พลุเมืองทอง 2552 อีกอันหนึ่ง

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 December 2009 เวลา 4:05 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4892

ภาพชุดนี้ นับว่าถ่ายได้แย่มาก ฝีมือผมเองครับ

มีปัญหาแบบเดียวกับเมื่อปีที่แล้วคือพื้นโยกเยก แต่ปีนี้ เปิดหน้ากล้องนานเกินไป ประกอบกับถ่ายเจาะ (มุมแคบเพื่อให้ได้แสงพลุเต็มภาพ) จึงต้องกวาดกล้องไปมา แล้วนอนน้อยมาหลายคืนติดๆ กัน… อ้างไปเรื่อย… ดังนั้นภาพในชุดนี้ จึงมีความผิดพลาดมาก

สิ่งที่เรียนรู้มาก็คือ ไม่ต้องเปิดหน้ากล้องมากก็ได้ (ผมใช้ [S]hutter priority+Manual focus ที่ infinity) ความเร็ว shutter 1/8 ถึง 1/10 sec ก็พอ (ผมใช้ 1/3 sec เป็นส่วนใหญ่ แล้วตอนหลัง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมามั่วไปหมด) ดังนั้นภาพเป็นจำนวนมาก จึงไม่ชัดเท่าที่ควร+สั่นไหวด้วย

ก็ถือเสียว่าดูการผสมสีบนท้องฟ้าก็แล้วกันนะครับ 10 ½ นาที

อ่านต่อ »


พลุเมืองทอง 2552

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 December 2009 เวลา 1:44 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4499

เนื่องจากมีสถานที่ถ่ายทำที่ดี เมื่อมีพลุที่เมืองทอง ผมก็มักจะนำรูปมาให้ดู [วิดีโอพลุเมืองทอง จากตำแหน่งริงไซด์ ฝีมือคนบ้านใกล้เรือนเคียงซึ่งยังไม่เคยเจอกันแถวนี้ แต่ไปเจอกันที่อื่นไกลๆ]

คราวนี้ก็เช่นกัน มีรูป 791 รูป มาจากกล้องของน้องชาย ขยันถ่ายจริงๆ ใช้เลนส์ Canon EF 24-105mm f/4 L ตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม ใช้เวลาดู 41½ นาที มีเพลงประกอบ 10 เพลง

ผมดูดรูปมาทั้งหมด เรียงตามลำดับเวลา ไม่ได้เลือกรูป แต่ก็ดี(เกือบ)ทั้งหมด — ถ้าไม่มีอะไรทำ ก็ถือว่าฟังเพลงก็แล้วกันครับ ใช้ iPhoto ทำบน Mac แต่ตัด Ken Burns Effect ออกเพื่อประหยัดเนื้อที่

อ่านต่อ »


ส้มลูกนี้ ต่อไปอาจจะแสดงอาการน่าเกลียด

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 6 December 2009 เวลา 0:03 ในหมวดหมู่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3565

บันทึกนี้เป็นการอนุมาน ไม่ประสงค์จะให้เกิดความแตกตื่นครับ ขอให้พิจารณาเอาเอง

จากวิชาภูมิศาสตร์สมัยเด็กๆ โลกนี้ไม่กลมเหมือนลูกบอล แต่ป่องกลางเหมือนส้ม

ทีนี้ก็เกิดปรากฏการณ์โลกร้อน จะร้อนตับแตกหรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นของบันทึกนี้ นักวิทยาศาสตร์นาซ่าประมาณว่าอาจจะขึ้นมาอีก 7 เมตรหากน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายหมด กรีนพีซว่าไว้ดุเดือดกว่านั้น

ผมไม่ได้เขียนบันทึกนี้เพื่ออภิปรายว่าจะเป็นตัวเลขใดหรอกนะครับ แต่อยากชี้ประเด็นที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง เกี่ยวกับมหาสมุทรสามอันบริเวณเส้นศูนย์สูตร คือแปซิฟิก อินเดีย และแอตแลนติก (ข้อมูลมาจาก Wikipedia)

มหาสมุทร พื้นที่ (ล้าน ตร.กม.)
แปซิฟิก 169.2
อินเดีย 73.6
แอตแลนติก 106.4

ในตอนนี้ โลกก็หมุนรอบแกน(หมุน)เหนือใต้แบบที่เป็นอยู่ แต่ถ้าน้ำแข็งละลายตากแผ่นดินลงมา แล้วทำให้น้ำสูงขึ้น 1 เมตร ที่ใช้เลข 1 เพราะคิดง่าย ถ้าไม่ชอบใจ ก็คูณตัวเลขที่ชอบเอาเองก็แล้วกันครับ — ถ้ามีเขื่อนที่มีพื้นที่ 1 ตร.กม. เติมน้ำให้สูงขึ้น 1 เมตร จะมีมวลของน้ำ (น้ำหนัก) เพื่มขึ้น 1 ล้านตัน

