ไขความมหัศจรรย์ของต้นไม้กับน้ำและภาวะโลกร้อน

อ่าน: 5060

คงเคยได้ยินนะครับ ว่าใช้ช่วยกันปลูกต้นไม้ ลดโลกร้อน บรรเทาน้ำท่วม บรรเทาแล้ง — สิ่งเหล่านี้ เกี่ยวพันกันบ้าง แต่ไม่ใช่ผลโดยตรงของกันและกันหรอกนะครับ

Q: ปลูกต้นไม้ ป้องกันน้ำท่วมได้หรือไม่

A: หว่า คำถามนี้ ควรตั้งสติแล้วถามใหม่ครับ

น้ำท่วมจากแม่น้ำลำคลองเกิดขึ้นจากปริมาณน้ำที่ไหลมา มากเกินกว่าปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านไปได้ ดทำให้น้ำเอ่อขึ้นมา เมื่อเอ่อขึ้นมาเกินระดับตลิ่ง ก็เรียกว่าน้ำท่วม เมื่อน้ำท่วมในลักษณะนี้ จะปลูกต้นไม้ตรงนั้นกี่ต้น จะไม่ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้เท่าไหร่หรอกครับ เป็นปลายเหตุแล้วครับ

Q: แม่น้ำลำคลองเอาน้ำมาจากไหนมากมาย

A: ก็ฝนตกจะเป็นกี่มิลลิเมตรก็ตาม คูณด้วยพื้นที่ที่ฝนตก ก็จะเป็นปริมาตรของน้ำฝนที่ตกลงมา; เมื่อฝนตกลงมาเป็นน้ำ น้ำก็ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเป็นธรรมดา ค่อยๆ รวมกันทีละเล็กทีละน้อย กลายเป็นลำธาร เป็นคลอง และเป็นแม่น้ำ ถ้าฝนตกเป็นปริมาตรเยอะๆ น้ำก็จะไหลมาลงแม่น้ำลำคลองอยู่ดี

Q: เขื่อนกันน้ำท่วมได้ไหม

A: กันได้ถ้าฝนตกเหนือเขื่อน และกันได้เท่ากับปริมาตรกักเก็บที่เหลืออยู่ ถ้าน้ำมาเกินปริมาตรกักเก็บ น้ำจะล้นออกมาเอง

Q: แต่เค้าพูดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ว่าปลูกต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนได้ ช่วยบรรเทาน้ำท่วม และบรรเทาภัยแล้งได้

A: ไม่ถามหรอกครับว่าเค้าเนี่ยใคร มุกเก่าแล้ว; สำหรับคำถาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกี่ยวหรอกนะครับ แต่ว่าเวลาใครบอกอะไร ต้องพิจารณา ถ้าไม่รู้ก็ศึกษาซะ คำตอบไม่ใช่แค่เชื่อหรือไม่ ถูกหรือผิด

ปลูกต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนได้ 50-53% ของต้นไม้เป็นเซลลูโลสครับ เซลลูโลสเป็นไฮโดรคาร์บอน เป็นสารประกอบของคาร์บอน ดังนั้นเมื่อต้นไม้โตขึ้น ก็ยิ่งเก็บคาร์บอนที่หายใจและดูดซึมมาจากรากเอาไว้ในรูปของเนื้อไม้ การตัดต้นไม้เพียงแต่หยุดไม่ให้ต้นไม้ดูดคาร์บอนไปสร้างเซลลูโลสอีกต่อไป แต่การเผาต้นไม้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เป็นการปล่อยคาร์บอนออกสู่บรรยากาศในรูปของก๊าซเรือนกระจก — ปลูกต้นไม้ยิ่งดี ถึงไม่ปลูกก็ยังไม่เป็นไร แต่อย่าเผาต้นไม้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นฟางข้าว ต้นอ้อย หรือซากต้นอะไรก็ตาม จะใบหรือกิ่งก็อาการเดียวกัน คือเป็นเซลลูโลสทั้งนั้น

ปลูกต้นไม้ช่วยบรรเทาน้ำท่วมได้ เมื่อฝนตก ใบไม้ส่วนหนึ่งอุ้มน้ำไว้ จะกี่หยดก็แล้วแต่ ถ้ามีใบไม้หลายพันล้านใบรวมๆ กัน ก็มีความหมายครับ ใบไม้บังพื้นดินไว้ไม่ให้เม็ดฝนตกกระทบโดยตรง ต่อให้เป็นวัชพืชก็เถอะนะ ฝนที่ตกกระทบผิวดินโดยตรงนี่แหละ เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าดินหลุดและถูกกัดเซาะไป

