จับคู่ดูแลกัน

โดย Logos เมื่อ 19 November 2011 เวลา 2:00 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3074

ศปภ.เสนอให้จังหวัดที่ไม่ได้ประสบอุทกภัย จับคู่กับเขต (อำเภอ) ของกรุงเทพที่ประสบอุทกภัย มีครัวรัฐบาลอีกด้วย

เรื่องนี้ดีครับแต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการทำกันมาสักพักแล้ว เทศบาลต่างๆ ติดต่อประสานงานกันอยู่ อบจ. อบต. ก็มีช่องทางช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่แล้ว เมื่อปีที่แล้วมีการยกเว้นเขตอำนาจในกรณีที่ อปท.หนึ่งจะส่งกำลังไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ ในกรณีของภัยพิบัติ (ก่อนหน้านั้น อปท.ออกนอกเขตของตนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดน ปปช.สอบ!)

การเชื่อมต่อกันอย่างนี้ เกิดจากความเห็นใจกันและกัน เป็นไปโดยไม่ต้องสั่งการมาจากส่วนกลาง หน่วยงานที่มีทรัพยากรอยู่ว่างๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะช่วยเหลือหน่วยงานอื่นตามธรรมชาติของจิตใจคนไทยอยู่แล้ว รัฐเพียงแต่ปลดล็อค ทำตัวเป็น enabler เท่านั้นก็พอ

ผมรู้ว่าเทศบาลขนาดใหญ่บางแห่ง ส่งทีมไปช่วยเทศบาลที่ประสบภัยโดยไม่มีการร้องขอ ด้วยงบประมาณของตนเอง ไม่ออกข่าวเอาหน้า และกำลังที่ส่งไปช่วย ดูแลตนเองทั้งหมด (โดยไม่ต้องมีเจ้าภาพมาคอยประคบประหงม เจ้าภาพควรจะไปช่วยประชาชนแทนที่จะเสียเวลามารับแขก) ยอดๆๆๆๆๆ

อบต. อาจจะช่วยเหลือ อบต.ที่ประสบภัยไม่ได้เหมือนเทศบาลขนาดใหญ่ เพราะว่ามีทรัพยากรน้อยกว่า แต่ก็ยังให้ยืมเครื่องไม้เครื่องมือ หรือเป็นศูนย์กลางรวบรวมความช่วยเหลือจากตำบลนั้นไปยังพื้นที่ประสบภัยได้

เรื่องราวที่รับรู้มา ผมประทับใจภูเก็ตครับ ส่งความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ของมาทางสิบล้อ อาหารมาทางเครื่องบิน ภาคเอกชนก็ช่วยแบบไม่ออกหน้าหลายราย

มาคิดดู อุทกภัยครั้งนี้ ประเทศเสียหายย่อยยับ คนว่างงานจะพุ่งปรี๊ดขึ้นอย่างน้อยก็จนกว่าโรงงานจะฟื้นฟูกลับมาผลิตได้ใหม่ แล้วในช่วงนี้คนงานจะหารายได้อย่างไร เรื่องรายได้นั้นยังไม่สำคัญเท่ากับรายจ่ายหรอกครับ ถ้ารายจ่ายน้อย รายได้น้อยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารายจ่ายเกินตัวเป็นหนี้เป็นสิน แล้วรายได้เกิดขาดหายไป ตายแน่ๆ ปัญหานี้จะลากยาวไปถึงเจ้าหนี้ต่างๆ ด้วย (ถ้าเป็นหนี้นอกระบบ ผมไม่สนหรอกครับ เอาเปรียบกันเกินไป ผิดกฏหมายอยู่แล้ว) การฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหาย จะต้องใช้เงินอีกเยอะ แล้วยิ่งถ้าไม่มีรายได้นี่ จะเหนื่อยเป็นพิเศษ

คนกรุงเทพนั้นเสียหายเยอะ แต่ผู้ประสบภัยไม่ว่าที่ไหนต่างก็เสียหายเยอะเหมือนกันนะครับ โรงงานที่ถูกน้ำท่วมน่าจะเสียหายมากกว่าความเสียหายของบ้านเรือน เมื่อโรงงานเดินไม่ได้ ลูกจ้างก็จะตกงานเป็นจำนวนมาก วันนี้ควรจะดูว่าจะช่วยให้ผู้ประสบภัยจำนวนมากให้พอยืนอยู่ได้อย่างไร

การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ประสบภัยนั้น อยากทำอะไรก็ทำเถิดครับ แต่ผมคิดว่าให้ความรู้ ให้แง่คิด ให้ช่องทางทำมาหากิน ดีกว่าให้เงิน ให้อาหาร ฯลฯ ให้แบบแรกเป็นการสร้างคน ให้แบบหลังเป็นอามิสทานครับ มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ไม่เท่าแบบแรก