แต่ระดับน้ำในแต่ละมหาสมุทรก็(เกือบจะ)เท่ากัน เพราะมันต่อถึงกันหมด มหาสมุทรแปซิฟิกจะมีมวลเพิ่มขึ้น 169.2 ล้านล้านตัน มหาสมุทรอินเดียหนักขึ้น 73.6 ล้านล้านตัน และมหาสมุทรแอตแลนติกเพิ่มขึ้น 106.4 ล้านล้านตัน

ลองนึกถึงส้มหมุนที่เกิดหูดยักษ์ขึ้นสามก้อน หูดแต่ละก้อนหนักไม่เท่ากันดูนะครับ ส้มจะยังหมุนรอบแกนเดิมเหมือนเพิ่งไปตั้งศูนย์ล้ออยู่ได้หรือไม่ครับ

ผมคิดว่าหูดแปซิฟิกซึ่งหนักกว่าเพื่อน แถมมีขนาดใหญ่กว่าพื้นดินทั้งโลกรวมกันเสียอีก ก็จะเหวี่ยงจนแกนหมุนรอบตัวของโลกเปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาโมเมนตัมเชิงมุมของโลก เมื่อแกนหมุนของโลกเปลี่ยน ไม่รู้เหมือนกันว่าแกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนตามหรือไม่ ถึงไม่เปลี่ยน ดวงอาทิตย์ก็ไม่ขึ้นทางทิศตะวันออกอย่างที่เคย ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเพราะว่าเส้นรุ้งเส้นแวงเปลี่ยนแปลงไป วงโคจรค้างฟ้าของดาวเทียมจะเปลี่ยนแปลงด้วย (ดาวเทียมจะไม่อยู่นิ่ง) ไม่ต้องไปห่วงธุรกิจทีวีดาวเทียมซึ่งจะโรเจอร์ไปทันทีหรอกครับ ห่วงตัวเองดีกว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในมหาสมุทร จะเพิ่มความเค้นต่อแผ่นเปลือกโลก อาจเกิดการขยับยืดแข้งยืดขาเป็นแผ่นดินไหวมากผิดปกติ รอยแยกที่สงบมานานแล้ว อาจขยับด้วย

หนุกหนาน หนุกหนาน… แล้วเราทำอะไรกันได้บ้างครับ


อิอิ อ๊ะอ๊ะ ภาค(ทำ)อะไรหว่า

13 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 October 2009 เวลา 17:02 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3357

ผมลาออกจากงานบริหารเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปีก่อน ผ่านไปหนึ่งปี มีความสุขดีครับ ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ทำเพราะว่าผมเลือกได้+ตัดสินใจเอง

คนที่ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ได้แปลว่าว่างหรอกนะครับ ยังเป็นกรรมการช่วยงานราชการอยู่หลายที่ ตั้งมูลนิธิขึ้นมาทำเรื่องการประสานงานเกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติ เที่ยว+ศึกษาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ทำโน่นทำนี่โดยที่มีอิสระอย่างเต็มที่ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ

ออกจากงานมาหนึ่งปี ทำอะไรไปหลายอย่างครับ สนุกทั้งนั้น ถ้าไม่สนุกหรือฝืนก็ไม่ทำหรอก!

อ่านต่อ »


อิอิ อ๊ะอ๊ะ ภาคทำไม

9 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 13 October 2009 เวลา 20:35 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3115

มีคนมายุยงให้เขียนเรื่องทั่วไปที่ไม่จริงจังบ้าง

เอ้อ…ไม่จริงจังแล้วจะเขียนทำไมครับ รู้สึกตัวว่าเป็นคนแปลก แต่แปลกแบบรู้สึกตัว ฮาๆๆๆ

มาเล่นเกมส์ดีกว่าครับ ผมเปิดให้ถามคำถามว่า “ทำไม…” ความคิดเห็นละหนึ่งคำถาม ถ้าสมควรตอบ ผมจะนำมาเขียนตอบในบันทึกนี้นะครับ — ถ้าไม่มีใครถาม ก็ดีไปอย่าง คือไม่ต้องเขียน อิอิ

