ครึ่งเฮโคราช

โดย Logos เมื่อ 23 April 2011 เวลา 21:34 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3796

ไปงานเฮโคราชคราวนี้ มีเซอร์ไพรซ์คือป้าจุ๋มไปด้วยครับ ไม่ได้บอกใครก่อนเพราะยังไม่แน่นอน

วันศุกร์ออกเดินทาง ผมไปรับป้าจุ๋มที่บ้าน แล้วไปรับครูปูเพื่อขนขวด คราวนี้เอาผ้าใบสีขาวขนาด 6 x 9.2 ม. ไปฝากครูบาและได้มอบให้แม่หวีไว้ที่รถ เอาไว้บังแดดบังฝนแถวลานไผ่ที่สวนป่า แล้วเอาพจนานุกรมคำวัดไปฝาก อาจารย์ทวิช เพื่อแสดงความขอบคุณที่รับเป็นเจ้าบ้านด้วย แต่ดันลืมเอาหนังสือเจ้าเป็นไผไปฝาก

ทั้งคณะพักกันที่สุรสัมนาคาร ซึ่งเป็นที่พักในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สะดวกสบายดี; พอไปถึง เนื่องจากเมื่อคืนก่อน ผมดันไม่ได้นอน ดังนั้นพอเช็คอินเสร็จ ตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตว่าไม่มีแน่ ก็เผลอเดี้ยงหลับไป เลยพลาด session แรกเรื่องจุลินทรีย์ ที่จริงมีปัญหาคาใจอยู่อันหนึ่ง อดถามอาจารย์เลย — สืบเนื่องจากบันทึก [เกิดอะไรขึ้นในท้องวัว] วัวกินพืชซึ่งเป็นเซลลูโลส แล้วกระเพาะแรก (รูเมน หรือผ้าขี้ริ้ว) เปลี่ยนเซลลูโลสไปเป็นเอทิลอะซิเตท และสารอาหารอื่นๆ ด้วยกระบวนการหมักร่วมกับจุลินทรีย์ในผ้าขี้ริ้ววัวชื่อ Moorella thermoacetica — เมืองไทยมีใบไม้และหญ้า (และขยะอินทรีย์) อยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าหากสามารถจำลองกระบวนการหมักในผ้าขี้ริ้ววัวได้ ก็น่าจะสามารถผลิตเอทิลอะซิเตทได้เป็นจำนวนมากด้วยต้นทุนที่ต่ำ และเอทิลอะซิเตทเปลี่ยนเป็นเอทานอลด้วยกระบวนการทางเคมีได้ง่ายมาก เมื่อนำเอทานอลไปผสมในน้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงถูกลงได้

พอเย็นแล้ว คณะเฮยกพวกไปบ้านอาจารย์ทวิช ป้าจุ๋มกรุณาโทรมาปลุก ผมก็รีบเผ่นไปบ้านอาจารย์ทวิช (แต่ไม่ก่อนจะแวะ 7-11 ซื้อน้ำมาตุนไว้) ตั้งใจจะไปชิมไก่ย่างสูตรพิเศษ และก็ได้ชิมสมใจ วิธีย่างไก่ก็พิสดาร มีวิทยาศาสตร์ปนอยู่ในนั้นเยอะแยะ แถมไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์แบบในตำรา แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินชีวิตปกติ ทั้งวิธีกำจัดควัน(ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง) ประสิทธิภาพของเตา การประหยัดเชื้อเพลิง(ไม้) ฯลฯ เล่าละเอียดไม่ได้เพราะมีงานบางอย่างซึ่งมีโอกาสได้ดู ยังเป็นงานที่ยังเปิดเผยไม่ได้

คุยกันไปคุยกันมา มีคนบ่นว่ายุงกัด แหมจะไม่กัดยังไงไหวครับ หลังบ้านอาจารย์เป็นป่า เมื่อก่อนมีงูชุกชุม เลยต้องออกมาซื้อยากันยุงอีกรอบหนึ่ง แต่ไม่ได้ซื้อยากันงู — มี GPS ก็ดีไปอย่างคือไม่หลงในที่ที่ไม่คุ้นเคยครับ; นั่งคุยกันหลังบ้านอาจารย์ทวิช แยกเป็นสองวง บางทีก็เชื่อมเป็นวงเดียว จนสามทุ่มกว่าป้าจุ๋มนัดน้องชายมารับ แม่ใหญ่ก็เป็นห่วงลูกสาวที่ขับรถมาให้ซึ่งนั่งทำงานอยู่ที่ที่พัก ก็ต้องเลยขอตัวออกมาก่อน

