จบไปอีกเรื่องหนึ่ง
อ่าน: 4080เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมจัด business matchmaking ให้ธุรกิจของรุ่นน้องสองคน ธุรกิจของทั้งคู่นั้นไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างมีความถนัดและจุดแข็งซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งยังเก่งไม่เท่า ก็เลยจัดให้เจอกัน ให้ได้คุยกันเองโดยผมนั่งฟังเฉยๆ น่าจะเป็นการจับคู่ธุรกิจที่เหมาะสมดีครับ
ผมไม่ประสงค์จะออกชื่อทั้งสองฝ่าย แต่ทั้งคู่มีตัวตนจริงแน่ครับ
การจับคู่แบบนี้ เป็นการสร้างโอกาสให้กับทั้งคู่ แม้เราจะไม่มีส่วนได้เสียอะไร (รู้จักทั้งคู่นะครับ ไม่อย่างนั้นจะจับคู่ให้ได้อย่างไร) ไม่สำคัญว่าใครดีกว่าใคร ใครได้มากกว่าใคร แล้วไม่แปลกว่าในอนาคตเขาจะยังมองเห็นเราหรือไม่ แต่การที่มีธุรกิจที่เข้มแข็งขึ้นในเมืองไทย ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วครับ
ก่อนที่จะจับคู่ เราก็ต้องประเมินทั้งสองฝ่ายก่อนเหมือนกันว่าเหมาะกันดี แต่ท้ายที่สุดแล้วต่างฝ่ายต่างต้องตัดสินใจเองครับ ผมเป็นพ่อสื่อ ก็ควรรู้ตัวว่าเป็นเพียงพ่อสื่อเท่านั้น
งานนี้เสร็จไป ส่วนจะสำเร็จหรือไม่-เขาจะตกร่องปล่องชิ้นกันหรือไม่ ต้องแล้วแต่ทั้งคู่ตัดสินใจเอง
ผ่านวันเสาร์-อาทิตย์ไป วันนี้วันจันทร์ มีการพบกันในระดับเจ้าของกิจการ ถ้าหากว่าเกิดความร่วมมือกันได้จริง จะเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่ถึงแม้ไม่เกิดอย่างที่น่าจะเป็น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เสียอะไรเลยนะครับ โอกาสใหม่ผ่านเข้ามา ถ้าไม่รู้ว่าเป็นโอกาส ไม่กล้าแม้แต่จะลองคุย ก็น่าเสียดาย
Next : ขอเบาๆ ทยอยปล่อยออกมาเถอะ » »
3 ความคิดเห็น
เป็น “พ่อสื่อ” อย่างนี้ดีจังค่ะ
หากมี “พ่อสื่อ” เยอะ ๆ ประเทศไทยคงเจริญขึ้นอีกหลายเท่า
กรณีการมีเว็บเช่น ลานปัญญา โกทูโนว์ หรืออีกหลาย ๆ เว็บ ก็ถือเป็น “พ่อสื่อ” ได้เหมือนกันเลย
กระบวนการนี้ไม่เหนื่อยหรอกครับ เพียงแต่เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราไปตามปกติ เมื่อเรียนรู้ (ซึ่งไม่เหมือนกับรับรู้) ก็มักจะเห็นตามความเป็นจริง ทั้งจุดดีและจุดที่ยังต้องปรับปรุง คู่ไหน-กลุ่มไหนต่อจิ๊กซอว์ลงล็อค ก็จัดให้พูดคุยกัน เราไปแนะนำแต่ละฝ่ายให้ อาจจะนั่งอยู่ด้วยสักพักก็ได้ เมื่อหายขัดเขิน แล้วต่างฝ่ายต่างเริ่มมองเห็นศักยภาพของอีกฝ่ายหนึ่ง เราก็ถอยออกมาได้
เคยเป็นกรรมการ Thailand ICT Awards (TICTA) ครับ กลุ่มผมมีเจ็ดบริษัท ผ่านการคัดเลือกมาสี่บริษัท จับได้สองคู่ ซึ่งคู่หนึ่งเขาจับกันเองซึ่งตรงกับที่เราคิด ว่าแล้วก็อิอิ
รูปจิ๊กซอร์ คนออกแบบดี