โลกร้อน (2.0)

อ่าน: 3988

เมื่อปีที่แล้ว เขียนเรื่องร้อนไว้ ปีนี้เอากลับมาเขียนอีก ไม่ได้หมดมุกหรอกครับ แต่เพราะไปให้ความเห็นไว้ในบันทึกพืชพลังงานทดแทน ..จะเอายังไงกันดี? ของคุณเบิร์ด จะเขียนยาวก็เกรงใจเจ้าของบันทึกมากที่ขยันเหลือเกิน

เรื่องโลกร้อน มีเขียนกันไว้มากมายแล้วครับ แต่ผมยังอยากเขียนในแบบตามใจฉันอยู่ดี

โลกกับความร้อน

คือว่าผมก็ไม่ได้แก่ขนาดที่จะเล่าเรื่องนี้ได้จากประสบการณ์หรอกนะครับ

แต่จากการศึกษา เชื่อได้ว่าเมื่อโลกอุบัติขึ้น เต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จุลชีพขนาดจิ๋วเปลี่ยนโลกด้วยการแปลงคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นหินปูน จึงทำให้ก๊าซเรือนกระจกเบาบางลงเป็นอย่างมาก จนโลกจึงสามารถแผ่รังสีความร้อนออกสู่อวกาศ ทำให้โลกเย็นลง และสรรพชีวิตอุบัติขึ้นและดำรงอยู่ได้

โลกเคยร้อนกว่านี้ แต่เป็นระดับความร้อนที่ชีวิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถดำรงอยู่ได้… หรือว่าสูงสุด หวนคืนสู่สามัญ; ต่ำสุด แตกสลายกลายสู่ความไม่มีอะไร

โลกร้อนเพราะเราทำตัวเราเอง

ครึ่งโลกถูกดวงอาทิตย์เผาอยู่ทุกวันๆ ส่วนอีกครึ่งโลกที่เป็นกลางคืน ควรจะแผ่รังสีความร้อนออกไปสู่อวกาศได้ ก็กลับถูกก๊าซเรือนกระจกดักเอาไว้ ตกลงความร้อนที่รับมาจากดวงอาทิตย์ ก็หมักหมมอยู่ในบรรยากาศ

ก๊าซเรือนกระจก มีสามตัวร้าย คือคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไอน้ำ

  • โลกร้อนขึ้น น้ำระเหยเป็นไอได้ง่ายขึ้น มลพิษจากอุตสาหกรรม ฝุ่นละออง ประกอบกับความชุ่ยของคน ปล่อยอนุภาคเล็กให้ลอยล่องอยู่ในบรรยากาศ ให้ผลแบบเดียวกับไอน้ำ คือโลกแผ่รังสีความร้อนออกสู่บรรยากาศไม่ได้ดี เท่ากับสมัยที่อากาศยังบริสุทธิ์อยู่
  • คาร์บอนไดออกไซด์ มีมากอยู่เป็นทุนเดิม แต่จุลชีวิตดึกดำบรรพ์ เปลี่ยนก๊าซไปเป็นหินปูน ตอนนี้เราเอาหินปูนมาใช้ (มีผลไม่มาก ผสมปูนก็ร้อนขึ้นเนื่องจากปฏิกริยาทางเคมี) แต่มนุษยชาติยังไม่มีวิธีการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์กลับเป็นของแข็ง หรือดักจับมากักเก็บได้ การเผาใหม้ของเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน (น้ำมัน หรือเชื้อเพลิงชีวมวล) ล้วนเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ — ทั้งหมดทำให้ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่ไม่สามารถ จะจัดการได้
  • มีเทน เค้าว่ามีฤทธิ์ร้ายกาจกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 22 เท่า เพราะมีเทนในบรรยากาศ สร้างโมเลกุลของก๊าซเรือนกระจกอื่นได้อีกหลายทอด ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ก็ช่างเถอะ ฝรั่งว่าการทำนาแบบดำ-ไถ-หว่าน สร้างก๊าซมีเทน เพราะข้าวตด การเลี้ยงปศุสัตว์ก็สร้างก๊าซมีเทน เพราะวัวตด หมูตด ไก่ตด ก๊าซชีวมวลก็เป็นมีเทนโดยตรง อย่าใช้เลย ไปซื้อน้ำมันให้ hedge fund ได้กำไร หรือเลี่ยงไปใช้พลังงานนิวเคลียร์ให้ประเทศที่ผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ได้ หากำไรต่อไปเถอะ

สิ่ง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคืออุณหภูมิโลก มีแนวโน้มสูงขึ้น แม้การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย จะไม่ทำให้เรารูสึกว่าจะเป็นจะตาย แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น