การจับคู่ดูแลกัน ทำได้หลายระดับ จะมี match maker หรือไม่ก็แล้วแต่ ยกตัวอย่างนะครับ กรุงเทพมีอาคารสำนักงาน หรืออาคารที่พักอาศัยที่สูงเกินสิบห้าชั้นอยู่หลายร้อยอาคาร หากแต่ละอาคารรวมกลุ่มกันแบ่งเศษเงิน หรือเศษเวลา มาช่วยกันระดมความคิด ระดมทรัพยากร หาทางช่วยอำเภอที่ประสบภัย หนึ่งอาคารหนึ่งอำเภอ (หรือหนึ่งบริษัทจดทะเบียนห้าตำบล หรือแม้ว่าไม่อยากเดินทางไกล ก็เป็นหมู่บ้านที่ปลอดภัยดูแลหมู่บ้านประสบภัยในเขตปริมณฑล) หาช่องทางให้คนพื้นที่ประสบภัย ยืนหยัดขึ้นมาใหม่ให้ได้โดยเร็ว เรื่องรูปแบบเป็นเรื่องเล็กครับ หวังว่าผู้อ่านจะเห็นความเปราะบางจากความสิ้นหวังของคนจำนวนมาก ว่าเป็นภัยคุกคามอันใหญ่ของสังคมของเรา และรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างโดยเร็ว

หากทำได้อย่างนี้ ก็จะเกิดวามเชื่อมโยงแบบใหม่ที่เป็นไปโดยความสมัครใจ ถ้าจะให้ดี ก็ประสานกันหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ซ้ำซ้อนหรือขัดกันเองนะครับ

« « Prev : ซูชิจานเวียน

Next : ความคิดเกี่ยวกับกรณีของหมู่บ้านเมืองเอก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 November 2011 เวลา 5:54

    ยืนยันว่ามีการจับคู่กันมา”ก่อน”ที่จะมีคำสั่งศปภ.

    มูลนิธิจีน(หน้ารร.สามัคคีฯ)กับรร.อาชีวะของชร.ทำอาหารกล่องวันละ 6000 กล่อง ส่งทางแอร์เอเชียให้กับเขตไหนสักเขตนี่แหละค่ะของกทม.มาหลายอาทิตย์แล้ว แม้แต่การขนส่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกหน่วยนะคะ

    วันอาทิตย์ที่ 20 พย.นี้ก็รับอาสาสมัคร 40 คน ไปช่วยแพ็คอาหารกล่องที่มูลนิธิเหมือนกัน โดยมีหน่วยงานอื่นเป็นเจ้าภาพเวียนไปในจังหวัด แม้แต่เรือนจำกลางชร.ก็มีส่วนร่วม วันที่ 28 พย.รู้สึกจะเป็นของสสจ.รพ. ส่วนรพ.ชร.เป็นวันที่ 30 พย.ค่ะ กำลังเตรียมตัวทำน้ำพริกกันอุตลุต

    เห็นด้วยว่าความช่วยเหลือมีหลายระดับ ตั้งแต่ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอันหมายถึงปัจจัยสี่เท่าที่จำเป็นและความปลอดภัยของชีวิต แต่ความช่วยเหลือที่สำคัญกว่าคือความช่วยเหลือที่มี”โอกาส”ให้เขายืนได้ด้วยตนเอง ช่วยๆกันเถอ ะค่ะ ให้เขารู้ว่า รบ.ไม่ได้จำเป็นในทุกเรื่องหรอก มีช่องทางอื่นอีกตั้งเยอะที่ช่วยเหลือและทำได้ดีกว่า ;)

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 November 2011 เวลา 13:08

    ปรบมือให้ ท่านตรี อัครเดชา ท่านผู้ว่าภูเก็ตด้วยคน กำลังความช่วยเหลือของภูเก็ตเหลือหลายและทำได้ดี เห็นข่าววิทยุ ทีวีบอกว่า ส่งข้าวไปให้คลองสามวา วันละ 1-2 หมื่นกล่อง และเป็นอาหารอร่อย ผู้รับติดใจข้าวน้ำพริกภูเก็ต

    ท่านตรี เคยคลุกคลีกับผมบ้างสมัยที่อยู่ที่มุกดาหาร ตอนนั้นท่านตรีเป็นปลัดจังหวัด และเป็นรุ่นน้อง เรามีการกินข้าวกันทุกพุธแรกของเดือนที่ชมรมศิษย์เก่า มช. ยังเสียวว่าท่านจะโดนย้ายจากภูเก็ต ผมไม่ได้ติดตามว่าท่านมีชื่อถูกโยกย้ายหรือเปล่า..

    การจับคู่จังหวัดช่วยเหลือกันนั้นเป็นแนวทางที่ดีครับ น่าจะใช้กับอีกหลายๆกรณีนะครับ เช่น การปลูกต้นไม้ในเมือง เป็นต้น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.31558895111084 sec
Sidebar: 0.1821129322052 sec