ขอนแก่น ตอนแรก

โดย Logos เมื่อ 9 January 2009 เวลา 18:27 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4534

ตั้งแต่ต้นปี 2544 ที่ป่วยหนัก แม้ตอนนี้จะหายแล้ว ผมก็ไม่ค่อยได้เดินทางไปต่างจังหวัดมากเหมือนในอดีต แต่พอไปเฮหกได้ พ่อแม่ก็ไม่ห่วงมาก (ซึ่งยังมีอาหารโปรดมื้อก่อนเดินทาง และเมื่อกลับมาบ้านเช่นเคย)

ไปขอนแก่นระหว่างวันที่ 6-8 ม.ค.เที่ยวนี้ รับปาก ดร.กานดา รุณนะพงศา สายแก้ว เอาไว้นานมากแล้วว่าจะไปบรรยายให้ เลื่อนมาหลายเดือน คราวนี้ถึงเวลาจะต้องไปซะที การไปบรรยายหนึ่ง session ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ แต่พอญาติเฮรู้เรื่อง โจทก์ก็โผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ด ทำให้ตารางแน่นเอี้ยดไปหมด ขอขอบคุณในมุทิตาจิตครับ

แรกทีเดียว จะออกวันที่ 6 ตอนเช้าเลย แต่คนขับรถมีกิจธุระเรื่องลูกที่โรงเรียน ก็เลยให้เค้าไปทำธุระก่อน นึกขึ้นได้ว่าคุณ nontster เป็นคนขอนแก่น เลยถามว่าจะไปเยี่ยมพ่อแม่หรือไม่ ถ้าไปก็ไปด้วยกันได้ ไหนๆ ผมจะไปอยู่แล้ว พอดีผู้ช่วยโทรมาบอกว่ามีพัสดุภัณฑ์มาจากเชียงราย

อันนี้รู้อยู่แล้ว ว่าจะมีของส่งมายังผู้ใหญ่ที่ผมไม่มีที่อยู่ (จึงจัดส่งโดยตรงไม่ได้) มีของปีใหม่+น้ำเต้าของพ่อครูบา มีของปีใหม่+เสื้อของป้าจุ๋มที่ลืมไว้เมื่อตอนเฮหก มีของปีใหม่ของลุงเอก และมีรางวัลทายปริศนารูปถ่ายที่มั่วถูกของผม ก็เลยเปลี่ยนแผนอีกเป็นไปรับคุณ nontster ที่ที่ทำงาน แล้วรับพัสดุมาพร้อมกันเพื่อนำส่งของให้ครูบาที่สวนป่า

เรื่องสวนป่านี้เป็นรายการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อวันที่ 4 ได้คุยกับป้าจุ๋มซึ่งตอนนั้นอยู่สวนป่า ป้าจุ๋มถามว่าวันที่ 8 จะกลับกรุงเทพกี่โมง ครูบาจะไปขึ้นเครื่องบินทีี่ขอนแก่น ผมก็เปลี่ยนแผนทันทีโดยไปรับพ่อครูบาที่สวนป่า อ้อมไปนิดหน่อย แต่ก็อยากไปดูสวนป่าในฤดูที่ต่างจากฤดูที่เคยไปด้วย มีตากล้องฝีมือดีไปด้วย ก็เป็นโอกาสจะได้ภาพธรรมชาติงามๆ แถมครูบาติดรถมากรุงเทพได้ด้วย โอ๊ะ ได้หลายเด้ง

กว่าจะออกจากกรุงเทพก็บ่ายสองโมง ถึงขอนแก่นประมาณหกโมงเย็น ส่งคุณ nontster ใน มข. ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเข้าไปในเขตแคมปัสของ มข. มาขอนแก่นหลายครั้ง ก็ไม่เคยเข้าไปหรอกครับ จากนั้นก็ไปหาข้าวกิน แล้วก็เข้าพักที่โรงแรม