  • อากาศก็จะแปรปรวน ฝนแล้วก็แล้งหนัก พอฝนตกก็ท่วมหนัก
  • น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น (แผนที่ประมาณการ หากแกนหมุนของโลกไม่เปลี่ยน)
  • อุณหภูมิของน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย อาจกระทบต่อกระแสน้ำอุ่น-กระแสน้ำเย็นในมหาสมุทร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อภูมิอากาศในระดับทวีป จะทำกลับให้เป็นเหมือนเดิมก็ไม่ง่าย เพราะปริมาณน้ำมหาศาล (น้ำ 1 ลบ.ม. หนัก 1 ตัน)

ดวงอาทิตย์ก็เป็นปัญหา

โลกพึ่งพาดวงอาทิตย์ตลอดมา มีหลายความเชื่อบูชาดวงอาทิตย์

ดวงอาทิตย์แผ่พลังงานมาให้โลก บรรยากาศของโลกกรองไว้ส่วนหนึ่ง แต่ยังผ่านลงมาได้ 70-75% แต่โลกกลับแผ่ความร้อนกลับไปในอวกาศได้เพียง 15-30%

จึงมีความร้อนสะสมอยู่ในโลกถึง 40% ของพลังงานที่โลกรับจากดวงอาทิตย์

นี่เรากำลังพูดถึงพลังงานที่ดวงอาทิตย์แผ่มาให้ทั้งโลก ไม่ได้พูดถึงเตาทำกับข้าวนะครับ พลังงานที่ค้างอยู่ 40% ในแต่ละวัน ก็จะทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ

รูปทางด้านซ้ายช่วงล่างสุด แยกให้เห็นว่าอะไรป้องกันการแผ่รังสีของโลกออกสู่อวกาศ

โชคดีที่ไอน้ำ ไม่บังช่วงอินฟราเรด จึงเป็นรูใหญ่ที่รังสีความร้อนแผ่ออกไปได้

แต่ไอน้ำ เราควบคุมไม่ได้ ในขณะที่คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทนซึ่งเกิดจากกระบวนการการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้น เราควบคุมได้ ถ้าหากจะทำ

เรื่องนี้ไม่ง่ายหรอกครับ แต่คงเห็นอยู่แล้วว่าความอยู่รอดของทุกสรรพชีวิต ขึ้นกับเราเอง

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม และการใช้น้ำมัน (เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน)

โลกสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เอง เพียงแต่จากการคำนวณ พบว่าอาจใช้เวลาหลายแสนปี ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่ได้อยู่ดูแล้ว

เหตุที่ภาวะโลกร้อนมีผลที่น่ากลัวกว่าการร้อนจนทนไม่ได้ ที่คนทั่วไปเข้าใจกัน คือแม้เฉลี่ยอุณหภูมิสูงขึ้นเพียงไม่กี่องศา น้ำแข็งก็จะละลายเร็ว [รูปอัตราการละลายของธารน้ำแข็ง] ปริมาณน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น ไอน้ำในอากาศมีมากขึ้น อากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล อุณหภูมิของน้ำทะเลเปลี่ยนไป รบกวนการไหลของกระแสน้ำในมหาสมุทร …

เ ป็ น เ พ ร า ะ เ ร า ทํ า ล า ย ตั ว เ อ ง

ไม่มีทางอื่น นอกจากจะหยุดทำเหลวไหลกันเสียทีครับ

นี่ว่าจะอธิบายความที่ไปแซวไว้ในบันทึกของคุณเบิร์ดที่อ้างไว้ข้างบน แต่บันทึกนี้ยาวเกินไปแล้ว เอาไว้จะหาเวลามาเขียนอีกที ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสนอทางแก้ไขเลยครับ

ถ้าท่านยังไม่เชื่อในเรื่องผลของโลกร้อน ก็พิจารณารูปนี้เอาเองก็แล้วกันครับ…

« « Prev : ปิดบล็อกเที่ยว

Next : โลกร้อน (2.1) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 December 2008 เวลา 10:12

    “ไม่มีทางอื่น นอกจากจะหยุดทำเหลวไหลกันเสียทีครับ”
    จะให้ผมหยุดตดหรือครับ ก๊าก…(ขออภัย บทความเขาดีๆมาทำป่วน อิอิ)

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 December 2008 เวลา 13:42
    ถ้าปู้ดป้าดเป็นอุตสาหกรรม (ปริมาณเยอะมาก) ผมว่าน่าพิจารณาเลิกนะครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.34052991867065 sec
Sidebar: 0.28280305862427 sec