รุ่งขึ้น ผมตื่นลงมากินข้าวเช้าก่อนใคร แปดโมง ครูบากรุณาโทรมาปลุก แต่ตอนนั้นผมกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว (ฮี่ฮี่ฮี่) กำลังนั่งเม้าธ์อยู่กับแม่ใหญ่ ลูกสาว และอ้ายเปลี่ยน เก้าโมงเช้า อาจารย์ทวิชก็มาพาไปดูพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณซึ่งเป็นสิ่งที่อยากมาดู — ผมเห็นด้วยกับครูบาว่าถ้ามาดูเอง คงไม่เก็ตเท่ากับการมีอาจารย์ทวิชบรรยายให้ฟัง เพราะอาจารย์ไม่เพียงแต่บรรยายลักษณะทางกายภาพ แต่ยังมีแก่นของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโบราณซึ่งซ่อนอยู่ในวัตถุที่จัดแสดงแต่ละชิ้น ร่ำเรียนศึกษามาก็เยอะ มองดูวัตถุจัดแสดงมากมาย เข้าใจได้เองประมาณ 50% แต่พออาจารย์ทวิชตั้งข้อสังเกต จึงเห็นประเด็นใหม่ๆ นับเป็นโอกาสดีของชีวิตจริงๆ

เกิดการเปลี่ยนโปรแกรมกันกลางอากาศตั้งแต่ตอนเช้า คือว่าคณะจะแวะไปสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช แล้วจะย้ายไปนอนที่สวนป่า เผอิญผมเพิ่งไปเที่ยวแถวสะแกราชมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว [คนเมืองแบบคนป่า คนป่าแบบคนเมือง] ประกอบกับน้องชายป้าจุ๋มเมื่อเดือนที่แล้วป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนป่วยซ้ำด้วยโรคหลอดเลือดสมอง (กลุ่มอาการเดียวกันเพียงแต่เกิดกันคนละที่) เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลได้วันเดียว แม้การฟื้นตัวจะเร็วมากและดูจะไม่มีความเสียหาย ป้าจุ๋มอยากให้ผมได้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แล้วผมก็อยากคุยกับทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิดด้วย

เรื่องช่วยคนสำคัญกว่าเรื่องเที่ยว ก็เลยขอแยกตัวจากคณะ ลาไปคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกินอาหารเวียดนาม แต่จำไม่ได้แล้วครับว่าพูดอะไรไปบ้าง เสร็จแล้วพาป้าจุ๋มไปเก็บของ แล้วเดิมที่ว่าจะไปส่งอ้ายเปลี่ยนที่ท่ารถเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพตอนเที่ยง ก็ไม่จำเป็นแล้วเพราะทั้งรถผมเดินทางเข้ากรุงเทพพร้อมกันได้เลย ส่งอ้ายเปลี่ยนที่โรงแรม ส่งป้าจุ๋มที่บ้าน กลับถึงบ้านทุ่มหนึ่ง ความสิ้นเปลือง 5.9 ลิตร/100 กม. (~17 กม./ลิตร) รวมรถติดน้ำท่วมตรงแก่งคอยด้วย

ตกลง เฮโคราชเที่ยวนี้ เรื่องที่อยากทำทั้งสามเรื่อง ก็ได้ทำสมใจครับ

« « Prev : วันเวลาไม่คอยใคร

Next : หลักศรัทธา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 April 2011 เวลา 11:42

    ป้าจุ๋มต้องขอโทษจริงๆค่ะที่นิ่งเงียบอยู่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า(นับว่าเสียมารยาทมากทีเดียวค่ะ… ) เพราะช่วงนั้นมีความกังวลไม่สบายใจและความไม่แน่นอนหลายอย่างค่ะ

    และป้าจุ๋มขอขอบคุณคุณLogosเป็นอย่างสูงที่ได้กรุณามาพูดคุยเล่าประสบการณ์และแนะนำการปฏิบัติตัวทั้งกาย-ใจให้น้องชายฟังค่ะ การพูดคุยในวันนั้นแม้ใช้เวลาไม่นานนักแต่มีคุณค่ามากมายค่ะสำหรับชีวิตคนๆหนึ่งและครอบครัวเขาที่จะดำเนินต่อไปค่ะ ทำให้เขามีกำลังใจขึ้นมาก พร้อมที่จะต่อสู้ต่อไปค่ะ น้องชายป้าจุ๋มและครอบครัวขอฝากขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมาด้วยค่ะ
    บุญกุศลใดที่เกิดในครั้งนี้ขอได้ส่งผลให้คุณLogosมีสุขภาพพลานามัยที่ดี ชีวิตมีแต่ความสุขสมหวัง และแคล้วคลาดจากพยันตรายและหมู่มารทั้งปวงด้วยค่ะ
  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 April 2011 เวลา 20:40
    ดีใจที่ยังพอมีประโยชน์บ้างครับ แต่ว่าป้าจุ๋มชมกันออกอากาศอย่างนี้ เขินครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.089536905288696 sec
Sidebar: 0.13364911079407 sec