รากพืชแทรกตัวลงไปในดินเพื่อดูดซึมน้ำและธาตุอาหาร เมื่อรากดูดน้ำจากดิน ดินแห้งขึ้นและหดตัวลง เป็นเหตุให้รากแทรกตัวลงไปได้อีก ร่องเล็กๆ (pore) ระหว่างอนุภาคของดินนี้ น้ำแทรกอยู่ได้เหมือนกัน ยิ่งมีต้นไม้ ก็ยิ่งมีราก ยิ่งมีราก ดินยิ่งแห้ง ยิ่งดินแห้ง ดินยิ่งดูดซึมน้ำได้มาก ยิ่งดินดูดซึมน้ำได้มาก น้ำที่ตกในพื้นที่หนึ่ง จะไหลทะลักเป็นน้ำหลาก (run-off — ที่วงเล็บภาษาอังกฤษไว้นี้ ไม่ได้ดัดจริตหรอกครับ แต่ให้คำศัพท์ไว้สำหรับผู้อ่านที่ต้องการจะไปค้นข้อมูลต่อ) ไปยังแม่น้ำลำคลองน้อยลงครับ

ยิ่งกว่านั้น รากพืชที่แทรกตัวลงไปในดินทำให้เกิดร่องเล็กๆ ขึ้น เป็นการเติมอากาศลงในดินด้วย ทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้ ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น แล้วก็ยิ่งทำให้พืชเจริญเติบโต ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาสังเคราะห์แสง ยิ่งได้เนื้อไม้ ก็ยิ่งเก็บกักก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น ยิ่งมีใบมาก ก็ยิ่งอุ้มน้ำฝนไว้ได้มาก

ปลูกต้นไม้ช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ ใบไม้บังแสงอาทิตย์ไว้ ทำให้เกิดร่มเงา ทำให้ดินชุ่มชื้น หากดินถูกแดดเผา ความร้อนของดินจะไล่เมฆฝนไม่ให้ก่อตัวขึ้นเนื่องจากจุดน้ำค้างสูงขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อดินถูกแดดเผา น้ำใต้ดินในระดับใกล้ผิวดินก็จะเหยออกไปด้วย ทำให้ดินแห้ง ดินเสื่อมสภาพ เพาะปลูกอะไรก็ขึ้นยาก เมื่อตัดต้นไม้จนภูเขาหัวโกร๋นไปหมด ต่อให้ไปปลูกอะไรใหม่ ก็ขึ้นยากครับ ต้องฟื้นฟูอีกหลายขั้นตอน ต้องทำให้ดินชื้นก่อนปลูกต้นไม้

เมื่อฝนตกลงมาบนภูเขา ถ้าภูเขาโล้นหมด ฝนตกลงมาก็ไหลไปตามผิวดินอย่างรวดเร็ว ชะหน้าดิน ทำลายดินไป ส่วนตะกอนก็ไหลตามน้ำไป ทำให้แม่น้ำลำคลองตื้นเขิน และทำให้อัตราที่น้ำไหลผ่านไปได้ต่ำลง ในที่สุดก็ทำให้น้ำท่วมได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าภูเขาดูดซึมน้ำไว้ได้ส่วนหนึ่ง น้ำที่ถูกดูดซึมไว้นี้ จะกลายเป็นน้ำใต้ดินในภูเขา ซึ่งก็จะไหลลงที่ต่ำตามธรรมชาติ เกิดเป็นน้ำซึม น้ำซับ เป็นต้นน้ำลำธารที่ตีนเขา เป็นเหตุที่แม่น้ำลำคลองยังมีน้ำแม้ฝนไม่ตก ดังนั้นกระบวนการนี้ จึงเป็นการหน่วงน้ำฝนที่ตก ให้ค่อยๆ ปล่อยออกไปตลอดปี ทำให้หน้าฝน น้ำท่วมน้อย หน้าแล้ง กลับมีน้ำ

กระบวนการเลียนแบบธรรมชาตินี้ เคยเสนอไว้แล้วหลายครั้งครับ [ฤๅจะถึงคราวกุลาร้องไห้ (2)] [ลดความเสี่ยงจากดินถล่ม?!] [ลดความเสี่ยงจากดินถล่ม?! ตอนต่อมา]

