คุณลักษณะของ “ผู้นำ”

โดย Logos เมื่อ 15 December 2008 เวลา 0:36 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการ #
อ่าน: 6859

เอาของเก่ามารีไซเคิลอีกแล้ว บันทึกนี้เป็นบันทึกเก่าซึ่งเอามาปรับปรุงครับ

เรื่องของ “ผู้นำ” มีผู้รู้เขียนไว้มากมาย ตลอดจนมีคำแนะนำ+ข้อคิดเห็นดีๆ แต่ก็ยังขาดประเด็นที่ผมอยากจะแลกเปลี่ยนกับสมาชิกคือ ความหมายและหน้าที่ของผู้นำ เลยอยากจะขอลองเรียบเรียงความคิดดูครับ

Warren G. Bennis (เกิด พ.ศ. 2468 และยังมีชีวิตอยู่) ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ด้าน Leadership ได้ให้คำนิยามของคุณสมบัติพื้นฐานของผู้นำไว้ดังนี้: (ตัวเอียงเป็นคำอธิบาย+การตีความของผมเอง)

  1. มี Guiding Vision ผู้นำที่ดีรู้ว่าต้องการจะต้องทำอะไร พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้งานบรรลุผล และแม้เจออุปสรรคขัดขวาง ก็หาวิถีทางที่จะฝ่าฟันจนบรรลุผล –»» มีเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นเหมือนแสงนำทางไปสู่ความสำเร็จ โดยการสื่อสาร+สร้างแนวร่วม+สร้างแรงบันดาลใจกับทั้งองค์กร การเป็นผู้นำไม่ได้เป็นแค่ “ผู้มีวิสัยทัศน์” เท่านั้น
  2. มี “ความหลงไหล” ในเป้าหมาย (Passion) พวกเขามีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง รักในสิ่งที่ทำ จึงสามารถใช้สิ่งนี้ กระตุ้นตัวเองให้ฝ่าฟันต่ออุปสรรคต่างๆ ได้โดยไม่ย่อท้อ –»» ” ความหลงไหล” ในเป้าหมายนั้น หมายถึงว่าเป้าหมายเป็นสิ่งที่เขารัก เข้าใจดีว่าสิ่งที่ทำนั้นจะเกิดผลอย่างไร อยากแบ่งปันผลสำเร็จนั้นให้กับคนรอบตัว ความหลงไหลในความหมายนี้ ต่างกับความหมกมุ่นจนถูกครอบงำ (obsession); คำว่า Passion นี้ น่าจะใกล้เคียงกับความหมายของคำว่า “ความรัก” ในคริสต์ศาสนา ซึ่งมีความหมายไปในแนวความรักในเพื่อนมนุษย์ และบอกเป็นนัยถึงความเสียสละด้วย ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมในการเผยแพร่ศาสนา และมูลนิธิองค์กรการกุศลต่างๆ
  3. มีความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในคุณธรรม ในความถูกต้อง ในความจริง (Integrity) เพราะว่าผู้นำที่ดีเข้าใจตัวเองเป็นอย่างดี พวกเขาจึงรู้จักจุดด้อยของตน และสามารถหลีกเลี่ยงจุดด้อยเหล่านั้นได้ด้วย เขาจึงไม่ให้สัญญาพล่อยๆ ในสิ่งที่ไม่สามารถจะทำได้ พวกเขาจึงสามารถ “แผ่รังสีแห่งความซื่อสัตย์” ทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว อันเป็นผลให้พวกเขาได้รับความเชื่อถือ (trust) เป็นอย่างมากจากบุคคลในองค์กร และสามารถเป็นตัวแทนขององค์กรได้โดยไม่มีผู้ใดขัดข้อง — ศ.เบนนิส แยกเรื่อง trust ออกจาก integrity; integrity เป็นเหตุ ส่วน trust เป็นผล
  4. มีความอยากรู้อยากเห็น ไม่หยุดนิ่ง (Curiosity) ผู้นำเป็นผู้เรียนรู้ เป็นผู้แสวงหา พวกเขาตั้งคำถามกับผลของการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน พวกเขาแสวงหาคำตอบที่จำเป็นต้องรู้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ –»» ผู้นำ ไม่ได้หยุดนิ่งเมื่อสามารถนำพาองค์กรบรรลุเป้าหมายแล้ว แต่กลับมองหาสิ่งที่สามารถจะปรับปรุงได้ มองหาโอกาสใหม่ เป้าหมายใหม่ อยากรู้อยากเห็น อยากทดลองอยู่ตลอดเวลา
  5. ทัศนคติต่อความเสี่ยง (Risk) ผู้นำคำนวณผลของความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น ผู้นำที่ดีสามารถเรียนรู้เหตุแห่งความผิดพลาดนั้นได้ เพื่อที่จะมองหาโอกาสอื่นๆ ได้ดีขึ้น ผู้นำที่ไม่เสี่ยงอะไรเลย ไม่สามารถจะเป็นผู้นำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นผู้นำในทางธุรกิจ

มีผู้รู้อีกมากมายที่ เพิ่มเติมต่อยอดคุณสมบัติพื้นฐานของผู้นำ แต่ผมชอบที่ ศ.เบนนิส ให้ความสำคัญกับการอธิบายสิ่งที่ผู้นำจะต้องทำมากกว่าการพยายามหาคำสวยหรูมา บรรยายผู้นำ