รุ่งขึ้นเช้าวันที่ 7 พี่บางทรายพร้อมลูกสาว ก็กรุณามารับไปกินไข่กะทะ ไม่ได้กินร้านนี้มานานนน…แล้ว เสร็จแล้วไปส่งลูกสาวพี่บางทรายที่ RDI แล้วก็ไปดู GIS ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม น้องเจ้าหน้าที่มีปัญหาบางประการ เกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลต่างระบบกัน (ซึ่งกลับมากรุงเทพก็ได้ส่งวิธีแก้ไขไปให้แล้ว) แล้วก็กลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัวบรรยาย

ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมายหรอกครับ จะไปบรรยายในวิชาการสัมมนาทางวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ในเมื่อเป็นการสัมนา ผมจึงคิดว่าไม่ควรจะเป็นการเล่าเรื่องทางเดียว ก็เลยไม่เตรียมสไลด์ไปหรอกนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการพูดทางเดียวที่มีกรอบ “โอม จงเชื่อๆๆๆๆ อย่าเถียง อย่าโต้แย้ง” หัวข้อที่อาจารย์ต้อมให้มาคือ สิ่งที่มหาวิทยาลัยไม่สอน เอาล่ะซิ น่าสนใจและท้าทายดี แต่จะให้ไปพูดเรื่องนี้กลางมหาวิทยาลัย จะพูดอย่างไรดี เก็บเอาไว้เล่าในตอนต่อไป

เดิมทีคิดว่าจะพูดสักชั่วโมงหนึ่ง แล้วเปิดโอกาสให้ถามอีกชั่วโมงหนึ่ง เอาเข้าจริงพูดไปประมาณชั่วโมงห้าสิบนาที แล้วตอบคำถามอีกยี่สิบนาทีครับ รู้สึกดีใจที่นักศึกษากล้าถาม; เสร็จแล้วก็ออกมาคุยกับ อ.ต้อมและพี่บางทรายอีกแป๊บนึง เสียดายที่เที่ยวนี้ไม่มีโอกาสได้เจอกับ อ.แป๋ว เนื่องจากติดการประชุมด่วนของภาควิชา เนื่องจากใกล้งานวันเกษตรภาคอีสานแล้ว ผมเอากล้องไปให้ อ.แป๋วเล่นด้วย แต่คลาดกันนิดเดียว รอเล่นต้นเดือนก.พ.ที่สวนป่าก็แล้วกันนะครับ

ผมมีนัดกับพี่ติ๋วกฤษณาที่วัดหนองแวงเมืองเก่า ริมบึงแก่นนคร มีพระมหาธาตุแก่นนคร ซึ่งสร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี; ที่ชั้น 9 มีบุษบกที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ผมขึ้นไปได้ 3 ชั้น พระอาทิตย์ก็จะตกแล้วครับ เลยไม่เดินขึ้นต่อ เดินลงมาข้างล่าง พี่ติ๋ว พ่อบ้าน กับลูกสาวคนเล็กก็มาพอดี เลยไปกินข้าวกัน บึงแก่นนครเปลี่ยนไปเยอะมากในสิบปีที่ผ่านมา

คุยกันเรื่อยเจื้อย ใกล้เวลาสองทุ่ม ซึ่งอาจจะมีอีกนัดหมายหนึ่ง ผมแอบไปจ่ายเงิน ปรากฏว่ามีคนรู้ทันไม่ยอมให้จ่ายแฮะ ขอบคุณคร้าบบบบ

นัดสุดท้ายของวัน ปรากฏว่าเป็นนัดที่ไม่แน่นอน คือคุณทวีสินบินมาขอนแก่น อ.หมอเจเจจะมารับไปงาน UKM ที่มหาสารคาม ถ้าคนขับรถอารมณ์ดี ก็จะกินข้าวที่ขอนแก่น แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดี ก็ตีไปมหาสารคามเลย ผมเลยบอก อ.แป๋วไว้ว่าถ้าจะกินข้าวกัน ผมเสนอที่โรงแรมที่ผมพัก ซึ่งอยู่ติดสนามบินเลย แล้วผมจะนั่งคุย แต่ถ้าไม่กินข้าว ก็ไม่เป็นไร คงมีโอกาสเจอกันอีกเยอะ

