เที่ยวงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2554
อ่าน: 3835เมื่อคืน ระหว่างพายุเข้ารัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลีย กับมีการประท้วง+ปะทะในอียิปต์ ผมก็นั่งคิดอยู่ว่าจะไปเที่ยวงานเกษตรแฟร์หรืองานวันนักประดิษฐ์ดี ในที่สุดก็เลือกเอางานหลังเพราะว่างานจะจบก่อนงานเกษตรแฟร์สองวัน
งานอย่างนี้ สนุกตรงที่ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเด็กและอาจารย์ครับ เราน่ะคิดไม่เหมือนเขาหรอก (หรือเขาคิดไม่เหมือนเราหว่า)
ผมชอบงานประดิษฐ์แบบที่ชาวบ้านทำเองได้ ไม่ต้องลงทุนมาก ประสิทธิภาพไม่สูงสุดก็ยังไม่เป็นไรตราบใดที่ทำเองได้ไม่เหลือวิสัย ถ้าชาวบ้านทำเองแล้วได้ประสิทธิภาพสูง ก็ยิ่งดีครับ
งานประดิษฐ์กลับมุ่งไปสู่การผลิตแบบอุตสาหกรรม ประสิทธิภาพสูง ลงทุนสูง แต่อยู่เกินเอื้อมของชาวบ้าน มีจำนวนคนที่ได้ประโยชน์น้อยกว่า
เดินอยู่ในงานสักสองชั่วโมงครับ เดินหากล้องดูดาวทำเองจากท่อพีวีซีก่อนเลย แต่ไม่เห็น… แหงล่ะครับ เค้าแถลงข่าวรับสมัครเปิดเป็นค่ายนี่ ไม่รู้จักอ่านข่าวให้ดี
น่าเสียดายที่เรื่องพลังงานธรรมชาติ ไปใช้โซล่าร์เซลกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ความร้อนจากแสงอาทิตย์ น่าสนใจกว่าเยอะครับ แล้วก็ไม่ค่อยมีงานประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำอยู่สักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยทีเดียว
Next : เที่ยวงานเกษตรแฟร์ 2554 » »
9 ความคิดเห็น
เท่าที่ผมไปมาหลายงาน ประดิษฐ์กันพอใช้ได้ เป็นชาวบ้านก็พอให้อภัยที่อุตส่าห์พยายาม แต่มีอาจารย์มหาลัยมาออกบู้ทก็ไม่น้อย แต่ไม่ต่างจากชาวบ้านสักเท่าไร ตรงที่สักแต่ว่าทำ พอถามว่าแล้วมันมีประสิทธิภาพเท่าไร ก็ตอบไม่ได้
เรื่องทำ ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยยากครับ แต่ทำให้ดียากมากกว่าร้อยเท่า (ผมเน้นว่าส่วนใหญ่นะครับ ส่วนน้อยประมาณ 0.01 % แค่คิดก็ยากแล้ว)
ครั้งหนึ่งผมไปเจอนักประดิษฐ์ทำกังหันลม จากลมเสียที่ระบายอากาศออกมาจากเล้าไก่ เขาอ้างว่าลมมันทิ้งไปเสียๆ ก็เลยเอามาหมุนกังหันผลิตไฟฟ้าเอาไปใช้ในเล้าไก่ …ปรากฎว่าสิ่งประดิษฐ์นี้ฟันรางวัลมาเพียบแล้วในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค
..แล้วเอามาประกวดในระดับชาติ ผมในฐานะกรรมการเลยถามว่า ถ้าอย่างนั้น ลมเสียจากกังหันลมของคุณก็เอาไปหมุนกังหันลมตัวต่อไป แล้วต่อไปเรื่อย ๆ ..ดังน้นลมเสียเริ่มต้น 1 หน่วยคุณสามารถผลิตไฟฟ้าออกมาได้ ล้านหน่วย ถ้าคุณเอากังหันลมมาต่อกันล้านต้วใช่ไหม …เขางง กรรมการคนอื่นก็งง ..