« « Prev : จะบิน

Next : ปลูกต้นไม้เท่าไรจึงพอ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 มิสเตอร์สะตอฯ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 December 2010 เวลา 7:51

    ยังมีอีกหน้าที่ครับ ที่ต้นไม้ทำหน้าที่คือ เป็นเครื่องสูบน้ำในกรณีน้ำท่วมทั้งกลางวันและกลางคืนครับ สูบน้ำขึ้นจากปลายรากและปล่อยทิ้งผ่านปากใบ โดยที่ 99% ของน้ำที่ดูดเข้าไปแล้วคายออกทางปากใบ และอีก 1% จะเอาไว้สำหรับการสังเคราะห์ด้วยแสงครับ ไม่ว่าจะต้นสูงหรือต้นต่ำเหมือนหญ้าก็สามารถสูบน้ำจากใต้ดินได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าความลึกของราก ความสูงของต้นจะช่วยในการดูดได้ลึกขึ้นหรือปล่อยได้สูงขึ้น ไอน้ำพวกนี้ก็จะลอยขึ้นไปรวมกันเป็นเมฆหมอกในชั้นที่สูงขึ้น ดังนั้นตรงไหนมีต้นไม้กับไม่มีต้นไม้ จะแตกต่างกันแน่นอนในเรื่องการควบคุมปริมาณน้ำ ทดสอบได้ในเวลากลางคืนครับ ถามว่าทำไมต้นไม้ต้องสูบน้ำขึ้นไปบนบรรยากาศ อันนี้จะมีหลายเหตุผลเลยครับ เช่น เพื่อเอาน้ำส่วนหนึ่งไปใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสงในเวลากลางวันหรือช่วงที่มีแสง น้ำที่ดูดขึ้นไปผ่านท่อน้ำก็จะเป็นการลดอุณหภูมิของต้นไม้ได้ด้วยครับ แล้วหากพืชชนิดนี้ไม่ได้เป็นพืชในพื้นที่น้ำขัง พืชก็ต้องปรับสมดุลเพื่อให้ตัวเองอยู่ได้ เพราะหากท่วมขังยาวนานต้นไม้เองก็ตายได้ ซึ่งต้นไม้จะทำงานอัตโนมัติขึ้นกับปริมาณความชื้นในดินครับ

    จริงๆ ยังมีหลายๆ อย่างเกี่ยวกับต้นไม้และระบบในโลกนี้ที่น่าสนใจและล้วนเชื่อมโยงเกียวกัน มหัศจรรย์ที่เรายังไม่เข้าใจหน้าที่ของต้นไม้ยังมีอีกเยอะนะครับ

    สิ่งที่สำคัญคือในหลักของธรรมชาติคือ ความสมดุล หากมีอะไรมากเกินไปหรือน้อยจนเกินไปก็จะส่งผลอย่างน้อยหนึ่งอย่างกระทบกับอีกอย่างเสมอ

    โลกร้อน ชุมชนร้อน  โลกเย็น ชุมชนเย็น
    หลายๆ ชุมชนร้อน โลกก็ร้อน
    หลายๆ ชุมชนเย็น โลกก็เย็น
    ชุมชนปรับตัว โลกก็ปรับตัว
    โลกปรับตัว ชุมชนก็ต้องปรับตัว

    Local Changes <—> Global Changes

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 December 2010 เวลา 9:09

    ชุมชนไหนดื้อตาใส หัวใจย่อมผะผ่าว อิอิ
    ขอบคุณที่ต่อแต้มความรู้ให้กระจ่างขึ้น กว้างขึ้น
    ขออีกๆๆๆ

  • #3 ลานซักล้าง » ปลูกต้นไม้เท่าไรจึงพอ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 December 2010 เวลา 2:31

    [...] ปลูกตามเขาหัวโล้น ปลูกทุกที่ที่ว่างอยู่ ปลูกแล้ว ถ้าสภาวะแวดล้อมเหมาะสม ต้นไม้เติบโตได้เองตามธรรมชาติ ให้ร่มเงา ให้ความชื้น ช่วยรักษาดิน; ต้นไม้ทำอะไรมากกว่าช่วยเก็บกักคาร์บอนไดออกไซด์เยอะแยะเลย [ย้อนไปอ่านบันทึกนี้] [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.9997999668121 sec
Sidebar: 3.8976938724518 sec