เกิดอะไรขึ้นในท้องวัว

อ่าน: 9347

ฝรั่งว่าวัวตด/เรอ ปล่อยมีเทน ทำให้โลกร้อน ผมไม่อยากเถียงแทนวัวหรอกนะครับ เพราะไม่รู้ว่ายังไงกันแน่… แต่มีคำถามในใจ

สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่สาม ให้ข้อมูลไว้ว่า

วัวควายที่กินหญ้าเพียงอย่างเดียวเป็นอาหาร  สามารถดำรงชีพและให้ผลิตผลได้  ทั้งนี้เพราะวัวควาย  มีกระเพาะแบบพิเศษผิดไปจากหมู หมา เป็ด ไก่ ซึ่งเป็นสัตว์กระเพาะเดี่ยว (simple stomach) วัวควายเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่มีกระเพาะแบ่งเป็นหลายช่อง  เรียกว่า  กระเพาะรวม (compound  stomach) กระเพาะรวมนี้แบ่งได้เป็น ๔ ช่อง คือ ช่องแรก เรียกว่า กระเพาะรูเมน (rumen) หรือ กระเพาะขอบกระด้ง หรือ ผ้าขี้ริ้ว เป็นช่องที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นกระเพาะที่ทำให้วัวควาย เป็นสัตว์ที่มีความสามารถพิเศษ เพราะในกระเพาะนี้มีจุลินทรีย์อยู่มากมายหลายชนิด  ทำหน้าที่ในการช่วยย่อยหมักหญ้า และอาหารหยาบอื่น ๆ  ให้มีคุณค่าต่อร่างกายของวัวควายได้   ถ้าวัวควายปราศจากจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนนี้  จะไม่สามารถดำรงชีพด้วยหญ้าเพียงอย่างเดียวได้  ช่องที่สอง เรียกว่า กระเพาะรวงผึ้ง (honey comb หรือ reticulum)  ช่องนี้เป็นช่องที่เล็กที่สุด ช่วยในการดูดซึมน้ำและโภชนะบางอย่าง ที่ได้จากการย่อยหมักหญ้าในช่องแรก ช่องที่สาม เรียกว่า กระเพาะสามสิบกลีบ (omasum) ทำหน้าที่ในการดูดซึมน้ำจากอาหาร และช่วยลดขนาดของอาหารที่มาจากช่องที่สองให้เล็กลง และยังเป็นทางผ่านของนมจากหลอดอาหารไปกระเพาะช่องสุดท้ายขณะวัวควายยังเล็ก อยู่ด้วย ช่องสุดท้าย เรียกว่า กระเพาะธรรมดา (abomasum) เทียบได้กับกระเพาะของสัตว์กระเพาะเดี่ยว เพราะในช่องนี้จะมีการสร้างน้ำย่อยมาย่อยอาหารอย่างแท้จริง ก่อนที่จะส่งไปย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่ลำไส้เล็กต่อไป

การที่วัวควายเติบโตและให้ผลิตผลได้   ด้วยการกินหญ้าเพียงอย่างเดียว เพราะมีกระเพาะรูเมนซึ่งเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ ที่ทำหน้าที่หมักและย่อยหญ้า และอาหารหยาบอื่น ๆ จนในที่สุดให้ผลพลอยได้จากกระบวนการนั้นเกิดขึ้น  ในรูปวิตามินบางชนิด  กรดอะมิโน และกรดไขมันบางชนิด อันจำเป็นต่อร่างกายวัวควาย

ตรงนี้ต่างหาก น่าสนใจ… ในเมื่อวัวควาย ใช้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ช่วยย่อยหมักหญ้าจน crack เซลลูโลสและปล่อยมีเทนออกมาได้ บางทีจุลินทรีย์นั้น น่าจะมีประโยชน์ในการเปลี่ยนหญ้า/วัชพืช ซึ่งมีอยู่มากมายในเมืองไทย ให้เป็นพลังงานได้

ฝรั่งอีกนั้นแหละ บอกว่าแบคทีเรียตัวนั้นชื่อ Moorella thermoacetica ซึ่งเปลี่ยนเซลลูโลสเป็นเอทิลอะซิเตท ซึ่งเปลี่ยนเป็นเอทานอลได้

วี๊ดวิ่ว เท่ไม่เบาแฮะ ฝรั่งเรียนรู้ แล้วหาประโยชน์; พี่ไทยรู้ไว้เพื่อสอบ สอบได้แล้วภูมิใจ แต่ทำไม่เป็น ซื้อเค้าอย่างเดียว

ทำไมไม่ลองเป็นผ้าขี้ริ้ว(ในวัว)ดูบ้างล่ะครับ

« « Prev : คณิตศาสตร์ชี้ คนจำนวนน้อยก็ปฏิวัติสำเร็จได้!

Next : พื้นที่เสี่ยงต่อสึนามิ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 July 2009 เวลา 3:21

    วัฒนธรรมการเรียนรู้
    -เรียนเพื่อรู้
    -เรียนเพื่อสอบ
    -ผลลัพธ์ต่างกัน ระหว่างฝ่ายที่เอาความรู้ไปพัฒนา
    -กับฝ่ายที่ลอกความรู้ทั้งปีทั้งชาติ
    เสียเวลา เสียงบปรัมาณ เสียโอกาสของชีวิต
    บ่นไปก็เท่านั้น สั่งยำผ้าขี้ริ้วมาชิมดีกว่า อิอิ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 July 2009 เวลา 18:11
    เอทานอลจากกระบวนการนี้ (เซลลูโลส->เอทิลอะซิเตท->เอทานอล) น่าสนใจกว่าเยอะครับ yield สูง ต้นทุนต่ำ

    การหมักหญ้าในจุลินทรีย์เลียนแบบผ้าขี้ริ้วในวัว ชาวบ้านทำได้เอง
    ส่วนพอได้เอทิลอะซิเตท นำไปรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชน แบบสหกรณ์วัวนม ทำเอทานอล

  • #3 ลานซักล้าง » ฤๅจะถึงคราวกุลาร้องไห้ (3) ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 October 2010 เวลา 18:58

    [...] [เกิดอะไรขึ้นในท้องวัว] วัวเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง [...]

  • #4 ลานซักล้าง » ครึ่งเฮโคราช ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 April 2011 เวลา 21:34

    [...] — สืบเนื่องจากบันทึก [เกิดอะไรขึ้นในท้องวัว] วัวกินพืชซึ่งเป็นเซลลูโลส [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.12440013885498 sec
Sidebar: 0.17432904243469 sec