อ่านต่อ »


พิมพ์ภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่เอง โดยใช้เครื่องพิมพ์เล็ก

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 October 2009 เวลา 3:37 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 6026

โอย ง่ายจะตาย ก็เอาภาพมาตัดออกเป็นส่วนเล็กๆ แล้วขยาย แล้วจึงพิมพ์ไงครับ

ใช่แล้ว ง่ายจะตาย แต่มีที่ง่ายกว่านั้นอีกครับ ใช้โปรแกรม Rasterbator ทำให้; มีสองเวอร์ชั่นคือแบบออนไลน์​ จำกัดขนาดไฟล์รูปที่ 1 MB และแบบที่ทำในคอมพิวเตอร์ของเราเอง (บน Windows ใช้ .Net Framework 1.1 และบน Linux/OSX ใช้ Mono) ซึ่งไม่จำกัดขนาดของรูป

Rasterbator นำรูป​ (ซึ่งเป็นบิตแม็พ) ไปขยายขนาดของจุดแต่ละจุด แล้วเรียงออกมาในไฟล์แบบ pdf ซึ่งนำไปพิมพ์ในเครื่องพิมพ์ปกติได้ด้วย Adobe Reader — ถ้าดูรูปใกล้ๆ ก็จะเห็นเป็นจุดแบบดูรูปในหนังสือพิมพ์ใกล้ๆ (รูปขวา) แต่เมื่อดูไกลๆ ก็จะเห็นเป็นรูปขนาดใหญ่ (รูปซ้าย)

ควรระวังเรื่องการพิมพ์รูปสึขนาดใหญ่ด้วย เพราะราคาค่าหมึกแพง


เฮระลึกชาติ ที่เลย (3)

อ่าน: 3356

ตื่นเช้าไปบ้านแม่ลำไย ร่ำลากัน แม่ลำไยจะไปสตึก แม่หวีจึงไปด้วยกัน กระหนุงกระหนิงตามประสาคนถูกอัธยาศัย ส่วนเราเดินทางย้อนขึ้นไป อ.วังสะพุงไปเก็บน้ำที่แม่น้ำเลย แล้วกลับไปผาซ่อนแก้วซึ่งตั้งใจจะแวะไปดูความก้าวหน้า ก่อนถึงผาซ่อนแก้ว แวะเข้า อ.หล่มสัก กินก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่า อนุมาณเอาว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวมีชื่อที่ไม่มีชื่อ คงเป็นรุ่นลูกแล้ว คิวยาวมาก ขนาดขายอยู่ในตรอกแคบที่รถเข้าไม่ได้

จากนั้นก็ไปเก็บน้ำจากแม่น้ำป่าสัก มีวีรกรรมอีกแต่ไม่เล่า น้ำจากแม่น้ำต่างๆ หวังจะนำมาช่วย อ.พิสูจน์/รร.บางลี่วิทยา ซึ่งป่วยมาปีกว่าแล้ว

แวะผาซ่อนแก้ว กระจกใสไม่มีเทปปิดแล้ว เพราะหลังจากมีคนชนเข้าจังเบ้อเร่อเมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่มีใครทำอย่างนั้นอีก; แล้วเข้าพิษณุโลก GPS ไม่รู้จักโรงแรม แต่ในที่สุดก็หาเจอหลังจากได้คุยกับราณี

ค่ำกินช้าวที่ร้านครัวต้นปีป อาหารอร่อย แต่ไม่รู้ราคาเพราะเจ้าถิ่นแย่งจ่าย

อ่านต่อ »


ความคืบหน้าของ เจ้าเป็นไผ ๒

อ่าน: 3112

จากบันทึก แนวคิดของ เจ้าเป็นไผ ๒ ในขณะนี้ได้เลือกเรื่องราวไว้คร่าวๆ แล้วหลายเรื่องครับ