เช้าวันที่ 8 แวะเอาดีวีดีเฮหกไปฝากไว้ที่ภาควิชาให้อ.ต้อม เตรียมมาตั้งแต่เมื่อวานแต่ลืมให้ แล้วจึงไปรับคุณ nontster ไปสวนป่า รู้สึกยินดีที่ได้ไมาสวนป่าอีกครั้งหนึ่งครับ ฝีมือคุณปิ๋วอร่อยจริงๆ แต่อาหารมากมายจนกินไม่หมด อร่อยทุกอย่าง แต่ไม่มีน้ำพริกอเวจี (คนทำยังอยู่เชียงใหม่ อิอิ); เอาของที่พี่ติ๋วฝากให้พ่อครูบาพร้อมทั้งพัสดุจากเชียงราย มอบให้เรียบร้อยครับ รับข้าวและผักกลับมากินเอง ฮี่ฮี่

รูปสวยๆ รอจากคุณ nontster ก็แล้วกันนะครับ ผมเลือกมาเฉพาะภาพที่เป็นผลจากวีรกรรมของชาวเรา คลิกบนรูปเพื่อดูภาพขยาย

เจ้าบ้านผู้อารีย์
แปลงกล้วยอธิการและคณะ
เอกมหาชัยชาวเกาะ
สะตอดงหลวง
เปลี่ยนสภาพจากโล้น เลี่ยน เตียน โล่ง ดินเสื่อมโทรม แห้งแล้ง ไม่มีอนาคต ไม่มีความหวัง เป็นอย่างนี้ได้ใน 14 ปี โดยไม่ต้องประคบประหงม เพียงแต่อาศัยปัญญา และความหนักแน่น

« « Prev : ยินดีกับหลานสาว

Next : ขอนแก่น ตอนก่อนตอนแรก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

10 ความคิดเห็น

  • #1 สร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 18:59

    ไม่มีรูปน้ำเต้า และทับทิมสเปน…ไม่รุ้ตายหมดหรือยังนะคะ…ปลายเดือนหน้าจะไปดูเอง…พร้อมน้ำพริกไม่เผ็ด…แฮ่ๆ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 19:36

    ไม่รู้ว่าเป็นราวนี้หรือเปล่านะครับ น้ำเต้าราวนี้อยู่หลังกระต๊อบไม้ไผ่ ใกล้สะตอดงหลวงครับ (คลิกเพื่อดูภาพขยาย) ลูกดก ห้อยเป็นพวงระเนระนาดเลยครับ

    ส่วนทับทิมสเปน ไม่รู้ครับ ทัวร์ลีดเดอร์ไม่ได้เล่า หรือผมลืมไปแล้วก็ไม่รู้ครับ

  • #3 nontster ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 19:47

    ในที่สุดผมก็จะมีเรื่องเขียนบนลานซะที อิอิอิ

  • #4 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 21:01

    ผักหวานป่าที่ไปปลูกกันตอนเฮ5 น่าจะมีเหลือรอดโตบ้างหนา

  • #5 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 21:04
    สงสัยว่าจะต้องตามไปพิสูจน์ (หรือชันสูตร) เองครับ เจอกันปลายเดือนกุมภา
  • #6 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 21:14

    น้ำพริกอเวจี..555
    อ่านแล้ว..รู้สึกว่าในเวลาไม่มาก..มีเรื่องราวที่เกิดประโยชน์มากนะคะ
    ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ค่ะ

  • #7 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 22:53
    ดูรูปที่คุณ nontster ถ่ายมาแล้วครับ สวยจริงๆ

