สื่ออะไรในสื่อสังคม
อ่าน: 2659อย่างไรก็ตามเมื่อเทคโนโลยีทางการสื่อสาร “ก้าวหน้า” ขึ้น คนก็มี “เครื่องมือ” ใหม่ๆ ที่จะติดต่อ สื่อสาร แลกเปลี่ยนกัน ในความก้าวหน้าช่องทางการสื่อสารนั้น มีอยู่สองอย่างที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง คือ
- เครื่องมือคือเครื่องมือ จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่คนใช้ หากไม่เข้าใจเครื่องมือ หรือใช้เครื่องมืออย่างไม่เหมาะสม ผลลัพท์ก็ไม่ดี
- ผู้ใช้เป็นผู้เลือก เลือกอ่านได้เอง เลือกเชื่อได้เอง เลือกเขียนได้เอง ไม่มีใครจะมาบังคับกะเกณฑ์ให้ดู ให้ฟัง ให้เชื่อในสิ่งที่ผิดได้ หากรู้จักพิจารณาอย่างแยบคาย
อย่างไรก็ตาม เรามักอ้างว่าข้อมูลข่าวสารมากมาย อ่านไม่หมด ย่อยไม่ไหว ก็แล้วทำไมจึงยังรับข่าวสารมากมายเหมือนเดิมล่ะครับ รับมาก็พิจารณาไม่ทัน ในที่สุดก็ปล่อยผ่านไปอยู่ดีใช่ไหม ถ้าทำเหมือนเดิม จะให้ผลแตกต่างออกไปได้อย่างไร
ข้อมูลในลักษณะเขาเล่าว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแบบที่สรุปฟันธงมาให้แล้ว คนที่มักเชื่อไปเลยนั้น เชื่อในสองแนวคือ เชื่อเพราะอยากจะเชื่อ(อคติ) และเชื่อเพราะเชื่อถือคนที่ส่งข้อมูลให้(อคติเช่นกัน) ผมมีบันทึกเกี่ยวเนื่องกับกาลามสูตรอยู่หลายบันทึก หากสนใจก็คลิกอ่านได้ครับ ในเมื่อความเชื่อนั้นเกิดจากอคติ จะเป็นการตัดสินใจที่ดีได้อย่างไร
นอกจากกาลามสูตรแล้ว ยังมีสัปปุริสสูตรอีกอันหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงลักษณะที่สังเกตเห็นได้ง่าย ของผู้คนที่อาจเป็นแหล่งข้อมูล ในเมื่อเราไม่รู้จักเขาดีพอ แยกแยะแล้วนำมาใส่ตารางได้ดังนี้ครับ
อสัตบุรุษในโลกนี้ แม้ไม่ถูกถามก็เปิดเผยความเสียหายของผู้อื่น จะกล่าวอะไรถึงถูกถามเล่า และเมื่อถูกถามเข้าก็แก้ปัญหาโดยตรง ไม่อ้อมค้อม ไม่หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวความเสียหายของผู้อื่นเต็มที่อย่างกว้างขวาง ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่าท่านผู้นี้เป็น อสัตบุรุษ ฯ | สัตบุรุษในโลกนี้ แม้ถูกถามก็ไม่เปิดเผยความเสียหายของผู้อื่น จะกล่าวอะไรถึงไม่ถูกถามเล่า แต่เมื่อถูกถามเข้า ก็ไม่แก้ปัญหาโดยตรง อ้อมค้อม หน่วงเหนี่ยว กล่าวความเสียหายของผู้อื่นโดยย่อไม่เต็มที่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นสัตบุรุษ ฯ |
อสัตบุรุษในโลกนี้ แม้ถูกถามก็ไม่เปิดเผยความดีของผู้อื่น จะกล่าวอะไรถึงไม่ถูกถาม และเมื่อถูกถามแล้ว ก็ไม่แก้ปัญหาโดยตรง อ้อมค้อม หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวสรรเสริญคุณผู้อื่นโดยย่อ ไม่เต็มที่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นอสัตบุรุษ ฯ | สัตบุรุษในโลก แม้ไม่ถูกถามก็เปิดเผยความดีของผู้อื่น จะกล่าวอะไรถึงถูกถามเล่า แต่เมื่อถูกถามเข้าก็แก้ปัญหาโดยตรง ไม่อ้อมค้อม ไม่หน่วงเหนี่ยว กล่าวความดีของผู้อื่นเต็มที่อย่างกว้างขวาง ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่าท่านผู้นี้เป็นสัตบุรุษ ฯ |
อสัตบุรุษในโลกนี้ แม้ถูกถามก็ไม่เปิดเผยความเสียหายของตน จะกล่าวอะไรถึงไม่ถูกถาม และเมื่อถูกถามแล้ว ก็ไม่แก้ปัญหาโดยตรง อ้อมค้อม หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวความเสียหายของตนโดยย่อ ไม่เต็มที่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นอสัตบุรุษ ฯ | สัตบุรุษในโลกนี้ แม้ไม่ถูกถามก็เปิดเผยความเสียหายของตน จะกล่าวอะไรถึงถูกถามเล่า แต่เมื่อถูกถามเข้าก็แก้ปัญหาโดยตรง ไม่อ้อมค้อม ไม่หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวความเสียหายของตนเต็มที่อย่างกว้างขวาง ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นสัตบุรุษ ฯ |
อสัตบุรุษในโลกนี้ แม้ไม่ถูกถามก็เปิดเผยความดีของตน จะกล่าวอะไรถึงถูกถามเล่า และเมื่อถูกถามแล้วก็แก้ปัญหาโดยตรง ไม่อ้อมค้อม ไม่หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวความดีของตนเต็มที่อย่างกว้างขวาง ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นอสัตบุรุษ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบ ด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล พึงทราบว่า เป็นอสัตบุรุษ ฯ |
สัตบุรุษในโลกนี้ แม้ถูกถามก็ไม่เปิดเผยความดีของตน จะกล่าวอะไรถึงถูกถามเล่า แต่เมื่อถูกถามเข้าก็ไม่แก้ปัญหาโดยตรง อ้อมค้อม หน่วงเหนี่ยว แล้วกล่าวความดีของตนโดยย่อ ไม่เต็มที่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พึงทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นสัตบุรุษ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล พึงทราบว่าเป็นสัตบุรุษ ฯ |
บุคคลใด หากไม่ระมัดระวังในวจีกรรม (อ่านบันทึกอื่นที่เกี่ยวกับวจีกรรม) เบียดเบียนผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลังด้วยการสื่อความ ไม่น่าจะใช่สัตบุรุษหรอกนะครับ
อาการเขาเล่าว่า ไม่ได้เกิดจากความรู้ที่แท้จริง อาจผิดพลาดได้ง่าย ดังที่ปรากฏอยู่
« « Prev : การเขียนหนังสือในฐานะการแสดงออกทางจิตวิญญาณ (2)
1 ความคิดเห็น
แวะมาอ่านค่ะ
อ่านแล้วทำให้ต้องรีบกลับมาพิจารณาตน
ขอบคุณค่ะ