  • ภาค ๑ “มองโลกอย่างเฮ” มีบันทึกของครูบา รนยทศมต.หมอจอมป่วน กับพี่บางทราย และมีเรื่องที่จะต้องเรียบเรียงใหม่จากกลุ่มบันทึกเก่าโดยนักเขียนมากกว่าหนึ่งคน
  • ภาค ๒​ “เจ้าเป็นไผ” มีของเปลี่ยน (3,430 ตัวอักษร) ดร.เม้ง (18,003) พี่แฮนดี้ (20,830) เบิร์ด (22,835) หนิง/พิดโลก (25,853) ดร.ขจิต (6,957) และอยากได้ของดร.พี่สร้อยมากๆ ครับ
    • Sub-theme: แม้แต่ละคนจะมีความแตกต่าง แต่ก็ยังรวมกันอยู่ได้อย่างสงบสุข และใช้ประโยชน์จากความแตกต่างนั้นอย่างรู้คุณค่า
    • ไผชุดนี้ มีบางเรื่องค่อนข้างสั้นมาก ขนาดที่เหมาะคือประมาณสองหมื่นตัวอักษรครับ เวลาเอาไปเรียงพิมพ์แล้วน่าจะอยู่ประมาณ 16 หน้า เกินจากนั้นก็ยังรับได้ครับ คราวนี้ก็จะไม่มีการเขียนแนะนำนักเขียนในแต่ละเรื่อง เพราะว่าเรื่องราวแต่ละเรื่อง ควรจะให้อะไรผู้อ่านได้มากกว่าเอาประวัติมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ ประเด็นที่ดีคือบทเรียน/ประสบการณ์ชีวิต วิถีการเรียนรู้ ประเด็น/แง่คิดต่างๆ ที่พบเห็นและประทับใจ เรื่องที่เราเห็นว่าธรรมดาแต่คนอื่นเห็นว่าไม่ธรรมดา (tacit knowledge) ตามคำนำที่ อ.เสน่ห์ จามริก เขียนไว้ให้คือ
      • งานเขียนเชิงเค้าโครงอัตชีวประวัติที่นำมาประมวลรวบรวมไว้ในที่นี้ เป็นผลงานจากความริเริ่มและเห็นพ้องกัน ในอันที่จะนำเสนอเรื่องราวชีวิตของแต่ละคน มิใช่เพียงเยิรยอตนเอง หากแต่เพื่อบอกเล่าถึงประสบการณ์ “เรียนรู้” ของตนเอง ซึ่งย่อมจะแตกต่างหลากหลายกันออกไปเป็นธรรมดา เจตนารมณ์และความพยายามเช่นว่านี้ ถึงจะมองอย่างผ่านๆกันไป ก็คงดูไม่น่าจะต้องคิดอะไรกันมาก แต่ทว่าอีกมุมมองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากแง่มุมของการดำรงชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตร่วมกัน ในสังคมอันเป็นธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์เราแล้ว ก็เชื่อว่าจะต้องมีอีกหลาย ๆ ประเด็นที่เราอาจจะถอดความ นำมาคิดขยายความต่อๆไปอีกไม่น้อย ทั้งเพื่อการเรียนรู้สำหรับตัวเราแต่ละคน และเพื่อคุณประโยชน์ต่อการปรับปรุงพัฒนาชีวิตของสังคมโดยส่วนรวม สุดแต่ข้อสังเกตตามอัธยาศัยการอ่านของเรา ๆ แต่ละคน
        อยากจะคาดหวังในที่นี่ว่า การรวบรวมงานเขียนทำนองนี้ คงจะไม่ใช่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการเรียนรู้ในทำนองเดียวกันกับชีวิตการเรียนรู้ด้าน อื่นๆ ซึ่งย่อมต้องมีการพัฒนายิ่งๆขึ้นไปโดยลำดับ จึงขอถือโอกาสนี้อำนวยพรให้บรรดาคณะผู้ร่วมงานทั้งหลาย ประสบแต่ความสุขและความสำเร็จโดยทั่วกัน
    • วิธียืดความยาวที่ดี คือเล่าเหตุการณ์จริงตามที่เกิดขึ้น มองย้อนกลับไป แล้วถามตัวเองว่าผ่านมาได้อย่างไร ได้อะไรมาบ้าง ฯลฯ
    • มีบางอันเขียนเป็นลักษณะ bullet point ซึ่งอาจจะดีในกรณีที่ให้ผู้อ่านเข้าถึงประเด็นที่อยากจะบอกโดยเร็ว แต่ผมคิดว่าทำให้ขาดอรรถรส ขาดเรื่องราวที่ชวนให้ติดตามเท่าที่ควรนะครับ
    • ยังรับพิจารณาไผของท่านอื่นๆ อีก แต่ขอให้เป็นเรื่องที่จบในตัวเอง คือไม่ต้องให้ไปอ่านต่อในเล่ม ๓ นะครับ
  • ภาค ๓ “เครือข่าย ภาคี และเพื่อน” มีแล้วหนึ่ง (39,620 ตัวอักษร เขียนดีมากๆด้วย) รับปากแล้วหนึ่งแต่ยังไม่ส่ง กำลังติดต่ออีกหนึ่ง
    • Sub-theme: การมีหลักชัยเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเดินบนเส้นทางเดียวกัน สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้