    สำหรับน้ำพริก ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรหรอกนะครับ ธรรมดาผมไม่กินเผ็ด (เพราะว่ากินแล้วมันเผ็ด) คืนนั้นโต๊ะวางอาหารมีแสงสว่างน้อย มองอะไรไม่เห็น แค่รู้ว่าข้างหน้าเป็นน้ำพริก จึงแตะมาไม่มาก เผ็ดแต่ไม่ได้เผ็ดจนต้องร้องจ๊าก หรือกระโดดเหยงๆ วิ่งหาน้ำวุ่นวาย แล้วไม่ต้องพึ่งไข่มาถอนพิษด้วยครับ แถมกินซ้ำด้วยสองครั้ง เป็นประโยชน์ของความไม่ประมาท อิอิ

    อนึ่ง เนื่องจากได้รับคำสั่งให้ลืมว่าใครบ้างเป็นสาวไข่ จึงลืมหมดแล้วนะครับ

  • #8 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 23:02

    สงสัยกินน้ำพริกกุ้งแห้งที่พี่ตำแน่เลยอ่ะ เผ็ดน้อยๆแล้วนะ กุ้งแห้งครึ่งกิโลใส่พริกแค่ห้าเม็ดเองอ่ะ

  • #9 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 January 2009 เวลา 23:11
    ไม่ใช่น้ำพริกกุ้งแห้งหรอกครับ ผู้ร่วมประสบการณ์ต่างรู้ดี
  • #10 แป๋ว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 January 2009 เวลา 0:19

    เมื่อทราบว่าคุณรอกอดจะมา ตั้งใจมากเลยค่ะว่าจะไปนั่งฟังด้วย แต่ท้ายที่สุดก็มีประชุมด่วนเตรียมงานวันเกษตรอีสาน โดดไม่ได้ด้วยค่ะ เพราะเป็นประธานอนุกรรมการ 3 ด้าน (สัมมนาวิชาการ ประชาสัมพันธ์ และพิธีเปิด) จึงต้องรายงานในที่ประชุมว่าได้ทำอะไรไปแล้ว และจะทำอะไรต่อไป…วันที่ 14 มค นี้มีจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยค่ะ หลังจากแถลงข่าวไปรอบก่อนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม อย่างเปียกปอน (เป็นการแถลงข่าวกลางแจ้งที่ลานศิลปะวัฒนธรรม แล้วฝนตกในขณะที่ำลังแถลงข่าวค่ะ) แต่คราวนี้ไม่เปียกแน่นอนเพราะจัดในอาคาร … กว่าจะออกจากห้องประชุมมาได้ก็เกือบๆ 4 โมง เมื่อออกมาก็มีโทรศัพท์จากเลขาท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งต้องทำหนังสือด่วนเรียนเชิญท่านบรรยายพิเศษ แล้วก็มีนักศึกษามาพบ และศิษย์เก่ามาสวัสดีปีใหม่ … เกือบๆ 5 โมงเย็นจึงได้ชวนศิษย์เก่าที่มาพบขับรถไปหาที่ภาควิศคอมฯ ช่วงเลี้ยวสวนกับรถที่คล้ายๆรถคุณรอกอด แต่ไม่ได้ฉุกใจคิด เพราะหลอกตัวเองว่า คุณรอกอดยังคงบรรยายอยู่แน่ๆ … แต่เมื่อถึงห้องประชุมจึงพบว่า ห้องปิดล็อคกุญแจเรียบร้อยแล้ว ถามหัวหน้าภาควิชาฯ ท่านก็บอกว่าออกไปเมื่อกี้เอง… จึงได้พบ อ.ต้อม และพูดคุยกันสักพักก่อนกลับมานั่งทำงานต่อที่คณะค่ะ
    ส่วนเรื่องนัดกับ อ.เจ เจ และคุณทวีสิน ปรากฎว่า เงียบไปจึงเดาว่า คนขับรถคงอยากกลับมหาสารคาม อาจารย์ เจเจ จึงพาคุณทวีสินไปมหาสารคามโดยไม่ได้แวะทานข้าวที่ขอนแก่นก่อน…ค่ะ สรุปแล้ว การนัดพบกับเพื่อนๆ (ที่น่ารัก) ในวันที่ 7 มค. … คลาดกันหมดเลย…


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 3.8794989585876 sec
Sidebar: 0.13487505912781 sec