็นจริง — จะให้ผู้ออกคำสั่งเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างไรในเมื่อตัวเองไม่พูด แล้วเมื่อคำสั่งงี่เง่าออกมาแล้ว จะไม่ปฏิบัติตามได้อย่างไรในเมื่อเป็นลูกน้องเขา กรรรรรรรรรมมมมม ก็ใช่ว่านายทุกคนจะฟังเป็นหรือรับความจริงได้หรอกนะ ขืนพูดไปจะเข้าตัว อันนี้เป็นกรรมสองเด้ง คือดันไปอยู่ในองค์กรที่ไม่น่าอยู่ ซึ่งอย่าไปโทษใครเลย ก็เลือกเองนี่ครับ

ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลก็ว่ามันดีขึ้น แต่ทำไมตัวเราไม่ดีขึ้น ไม่รู้ว่าเขาวัดว่าดีตรงไหน งานหนักขึ้นทุกที เงินเดือนก็ไม่เห็นขึ้นทันค่าครองชีพเลย สติจะแตกอยู่แล้ว — แต่คุณมีทางเลือกเสมอครับ อยู่ที่ว่าจะกล้าเลือกหรือเปล่า

ถ้ามาทำงานตรงเวลา แล้วในเวลางาน ทำเต็มที่ เลิกงานแล้วก็คือเลิกงาน ไม่ควรจะต้องอยู่ดึก (เพราะนายก็ไม่ได้อยู่ด้วย) ถึงนายจะอยู่เดินไปเดินมาให้กำลังใจ แต่จะมากะเกณฑ์ลูกน้องให้อยู่ดึกเพื่อทำงานเกินที่กฏหมายกำหนด คงไม่เป็นธรรมเหมือนกัน แค่บอกว่าจ่ายค่าล่วงเวลาแล้วจะสั่งให้ทำงานดึกนั้น ไม่พอหรอกนะครับ หัวหน้าควรจะวางแผนงานล่วงหน้า สอบถามความสมัครใจเสียก่อนว่าลูกน้องคนใดอยู่ได้หรือไม่ พนักงานทุกคนเป็นคนเหมือนกัน มีครอบครัว มีคนต้องดูแล มีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน

ทุกๆคน ต้องชั่งน้ำหนักเอาเอง ระหว่างหน้าที่การงาน+ผลตอบแทน กับชีวิตส่วนตัว+การพักผ่อนอย่างเพียงพอ อาจมีจุดสมดุลย์ที่ดีระหว่างสี่เรื่องนี้ เพียงแต่จุดสมดุลย์นั้นคงจะไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นก็อย่าคาดหวังอะไรที่ไม่เป็นจริงเลยครับ

ถ้าตัวคุณบ้างาน ก็อย่าไปตำหนิคนที่ไม่ได้บ้าอย่างคุณ แต่จงลงโทษคนที่ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่สมกับผลตอบแทนที่องค์กรมอบให้; หัวหน้าที่ไม่รู้จักลูกน้อง ย่อมโดนหลอกอย่างน่าสงสารครับ นั่นแหละ คนประจบสอพลอจึงได้ดี และเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น

อยากให้องค์กรเป็นอย่างไร ก็ทำให้มันเป็นอย่างนั้น แต่อย่าลืมตั้งเป้า ตั้งความหวังตามความเป็นจริงด้วยล่ะครับ

ขอให้มีความสุข สนุกสนานกับการเลือกทางเดินของตนเอง



Main: 0.024203062057495 sec
Sidebar: 0.15838885307312 sec