สวนกล่อง
มีคนมากมายที่บอกว่าการปลูกต้นไม้ ดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ บางคนก็ว่ากินผักปลอดสารพิษ โดยไม่เข้าใจเลยว่าการที่สินค้าเคลมว่าปลอดสารพิษนั้น ไม่ได้หมายความว่าปลอดสารพิษจริง
อย่างนี้ก็ต้องลองกันครับ ยกเอาข้อจำกัดออกก่อน
นาย Mel Bartholomew เขียนหนังสือขายดีชื่อ Square foot Gardening (อ่านบางส่วนได้ที่นี่) โดยทำแปลงดินขนาด 1×1 ฟุต หลายๆชุด ยกมาใส่ในกล่อง เขาอ้างว่ามีต้นทุน 50% ใช้พื้นที่ 20% ใช้น้ำ 10% และใช้เมล็ดพันธุ์พืชเพียง 5% และใช้แรงงานแค่ 2% ของการปลูกลงดินตามปกติ เหตุที่เป็นเช่นนี้ได้ อยู่บนหลักการง่ายๆ คือสร้างสภาวะแวดล้อมที่ควบคุมได้ เช่นถ้าดินไม่ดี แทนที่จะปรับปรุงดินทั้งแปลง ก็เพียงแต่หาดินที่ดีมาใส่ในกล่อง(พื้นที่เล็กๆ) ถ้าไม่มีน้ำ ก็รดน้ำแค่ในกล่องเล็กๆ น้ำที่รดแล้ว ก็อยู่ในดินซึ่งอยู่ในกล่องนั่นแหละ จะประหยัดน้ำ ก็ใช้ชลประทานน้ำหยดได้ง่ายเนื่องจากอยู่ในพื้นที่จำกัด ฯลฯ
สวนกล่องเป็นความพยายามที่จะปลูกพืชในแนวตั้ง เนื่องจากกล่องบรรจุดินอยู่แล้ว ไม่ต้องวางอยู่กับดิน จะแขวน จะห้อย จะวางอยู่กับคอนกรีตก็ได้
« « Prev : อากาศพลศาสตร์แบบชาวบ้าน สำหรับรถกระบะ
Next : การล่มสลายของประชาธิปไตย » »
9 ความคิดเห็น
จะมีสวนอย่างนี้ ก็ควรรู้จักนิสัยของพืชด้วยซินะ
ผมเคยทำบนดาดฟ้า(กรณีตั้งบนคอนกรีต) แล้วพบว่ามันไม่เหมาะกับการปลูกที่ระบบรากลึกเช่น มะเขือเทศ
เช่นเดียวกับสวนกระสอบของโสทร ก็ไม่ใช่ว่าต้นไม้ทุกชนิดจะเหมาะกับกระสอบ หรือภาชนะใดๆ นะครับ
ทานตะวัน ผมหยอดไว้เม็ดหนึ่งติดถนนคอนกรีตเลย ดันขึ้นมาได้อีก ดอกโตสัก 8-9 นิ้วคงได้… ว่าจะรอจนดอกเหี่ยวแล้วเก็บเมล็ดไว้แจกผู้คน พอมีพลุ คนแห่มาดูกันแน่นขนัด ปรากฏว่ามีมือดีตัดไปทั้งดอกเลย ติดเมล็ดแล้วแต่ยังไม่แก่พอเก็บ… ผมก็ชวนหลานปลูกเพราะมันขึ้นง่ายมาก แต่คนเมืองนะครับ ทำอะไรก็ไม่เป็น หลานปลูกแน่นขนัด ดูแล้วเหมือนพยายามปลูกถั่วงอก ผมย้ายไปลงดินเป็นกลุ่มๆ โดยไม่ถอนออกเลย ก็โตขึ้นมาได้นะครับ แต่ไม่โตเท่าต้นแรกที่ปลูกเดี่ยว
ชมจันทร์หยอดเมล็ดลงดินเลย อยู่ดีๆ ก็ขึ้นมา ทั้งที่เมล็ดแข็งเหมือนถั่ว ส่วนเมล็ดที่แช่น้ำจนบวมเป่งกลับไม่ขึ้น สงสัยจมน้ำตาย
ถ้ามีโครงยึดจะกลายเป็นสวนแนวตั้งในหลายรูปแบบได้ใช่มั้ยคะ อย่างทำซัก 4 ชั้นเวลาให้น้ำก็ได้ไม่สูญเปล่ามาก ส่วนเรื่องแดดทำให้ชั้นเหลื่อมกันคงดีกว่า
แหมคนเก่งงานช่างคงมีเรื่องให้เล่นเยอะเลยค่ะ
หลายปีก่อน ไปนอนที่โรงแรมภูคำ เชียงใหม่ ขณะขึ้นลิฟท์ มีคนขึ้นไปพร้อมๆกันด้วยสามสี่คน สอบถามว่ามาจากไหน บอกมาจากกรุงเทพฯ เขาบ่นว่า ไม่ไหวชีวิตในกล่อง เช้าออกจากบ้านแต่เช้า เย็นค่ำมืดก็กลับบ้าน แล้วก็ซุกหัวแต่ในห้องสี่เหลี่ยม ทำเช่นนี้เป็นวัน เดือน ปี หลายๆปี ทนไม่ไหว พอมีเวลบาหยุดยาวสักสามวันก็ออกต่างจังหวัดหมด ไปสูดอากาศต่างจังหวัดบ้าง เขาบอกว่าบางทีไม่ณุ้เป้าหมายแต่ขอให้ออกไปจากกรุงเทพฯก่อน แล้วตัดสินใจในรถกัน…..น่าสงสารจริงๆ
การมีสวนกล่อง ปลูกผักในถุง อะไรเหล่านี้น่าจะช่วยสุขภาพจิตคนกรุงได้บ้างนะครับ
บางทีคนเราก็ไม่มีอิสระที่จะทำอย่างที่อยากทำ แต่หลายครั้งเลยที่น่าเศร้ากว่า เพราะไม่รู้ว่าอยากทำอะไร หรือควรจะทำอะไรนะครับ ชีวิตดำเนินต่อไป อาหารใส่ปากท้องเป็นต้นทุนชีวิตที่กลับไม่ค่อยนึกถึงกัน
สวนกล่องมีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือสามารถแยกไม่ให้วัชพืชมารบกวนพืชสวนครัวได้ ไม่ต้องสร้างด้วยไม้ จะให้วัสดุที่เหมาะสมอะไรที่หาในท้องถิ่น ก็ทำได้ครับ ดินปั้น อิฐ ผ้า กระสอบ ฯลฯ
เหมาะสมจริง สำหรับวัดยางทอง เพราะมีพื้นที่น้อย อยู่กลางเมือง แต่น้ำอุดมสมบูรณ์…. และตอนนี้ ก็มีโครงการเพิ่มบาดาลหรือจุดพักน้ำในวัดอีกจุดเพื่อสะดวกยิ่งขึ้น….
เจริญพร
ทุกวันนี้ก็กำลังทดลองทำลักษณะนี้แหละ
ได้ผลยังไงจะทยอยบอกเล่า
การปลูกพืชใต้ร่มไม้ใหญ่ ถ้าไม่แบ่งสัดส่วนให้พืชเล็กอยู่ได้โดยรากพืชต้นใหญ่ไม่รังแก
ก็จะอยู่ร่วมกันได้ แต่พืชรากติื้นบางชนิดก็อยู่ได้ตามลักษณะเฉพาะทางธรรมชาติ