Release criteria ยังเป็นเช่นเดิมครับ คือไม่ดีก็ไม่พิมพ์ ลองทำดูแล้วไม่ได้ใช้+เหนื่อยฟรีก็ไม่เป็นไร หนังสือนี้เป็นหนังสือขาย ไม่ได้ไล่แจก จึงต้องพิจารณาความเหมาะสมหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือผู้อ่านได้ประโยชน์จากหนังสืออย่างเต็มที่นะครับ


ไม่ตกม้าตายตอนสัมภาษณ์

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 28 July 2009 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3597

คนทำงานเปลี่ยนงานด้วยหลายเหตุผล เมื่อจะทำงานที่ใหม่ จะต้องเจอกระบวนการสัมภาษณ์แน่นอน

การสัมภาษณ์เป็นเรื่องยากอย่างจริงจัง อย่าไปคิดเลยว่าตัวเราเจ๋ง เพราะว่าในการพูดคุยกัน 15 นาทีนั้น กรรมการสัมภาษณ์จะมารู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวท่าน ครอบครัวของท่านรู้จักท่านมายาวนาน ก็ยังไม่รู้จักตัวท่านเลย นับประสาอะไรกับกรรมการสัมภาษณ์ซึ่งมีคนอื่นให้เลือกอีก ต่อให้ท่านเป็นคนเก่งทำงานยิ่งใหญ่มา ก็อาจจะไม่เหมาะสมกับงานที่เปิดรับก็ได้ ยิ่งกว่านั้น ต่อให้กรรมการสัมภาษณ์ “เลือกผิด” ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ดังนั้น เมื่อจะไปให้กรรมการสัมภาษณ์ซักถาม ก็กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ด้วย มีคำแนะนำสั้นๆ ง่ายๆ ดังนี้ครับ

  1. แต่งตัวให้เหมาะกับงาน — เรื่องนี้ดูเหมือนไม่เกี่ยว แต่การแต่งตัวอย่างเหมาะสม คือการแสดงความเคารพต่องาน ถ้าอยากทำตามสบาย อยู่กับบ้านดีแล้วครับ
  2. หุบปาก — กรรมการสัมภาษณ์ไม่ได้ต้องการฟังนิยายชีวิต หรือเรื่องราวว่าท่านยิ่งใหญ่มาจากไหน เค้ากำลังเลือกคนที่เหมาะสมกับงานที่เปิดรับต่างหาก
  3. ฟังคำถามให้ดี แล้วตอบให้ตรงคำถาม — แยกให้ออกระหว่างความจริงกับความเห็น เมื่อท่านให้ความเห็น ท่านมีโอกาส “ผิด” ครึ่งหนึ่ง
  4. ถามคำถามที่ฉลาด — การไปสัมภาษณ์ ไม่ได้แปลว่าท่านเป็นผู้ตอบแต่ฝ่ายเดียว ท่านถามคำถามได้ เมื่อท่านถามคำถามแสดงว่าท่านสนใจ บางทีคำถามที่ฉลาด จะช่วยท่านได้เหมือนกัน ในทางตรงกันข้าม คำถามโง่ๆ การงอแง ก็ทำให้การสัมภาษณ์จบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
  5. แสดงความเป็นมนุษย์บ้าง — กรรมการสัมภาษณ์จะรับท่านเข้าทำงาน ไปร่วมทีมกับพนักงานอื่นๆ ท่านจะต้องทำงานร่วมกับคนอื่น ถ้าท่านไม่ได้แสดงเลยว่าท่านทำงานกับคนอื่นเป็น พูดคุย แสดงความกระตือรือล้น เรียนรู้ แต่ท่านนิ่งเป็นหุ่นยนต์ ถามคำตอบคำ อย่างนี้ท่านคิดว่าจะได้งานหรือ
  6. ค้นคว้า/ทำการบ้านไปก่อน — ค้นข้อมูลเกี่ยวกับงานที่จะไปทำ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้เพื่อให้กรรมการเห็นว่า ท่านไม่ใช่หลงเข้ามาของานอย่างเฟอะฟะไม่รู้เรื่องเลย แต่อย่าไปอวดรู้ กรรมการสัมภาษณ์รู้จักบริษัทของเขาดีกว่าท่านซึ่งเป็นคนนอกแน่นอน
  7. ตอบคำถามที่ท่านอยากให้กรรมถามไปเลย — อย่ารอคำถาม มีช่องให้แทรกคำตอบเหล่านี้เสมอ แต่ก็ขึ้นกับทักษะในการพูดคุยด้วย
  8. อย่าแสดงความน่าสมเพชเด็ดขาด — กรรมการสัมภาษณ์จะรับท่านไปทำงาน เขาจะดูว่าท่านทำงานได้โดยไม่เป็นภาระแก่เขาหรือไม่
  9. มั่นใจในตัวเอง แต่ไม่ใช่จองหอง — มีสัมมาคารวะ (คารวะผู้ที่ “ควร” คารวะ)