ยังมีอีกเยอะมาก ที่ผมไปเจอมาทำนองนี้ บอกเท่าไรก็ไม่ฟัง ในที่สุดผมทนไม่ไหว ต้องบอกว่า
…ถ้าคุณทำได้จริงๆ ดังว่า เตรียมรับรางวัลโนเบลได้เลยครับ เพราะพลังงานออกมันมากกว่าพลังงานเข้า
..พลังงานที่เสื่อมไปแล้วก็เอากลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ นอกเสียจากคุณเอาพลังงานตัวอื่น “แอบ” ใส่เข้าไป โดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งที่แอบใส่เข้าไปนั้นมันมากกว่าสิ่งที่ได้ออกมาเสียอีก
ผมเดินผ่านคูหาของสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รางวัลมาเลยนะครับ มันลึกและแคบ ทำให้เกิดประโยชน์ในวงแคบๆ ที่ไม่มีชาวบ้านอยู่ในวงนั้น
ที่ว่าลึกและแคบนั้น ผมเดาได้เลยว่า เอามวยคนละรุ่นมาต่อยกันอยู่นั่นแหละ
ศ. รศ. ผศ.ดร. ทำงานนาโน ก็เอามาแข่งกับ นายสี นายสา แบบไม่แบ่งรุ่น อยู่นั่นแหละ
มิใย ผมเห่าคอแห้งมามากแล้วเรื่องนี้ ว่าให้แบ่งรุ่น … ในที่ประชุมใส่สูตรัดคอติ้ว แต่ก็ไม่เป็นผลสักที …คงหาว่าเราแบ่งชนชั้น เป็นพวกศักดินา
เห่าทำบุญจนเหนื่อย และถูกเกลียดมามากแล้ว ชาติหน้าขอพระเจ้าได้ประทานพรให้ลูกได้เกิดเป็นคนด้วยเถิด เจ้าประคู้น
น่าสนใจทั้ง 2 งานครับ
ประเทศนี้ให้ความสำคัญงานประดิษฐ์ /วิจัย ต่างๆแบบดื้อตาใส
ไม่เข้าใจ ไม่จริงใจ ทำไงดีละครับ
คนไทยระดับชาวบ้านจึงจะกลับมาเป็นนักวิจัยไทบ้านเช่นในอดีต
ที่เรามีกูรูหลายด้าน ที่เป็นรากฐานของชาติตนเอง อิ
เช่น สมมุติหยิบเรื่องโลกร้อนซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งท้าทายอุบัติใหม่มา ก็อาจจะตั้งโจทย์ท้าทาย เช่นการทำให้ฝนตกที่ต้นน้ำและรักษาน้ำไว้ที่นั่นให้มากที่สุด เพื่อให้ทะยอยปล่อยลงมา ให้โจทย์ต้องใช้หลากหลายวิทยาการ (จนทำคนเดียวไม่ไหว แก้ไขเรื่องแคบและลึกแต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก) ให้เกิดการรวมตัวประสานกันทำงานใหญ่ เกิดความไว้ใจกันบ้าง เสนอ proposal เข้ามารับทุนไปทำขั้นต่อไป
การวิจัยแบบรู้เรื่องคนเดียวนั้น คนอื่นไม่ได้ประโยชน์นะครับ เงินทุนวิจัยก็มาจากคนอื่นที่ไม่ได้ประโยชน์นั่นแหละ
เรื่องน้ำเป็นจุดตามของเมืองไทย และประเทศอื่นๆ ถ้าไม่มีน้ำ เราก็ผลิตอาหารไม่ได้ แต่เราไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากเท่าที่ควรจะเป็น พอไม่มีน้ำ การที่จะเป็นครัวของโลก ก็เป็นเรื่องตลกนะครับ
ไม่ว่ามีเงินเท่าไหร ถ้าไม่มีน้ำ ไม่มีอาหารให้ซื้อ เงินจะมีความหมายอะไร… เมื่อไหร่จะเก็ตกันก็ไม่รู้
กล้องดูดาวทำเองจากท่อพีวีซี นี่ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีมีครับผม อาจารย์ที่สอนฟิกส์ ม6 อ่ะครับ ผมจำชื่ออาจาย์ไม่ได้แล้ว แต่จำหน้าท่านได้
จุดเด่นใส่ชุดหม้อห้อม อ่ะครับ มีเป็นร้อยอ่ะครับ กล้องดูดาวจากพีวีซี เคยไปดูดาวกับแกที่อ่างทองด้วยครับ
ขอตอบเพิ่มนะครับพอดีอยากคุยถึงอาจารย์ทคนนี้อ่ะครับ ผมชอบแกมาก แกสอนวิชาฟิกส์ครับ ทุกอย่างที่แกสอน แกจะประดิษฐ์อุปกรณ์ขึ้นมาเองครับ และให้นักเรียนอธิบายให้ได้ว่ามันมีการทำงานอย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ถ้าไม่ได้ก็ให้ไปหาคำตอบมา พอจบชั่วโมงแกก็จะสรุปให้ฟัง
เป็นช่วงเวลาที่ผมู้สึกว่าเรียนฟิสิกส์รู้เรื่องมากที่สุดเลยอ่ะครับ (ม4-5 ไม่รู้เรื่องเลยเพราะครูคนล่ะคนกัน ได้แต่จำๆไปทำ)
แล้วแกจะมีลักษระเด่นคือจะใส่เสื้อม้อห่อมสอนครับผม(กางเกงสแล็คดำขายาว) ดูเป็นกันเองดีครับ และจะจัดดูดาวปีล่ะ สองครั้งคือที่โรงเรียนครั้งหนึ่ง(ให้นักเรียนที่ค้างคืนได้จนถึงเช้ามานั่งดูดาวกัน)และอีกครั้งจะไปดูดาวที่ต่างจังหวัดโดยห้องที่แกเป็นครูประจำชั้นจะได้ไป(ดูแลง่าย)ไปนอนอยู่ที่วัด
ไปเปิดค่ายวิทยาศาสตร์สอนนักเรียนประถมในวัดแล้วก็ดูดาวตอนกลางคืนด้วย สนุกมากๆครับ ชีวิตเด็กมอปลาย