มองสื่อ
บล็อกนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองครับ ถ้ามีหลุดไปบ้างก็ไม่ได้ตั้งใจ เพราะผมมีช่องทางอื่นที่จะเขียนเรื่องอื่นครับ
ผมไม่ได้มีวิชาชีพสื่อสารมวลชน แต่เป็นผู้ที่บริโภคสื่อหลายทางหลายมุม จากเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย มีข้อสังเกตดังนี้
- ผมไม่เห็นด้วยกับการปิดกั้นสื่อ ผมเลือกและตัดสินใจของผมได้ ไม่ต้องมาคิดแทน ขอบคุณครับ; ทั้งนี้ยกเว้นการปิดกั้นสื่อจะเป็นไปโดยขั้นตอนของกฎหมาย(ไม่ใช่แค่ตามกฎหมาย) กฎหมายเป็นกติกาของสังคมครับ — ถ้าไม่ชอบกฎหมายแบบนี้ ต้องไปแก้ในสภา ไม่ใช่ละเมิดเอาตามใจ
- การรายงานของสื่อตามรูปแบบ มักไม่มีเวลากำกับ ทำให้ไม่รู้ความสดของข่าวสาร ภาพเก่าข่าวเก่าเอามาเล่าใหม่ ก็ทำเนียนเหมือนเป็นของสด
- ใช้แผนที่และกราฟฟิคกันน้อยเกินไป ถ้าทำกันไม่ไหว ลงทุนหน่อยซิครับ
- แปลกใจที่ไม่มีพูลของข่าว! ทำให้นักข่าวในพื้นที่เสี่ยงมากเกินไปหรือเปล่า?
- สื่อที่ไม่ใช่หุ่นยนต์มีความเห็นได้ แต่ต้องแยกออกจากข่าวอย่างชัดเจน
- บรรณาธิการข่าวต่างๆ ควรเรียนจิตวิทยามาบ้าง จะได้รับผิดชอบผลต่อผู้บริโภคข่าวได้ดีขึ้น ฉลาด…ได้อีก
- สื่อภาคประชาชนที่รายงานกันเอง ดูเหมือนจะดี แต่ก็เปิดช่องให้ใช้บิดเบือนเช่นกัน สื่อดิจิตอลตัดต่อแต่งเติมง่าย ต้องระวัง
- ในกรณีสื่อความขัดแย้ง (ภาพเหตุการณ์ซับซ้อนจากหลายมุม) ยังไม่มี media archives ที่พอจะช่วยเก็บภาพ/คลิปที่ถ่ายแล้วอัพโหลดกันสดๆ ลดโอกาสตกแต่งบิดเบือน
บ่นแล้วก็นอนต่อ เน็ตเจ๊งอีกแล้วครับ ฮ่วย
Posted by Wordmobi
Next : แท้หรือเทียม ก็จะทำ — ไม่ใช่มุกและไม่ใช่มุข » »
2 ความคิดเห็น
9. น้ำเสียงที่รายงานข่าวก็สำคัญค่ะ ควรราบเรียบ นิ่งจะทำให้ความรู้สึกของคนดูไม่รนมาก (นึกถึงเสียงของพ.อ.สรรเสริญ โฆษก ศอฉ.นะคะ) แต่ส่วนมากจะกระหืดกระหอบ เร่งร้อน และโทนเสียงสูง (รายงานสถานการณ์สด) จึงยิ่งร้อนเมื่อได้ยิน บวกกับภาพข่าวเก่าที่ตัดไปตัดมายิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่า “ปิดทีวีดีกว่า” น่ะค่ะ
10. สำนวนข่าวที่ใช้ควรตัดคำรุงรัง เยิ่นเย้อออก (ทุกรายงานข่าวและทุกช่องเลยนะคะ) ฟังอยู่ 2 นาทียังจับไม่ได้ว่าจะพูดอะไร มีแต่คำพ่วง คำขยายเต็มไปหมด นี่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญค่ะ
ก็เห็นใจผู้ที่จัดรายการสดโดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับการรายงานสดเข้ามาจากข้างนอกเนื่องจากควบคุมเวลาไม่ได้นะครับ บางครั้งก็อาจจะต้องมี filler บ้าง แต่ไม่น่าจะเป็น filler ตลอดเวลา — ถ้าพูดกับไม่พูดมีค่าเท่ากัน ไม่พูดน่าจะดีกว่าครับ ถ้าไม่เข้าขากัน ก็บอกนักข่าวสนามไปเลยก็ได้ว่ามีเวลา 15 วินาที
ส่วนบุคลิกของผู้รายงานข่าวนั้น ผมคิดว่าผู้ชมแต่ละคน มี “ขีด” ที่ไม่เท่ากัน อย่างแม่ผมรับผู้สื่อข่าวภาคสนามซึ่งควงหน้าหรือกระพริบตาตลอดเวลาไม่ได้เลย บอกว่าเวียนหัว แล้วก็รับคนที่หายใจแรงๆ เหมือนหอบซี่โครงบานไม่ได้เหมือนกัน เจอหน้าปุ๊บ เปลี่ยนช่องทันที
สถานการณ์ความไม่สงบนี้ เกิดมายาวนาน ก็น่าเห็นใจผู้ดำเนินรายการเหมือนกัน ทางสถานีก็อาจจะต้องหมุนเวียนผู้ดำเนินรายการมาผลัดเปลี่ยนกันบ้าง แต่การควบคุมตัวเองของผู้ดำเนินรายการเป็นทักษะที่ต้องฝึก บางคนพอตื่นเต้นแล้วเสียงแหลม บางคนถามคำถามที่ไม่น่าถาม (ไม่ถามเสียดีกว่า) บางคนก็ผิวเผินฉาบฉวยมาก ต้องการรู้แค่เกิดอะไรใครพูดอะไรที่ไหนอย่างไร แม้หลักการจะเป็นทำนองนั้น แต่ขืนทำได้แค่นี้ ก็คงพอๆ กับนักข่าวโรงเรียนเลยนะครับ