ดัชนีชี้วัดความเจริญก้าวหน้า
อ่าน: 4791เมื่อปี 2507 นักบินอวกาศรัสเซียชื่อ Nicolai Kardashev เสนอแนวคิดวัดความก้าวหน้าของอารยธรรม โดยพิจารณาจากความสามารถในการใช้พลังงาน เรียกเป็น Kardashev scale แบ่งเป็น Type I II และ III ครับ
Type I คืออารยธรรมที่สามารถใช้พลังงานในดาวเคราะห์ดวงหนึ่งได้ทั้งหมด; โลกมีพลังงาน 1.74 x 1017 วัตต์ (ส่วนใหญ่ได้รับจากดวงอาทิตย์ บวกกับอย่างอื่นอีกเล็กน้อย)
Type II คืออารยธรรมที่สามารถจะใช้พลังงานจากดาวฤกษ์ดวงหนึ่งได้ทั้งหมด มีค่าประมาณ 4 x 1026 วัตต์; ดวงอาทิตย์ปล่อยพลังงานประมาณ 3.86 x 1026 วัตต์
ส่วน Type III คืออารยธรรมที่ใช้พลังงานได้เท่ากับพลังงานของกาแลกซี่ หรือประมาณ 4 x 1037 วัตต์ ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะกว้างมาก เนื่องจากกาแลกซี่มีขนาดที่ไม่เท่ากัน ซึ่งตัวเลข 4 x1037 วัตต์นี้ เป็นค่าประมาณพลังงานของกาแลกซี่ทางช้างเผือก
อาจจะเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า มนุษยชาติมีอารยธรรมในระดับดวงดาวหรือไม่ เพราะยังมีการรบราฆ่าฟันแย่งชิงกันอยู่ เมื่อเก็บเกี่ยวพลังงานมาใช้ได้มากๆ หากใช้ในการรบราฆ่าฟันแย่งชิงกัน ก็จะเป็นอันตรายร้ายแรงได้ Carl Segan เองก็สนใจในแง่ที่ว่าการแปะป้ายว่าเป็น I II หรือ III นั้น เหมือนการจัดกลุ่ม ไม่มีความต่อเนื่อง ดังนั้นเขาก็เสนอวิธีซอยย่อยดัชนีให้เป็นตัวเลข ตามสูตร:
Year | Energy production | Kardashev rating | ||
---|---|---|---|---|
Exajoules/ปี | Terawatts | เทียบเท่ากับตันของน้ำมัน/ปี | ||
1900 | 21 | 0.67 | 500 | 0.58 |
1970 | 190 | 6.0 | 4,500 | 0.67 |
1973 | 260 | 8.2 | 6,200 | 0.69 |
1985 | 290 | 9.2 | 6,900 | 0.69 |
1989 | 320 | 10 | 7,600 | 0.70 |
1993 | 340 | 11 | 8,100 | 0.70 |
1995 | 360 | 12 | 8,700 | 0.70 |
2000 | 420 | 13 | 10,000 | 0.71 |
2001 | 420 | 13 | 10,000 | 0.71 |
2002 | 430 | 14 | 10,400 | 0.71 |
2004 | 440 | 14 | 10,600 | 0.71 |
2010 | 510 | 16 | 12,100 | 0.72 |
2030 | 680 | 22 | 16,300 | 0.73 |
โลกได้รับพลังงานจากการแผ่รังสีดวงอาทิตย์ 174,000 terawatts (174,000 x 1012 วัตต์) เป็นความร้อนจากใต้โลก 44 terawatts พลังงานจากคลื่นในทะเล 3 terawatts และมีความร้อนที่ปล่อยทิ้งจากการเผาไหม้อีก 13 terawatts สะท้อนออกโดยบรรยากาศส่วนหนึ่ง เหลือถึงพื้นโลก 89,000 terawatts
ถ้าโลกเป็น Type I ก็หมายความว่าการที่โลกหลุดออกจากวงโคจรของดวงอาทิตย์ (หลุดไปจากสุริยจักรวาล) ก็ยังจะมีพลังงานพอที่ทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้นะครับ
ปัจจุบัน ค่า Kardashev index อยู่ที่ 0.72 ไม่ถึง 1 ก็ไม่ถึง Type I; จะเป็น Type I ก็ต้องมีการเก็บเกี่ยวพลังงานธรรมชาติมากกว่านี้ ทั้งความร้อนจากดวงอาทิตย์ ลม พายุ ไฟฟ้าในอากาศ ฯลฯ
There are many historical examples of human civilization undergoing large-scale transitions, such as the Industrial Revolution. The transition between Kardashev scale levels could potentially represent similarly dramatic periods of social upheaval, since they entail surpassing the hard limits of the resources available in a civilization’s existing territory. A common speculation suggests that the transition from Type 0 to Type I might carry a strong risk of self-destruction since, in some scenarios, there would no longer be room for further expansion on the civilization’s home planet, similar to a Malthusian catastrophe. Excessive use of energy without adequate disposal of heat, for example, could plausibly make the planet of a civilization approaching Type I unsuitable to the biology of the dominant life-forms and their food sources. If Earth is an example, then sea temperatures in excess of 35 °C would jeopardize marine life and make the cooling of mammals to temperatures suitable for their metabolism difficult if not impossible. Of course, these theoretical speculations may not become problems in reality thanks to the application of future engineering and technology. Also, by the time a civilization reaches Type I it may have colonized other planets or created O’Neill-type colonies, so the amount of waste heat could be distributed throughout the solar system. — wikipedia
« « Prev : น้ำใต้ดิน
2 ความคิดเห็น
แม้จะไม่เข้าใจ แต่จากการแสดงตัวเลข สรุปได้ว่า เราคงจะเกิดตาย ตายเกิด อีกนานตราบนานกว่าจะผ่านไปจากชนิดที่หนึ่งเพื่อจะขึ้นไปถึงชนิดที่สอง…
สระแห่งหนึ่งกว้างยาวและลึกอย่างละร้อยโยชน์ ร้อยปีจะมีกาคาบเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาถ่มสระเม็ดหนึ่ง เมื่อใดที่สระนี้ราบเรียบ ถือว่าได้เวลาหนึ่งกัปป์…
ชีวิตนี้ น้อยเหลือเกิน…
เจริญพร
กราบนมัสการครับ
คงไม่ใช่ในชั่วชีวิตนี้แน่ ซึ่งก็ดีแล้ว คนที่หลงมัวเมา มีพลังงานมากๆ กลับเป็นอันตรายกับคนอื่นครับ
คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า
คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต