โลกร้อน (2.0)
เมื่อปีที่แล้ว เขียนเรื่องร้อนไว้ ปีนี้เอากลับมาเขียนอีก ไม่ได้หมดมุกหรอกครับ แต่เพราะไปให้ความเห็นไว้ในบันทึกพืชพลังงานทดแทน ..จะเอายังไงกันดี? ของคุณเบิร์ด จะเขียนยาวก็เกรงใจเจ้าของบันทึกมากที่ขยันเหลือเกิน
เรื่องโลกร้อน มีเขียนกันไว้มากมายแล้วครับ แต่ผมยังอยากเขียนในแบบตามใจฉันอยู่ดี
โลกกับความร้อน
คือว่าผมก็ไม่ได้แก่ขนาดที่จะเล่าเรื่องนี้ได้จากประสบการณ์หรอกนะครับ
แต่จากการศึกษา เชื่อได้ว่าเมื่อโลกอุบัติขึ้น เต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จุลชีพขนาดจิ๋วเปลี่ยนโลกด้วยการแปลงคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นหินปูน จึงทำให้ก๊าซเรือนกระจกเบาบางลงเป็นอย่างมาก จนโลกจึงสามารถแผ่รังสีความร้อนออกสู่อวกาศ ทำให้โลกเย็นลง และสรรพชีวิตอุบัติขึ้นและดำรงอยู่ได้
โลกเคยร้อนกว่านี้ แต่เป็นระดับความร้อนที่ชีวิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถดำรงอยู่ได้… หรือว่าสูงสุด หวนคืนสู่สามัญ; ต่ำสุด แตกสลายกลายสู่ความไม่มีอะไร
โลกร้อนเพราะเราทำตัวเราเอง
ครึ่งโลกถูกดวงอาทิตย์เผาอยู่ทุกวันๆ ส่วนอีกครึ่งโลกที่เป็นกลางคืน ควรจะแผ่รังสีความร้อนออกไปสู่อวกาศได้ ก็กลับถูกก๊าซเรือนกระจกดักเอาไว้ ตกลงความร้อนที่รับมาจากดวงอาทิตย์ ก็หมักหมมอยู่ในบรรยากาศ
ก๊าซเรือนกระจก มีสามตัวร้าย คือคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไอน้ำ
- โลกร้อนขึ้น น้ำระเหยเป็นไอได้ง่ายขึ้น มลพิษจากอุตสาหกรรม ฝุ่นละออง ประกอบกับความชุ่ยของคน ปล่อยอนุภาคเล็กให้ลอยล่องอยู่ในบรรยากาศ ให้ผลแบบเดียวกับไอน้ำ คือโลกแผ่รังสีความร้อนออกสู่บรรยากาศไม่ได้ดี เท่ากับสมัยที่อากาศยังบริสุทธิ์อยู่
- คาร์บอนไดออกไซด์ มีมากอยู่เป็นทุนเดิม แต่จุลชีวิตดึกดำบรรพ์ เปลี่ยนก๊าซไปเป็นหินปูน ตอนนี้เราเอาหินปูนมาใช้ (มีผลไม่มาก ผสมปูนก็ร้อนขึ้นเนื่องจากปฏิกริยาทางเคมี) แต่มนุษยชาติยังไม่มีวิธีการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์กลับเป็นของแข็ง หรือดักจับมากักเก็บได้ การเผาใหม้ของเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน (น้ำมัน หรือเชื้อเพลิงชีวมวล) ล้วนเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ — ทั้งหมดทำให้ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่ไม่สามารถ จะจัดการได้
- มีเทน เค้าว่ามีฤทธิ์ร้ายกาจกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 22 เท่า เพราะมีเทนในบรรยากาศ สร้างโมเลกุลของก๊าซเรือนกระจกอื่นได้อีกหลายทอด ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ก็ช่างเถอะ ฝรั่งว่าการทำนาแบบดำ-ไถ-หว่าน สร้างก๊าซมีเทน เพราะข้าวตด การเลี้ยงปศุสัตว์ก็สร้างก๊าซมีเทน เพราะวัวตด หมูตด ไก่ตด ก๊าซชีวมวลก็เป็นมีเทนโดยตรง อย่าใช้เลย ไปซื้อน้ำมันให้ hedge fund ได้กำไร หรือเลี่ยงไปใช้พลังงานนิวเคลียร์ให้ประเทศที่ผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ได้ หากำไรต่อไปเถอะ
สิ่ง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคืออุณหภูมิโลก มีแนวโน้มสูงขึ้น แม้การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย จะไม่ทำให้เรารูสึกว่าจะเป็นจะตาย แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
- อากาศก็จะแปรปรวน ฝนแล้วก็แล้งหนัก พอฝนตกก็ท่วมหนัก
- น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น (แผนที่ประมาณการ หากแกนหมุนของโลกไม่เปลี่ยน)
- อุณหภูมิของน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย อาจกระทบต่อกระแสน้ำอุ่น-กระแสน้ำเย็นในมหาสมุทร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อภูมิอากาศในระดับทวีป จะทำกลับให้เป็นเหมือนเดิมก็ไม่ง่าย เพราะปริมาณน้ำมหาศาล (น้ำ 1 ลบ.ม. หนัก 1 ตัน)
ดวงอาทิตย์ก็เป็นปัญหา
โลกพึ่งพาดวงอาทิตย์ตลอดมา มีหลายความเชื่อบูชาดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์แผ่พลังงานมาให้โลก บรรยากาศของโลกกรองไว้ส่วนหนึ่ง แต่ยังผ่านลงมาได้ 70-75% แต่โลกกลับแผ่ความร้อนกลับไปในอวกาศได้เพียง 15-30%
จึงมีความร้อนสะสมอยู่ในโลกถึง 40% ของพลังงานที่โลกรับจากดวงอาทิตย์
นี่เรากำลังพูดถึงพลังงานที่ดวงอาทิตย์แผ่มาให้ทั้งโลก ไม่ได้พูดถึงเตาทำกับข้าวนะครับ พลังงานที่ค้างอยู่ 40% ในแต่ละวัน ก็จะทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ
รูปทางด้านซ้ายช่วงล่างสุด แยกให้เห็นว่าอะไรป้องกันการแผ่รังสีของโลกออกสู่อวกาศ
โชคดีที่ไอน้ำ ไม่บังช่วงอินฟราเรด จึงเป็นรูใหญ่ที่รังสีความร้อนแผ่ออกไปได้
แต่ไอน้ำ เราควบคุมไม่ได้ ในขณะที่คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทนซึ่งเกิดจากกระบวนการการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้น เราควบคุมได้ ถ้าหากจะทำ
เรื่องนี้ไม่ง่ายหรอกครับ แต่คงเห็นอยู่แล้วว่าความอยู่รอดของทุกสรรพชีวิต ขึ้นกับเราเอง
ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม และการใช้น้ำมัน (เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน)
โลกสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เอง เพียงแต่จากการคำนวณ พบว่าอาจใช้เวลาหลายแสนปี ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่ได้อยู่ดูแล้ว
เหตุที่ภาวะโลกร้อนมีผลที่น่ากลัวกว่าการร้อนจนทนไม่ได้ ที่คนทั่วไปเข้าใจกัน คือแม้เฉลี่ยอุณหภูมิสูงขึ้นเพียงไม่กี่องศา น้ำแข็งก็จะละลายเร็ว [รูปอัตราการละลายของธารน้ำแข็ง] ปริมาณน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น ไอน้ำในอากาศมีมากขึ้น อากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล อุณหภูมิของน้ำทะเลเปลี่ยนไป รบกวนการไหลของกระแสน้ำในมหาสมุทร …
เ ป็ น เ พ ร า ะ เ ร า ทํ า ล า ย ตั ว เ อ ง
ไม่มีทางอื่น นอกจากจะหยุดทำเหลวไหลกันเสียทีครับ
นี่ว่าจะอธิบายความที่ไปแซวไว้ในบันทึกของคุณเบิร์ดที่อ้างไว้ข้างบน แต่บันทึกนี้ยาวเกินไปแล้ว เอาไว้จะหาเวลามาเขียนอีกที ยังไม่ได้พูดถึงข้อเสนอทางแก้ไขเลยครับ
ถ้าท่านยังไม่เชื่อในเรื่องผลของโลกร้อน ก็พิจารณารูปนี้เอาเองก็แล้วกันครับ…
2 ความคิดเห็น
“ไม่มีทางอื่น นอกจากจะหยุดทำเหลวไหลกันเสียทีครับ”
จะให้ผมหยุดตดหรือครับ ก๊าก…(ขออภัย บทความเขาดีๆมาทำป่วน อิอิ)