ยิ่งกว่านั้น ศ.เบนนิส ยังให้นิยามเกี่ยวกับคุณภาพของผู้นำ ไว้อีก 6 มิติคือ ความซื่อสัตย์ (Integrity), ความทุ่มเท (Dedication), ความมีคุณธรรม (Magnanimity), ความอ่อนน้อมถ่อมตน (Humility), ความสามารถในการเปิดใจต่อความแตกต่าง (Openness) และ ความสามารถในการริเริ่มตลอดจนการคิดนอกกรอบ (Creativity)

เมื่อพิจารณาดูตามแนวคิดของ ศ.เบนนิส จะพบว่าผู้นำไม่ใช่พวกคนทรงเจ้าหรือผู้ที่สามารถติดต่อกับวิญญาณศักดิ์ สิทธิ์ ที่จะหยั่งรู้อนาคตและนำพาองค์กรฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆไปได้ แต่ผู้นำเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีความเหมาะสมสำหรับหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง ส่วนผู้นำสามารถจะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้หรือไม่ กลับขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ ความร่วมแรงร่วมใจ และความเชื่อใจเชื่อถือกันในองค์กรต่างหาก

ผมเคยถามพนักงานว่าอยากจะ ได้อะไร มีคำตอบหนึ่งน่าสนใจ เขาตอบว่า “อยากให้พนักงานทุกคนมีวิสัยทัศน์” คำตอบนี้ดีในแง่ที่ว่าพนักงานผู้นั้นมีความปรารถนาดีต่อองค์กร แต่ไม่ดีในแง่ที่เขาไม่ได้เข้าใจคำตอบของตัวเองอย่างลึกซึ้ง (แม้จะฟังดูดี) หากองค์กรหนึ่งมีพนักงานร้อยคน แล้วมีร้อยวิสัยทัศน์ องค์กรนั้นคงไม่ไปไหนเพราะไม่เกิดการรวมพลัง ขาด focus

คำว่าผู้นำเองนั้น ก็ยังมีหลายนัย เพราะว่าองค์กรจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยผู้ที่ทำหน้าที่แตกต่างกันหลายๆ ด้าน (คลิกบนรูปวงกลมช้อนๆ กันเพื่อดูภาพขยาย) ในเมื่อกิจกรรมขององค์กรมีความหลากหลาย องค์กรกลับต้องการผู้นำในหลายระดับเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมต่างๆ ประสานสอดคล้องกันเพื่อเป้าหมายใหญ่ขององค์กร

มีความสับสนระหว่างการ มีอำนาจสั่งการกับการมีภาวะผู้นำ ซึ่งผมเห็นว่าอย่างหลังมีความสำคัญที่จะช่วยให้งานสำเร็จได้มากกว่าหากเรา เชื่อว่าความสำเร็จในงานใดๆ เกิดจากการกระทำ ไม่ใช่คำสั่ง อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็ไม่ได้ยั่งยืนหากผู้ที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เห็นด้วยและไม่เข้าใจความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่แรก ความเป็นผู้นำ และภาวะผู้นำ สามารถเกิดขึ้นในระดับต่างๆ ขององก์กรได้เสมอโดยการฝึกฝน ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใหญ่โตเสียก่อนค่อยคิดจะฝึก และหากภาวะผู้นำเป็นคุณสมบัติของผู้เป็นหัวหน้าในองค์กรใดๆ แล้ว ยิ่งต้องฝึกภาวะผู้นำตั้งแต่ยังไม่มีอำนาจเสียด้วยซ้ำ

ในบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ใช้กลุ่มภารกิจ (taskforce) และคณะกรรมการต่างๆ ที่พนักงานเลือกตั้งกันเองเพื่อมาดูแลผลประโยชน์ของเหล่าพนักงาน (สหภาพ กองทุน สวัสดิการ ฯลฯ) เป็นเครื่องมือเสริมสร้างภาวะผู้นำนอกเหนือไปจากสิ่งที่ปฏิบัติกันอยู่เป็น ปกติืในการดำเนินงานอยู่แล้ว

« « Prev : มอง เฮฯ หก ผ่านเลนส์

Next : งานระพีเสวนา: การเรียนรู้เพื่อความเป็นไท » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 December 2008 เวลา 11:38

    ผู้นำต้องเหมือนน้ำ
    -ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ(รู้จักลงมาดูแลลูกน้อง)
    -ชำระล้างสิ่งสกปรก(ต้องรู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่สั่งให้คนอื่นกระทำและเกิดผิดพลาด)
    -ปรับตัวเข้ากับทุกภาชนะ(ต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมได้ดี)
    -น้ำมีความอ่อนนุ่มและรุนแรงอยู่ในตัว(ต้องรู้จักใช้)
    -ผู้นำก็มาจากน้ำ…อิอิ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 December 2008 เวลา 14:45
    ผู้นำที่ไม่มีคำว่า “ต้อง” มันกว่าครับ
  • #3 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 December 2008 เวลา 22:59

    มาดุอัยการหน่อย รู้มั๊ยว่าเอ่ยคำไม่สุภาพ พูดผิดพูดใหม่ได้น่ะ….เอ๊ยไม่ใช่…เขียนผิดเขียนใหม่ได้…ไม่งั้นครูใหญ่เขาไม่คัดเข้าหมู่บ้านเฮนะ……55555

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2008 เวลา 5:58

    อิอิ มาลบต้องออก เอาต้องมาแหย่เล่น อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.094480991363525 sec
Sidebar: 0.24384903907776 sec