18 นาทีกับการจัดการงานในแต่ละวัน

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 27 July 2009 เวลา 0:19 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3467

Peter Bregman เขียนบล็อกของเขาที่ Harvard Business Publishing เรื่อง An 18-Minute Plan for Managing Your Day แนะนำวิธีจัดการกับเป้าหมาย เวลา และการงาน อย่างง่ายๆไว้ดังนี้

  1. เมื่อเริ่มต้นวัน ก่อนทำอะไรทั้งหมด (รวมทั้งไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ด้วย) ใช้เวลา 5 นาที วางแผนว่าวันนั้นจะทำอะไร ให้เขียนลงในกระดาษ คิดดูให้ดีว่าวันนั้นจะทำอะไรให้เป็นวันที่รู้สึกประสบความสำเร็จ หมายความว่าได้งานที่มีประโยชน์จริง; คนทำงานมักมีข้ออ้างเสมอว่างานยุ่ง เต็มไปด้วยคำขอร้อง คำสั่ง โทรศัพท์ อีเมล การแก้ไขความบกพร่อง การติดต่อ การออกไปข้างนอก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นการ “ขัดจังหวะ” interruptions ซึ่งผู้ที่ขอมาจากอีกฝั่งนั้น ไม่เข้าใจและไม่ได้พยายามเข้าใจว่างานแต่ละอย่างมีข้อจำกัด — บรรดา “การขัดจังหวะ” (บางทีก็เป็นพวกงานด่วน) เหล่านี้ แสดงถึงการเตรียมตัวไม่ดีทั้งของท่านและของคนอื่น ทำให้งานไม่่ต่อเนื่อง และใช้เวลามากกว่าที่ควรจะเป็น; เอาปฏิทินและตารางงานมาดู เลือกรายการที่สำคัญที่สุดมาทำก่อนอันอื่น ถ้าเวลาไม่พอ จัดลำดับความสำคัญเสียใหม่ ตัดสินใจซะว่าจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่ายอมให้ใครมาตัดสินใจเรื่องนี้ให้
  2. ทุกชั่วโมง ใช้เวลา 1 นาที ไล่ดูว่างานคืบหน้าไปอย่างที่ตั้งใจหรือไม่ ตั้งเวลาเอาไว้เลย ถือโอกาสพักด้วย ลองมองย้อนดูว่าใช้เวลาไปในหนึ่งชั่วโมงที่แล้วมีประสิทธิภาพแค่ไหน เป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หนึ่งชั่วโมงข้างหน้าจะทำอะไร
  3. ก่อนเลิกงาน ใช้เวลาอีก 5 นาที ย้อนทบทวนดูว่างานที่ทำมาในวันนี้ทั้งวันเป็นอย่างไร อะไรใช้ได้ โฟกัสอยู่กับอะไร อะไรที่มารบกวนการทำงาน มันจะไม่ออกมาเป๊ะตามที่วางแผนไว้หรอกครับ เพราะแผนงานปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ แต่เป้าหมายไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กรุณาอย่าจำสลับกันเพราะนั่นคือระบบราชการที่ล้มเหลว; การทบทวนนี้ จะช่วยให้วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ดีขึ้นได้

เรื่องเหล่านี้ คนไม่มีระบบ คนไม่มีแก่นสาร คนไม่วางแผน หรือคนที่มองแต่เรื่องของตัวเอง จะไม่เข้าใจเลยว่าจะช่วยให้งานเดินได้อย่างไร เพราะเขาไม่เคยเข้าใจคนอื่น แต่ในชีวิตจริง จะหลีกหนีจากคนเหล่านี้ได้อย่างไร

งานที่ไม่มีระบบ จะไม่ช่วยให้งานที่ทำเบาลงเลย



Main: 0.051561117172241 sec
Sidebar: 0.18159985542297 sec