เผลอไป
อ่าน: 2852ผมมีหลานสี่คน วันนี้เจ้าตัวเล็กอายุครบเก้าขวบ
มาคิดดู ตอนป่วยหนักนั้น หลานคนนี้กำลังจะคลอด คลอดออกมาหลังผมออกจาก รพ.ได้อาทิตย์เดียว เรียกได้ว่าอายุเท่ากัน ผมใช้การพัฒนาของหลาน เทียบกับการฟื้นตัวของร่างกายตัวเอง แน่ล่ะมันไม่เหมือนกันหรอก แต่จะเทียบซะอย่าง มีอะไรมั๊ย
มาคิดดู ชีวิตก็แค่นี้เอง จะอะไรกันนักหนา… สักวันเราก็จะจากไป จากนั้นไม่นานผู้คนก็จะลืมเลือน เขาจะอยู่กันต่อไปได้ตามสภาพของเขา
เคยเสียภาษีปีละ (เยอะมาก มากกว่ารายได้ทั้งปีของคนมากมาย) เวลาป่วยไข้ เงินช่วยไม่ได้… เคยมั่นใจว่ามีความรู้ มีกำลัง เวลาจะจากไป ไม่เห็นช่วยอะไรได้เลย… เคยมีลูกน้องหลายร้อย มีเพื่อนฝูงมากมาย ช่วยคนไว้ก็เยอะ แต่เวลาจะตาย รอบตัวมีเพียงพ่อแม่กับเพื่อนไม่กี่คน…
เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยดึงดันจะเอาดั่งใจ ก่อนป่วยก็คิดว่าไม่ได้มีอาการเอาแต่ใจตัวมากนักหรอกนะครับ แต่ลดลงอีกหลังป่วยแน่นอน… ฉุกคิดได้ว่าทำไมเราจึงมีสิทธิ์เหนือคนอื่น หรือความคิดเราถูกต้องกว่าความคิดของคนอื่นๆ เรารู้ดีแค่ไหน เคยมองจากมุมที่แตกต่างหรือไม่ เข้าใจข้อจำกัดหรือไม่ จะเอาแต่ผลโดยไม่ดูเหตุ จะสมเหตุผลได้อย่างไร แล้วทำไมมุมมองของเราจึงดีที่สุดในเมื่อไม่มีข้อพิสูจน์อะไรเลย มันก็แค่ความคิดเท่านั้นเอง… ความเป็นผู้สูงส่งนั้น น่าจะเป็นคนอื่นตระหนักได้เอง+ยกย่องโดยไม่ต้องป่าวประกาศคุณความดีของตัวเอง ไม่ใช่โดยการยกตัวเองหรือกดคนอื่น
เวลาให้อะไรใคร หรือทำอะไรให้ใคร ไม่ค่อยได้สนใจแล้วว่าเขาจะชื่นชมหรือไม่ เพียงแต่คิดดีที่สุด ทำดีที่สุดตามความสามารถและข้อจำกัด เกินกว่านั้นก็ไม่ไหวแล้ว ถ้าคนอื่นไม่เห็น มันคงยังไม่ดีพอสำหรับเขา หรือไม่มีผลแรงพอสำหรับเขา เมื่อคิดได้อย่างนี้ ก็ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น…
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า เมื่อให้หรือทำอะไรให้ใครไปแล้ว มันก็ไม่ควรจะเป็นของเราอีกต่อไป… ถ้ายังคิดว่าเขาจะต้องขอบคุณ ชื่นชม ป้อยอ หรือประจบเลียจนเปียก บางทีเรายังยึดว่านั่นยังเป็นของเราอยู่ จึงต้องการการตอบแทน กล่าวคือเราไม่ได้ให้อะไรใครไปเลยนะครับ และเราไม่ได้บริสุทธิ์ใจอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่เขียนมานี้ ไม่ต้องเชื่อหรอกครับ ลองคิดดูก็แล้วกัน
๏ พฤษภกาสร……………………….อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง…………………….สำคัญหมายในกายมี
๏ นรชาติวางวาย……………………มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี………………………ประดับไว้ในโลกา
๏ความดีก็ปรากฏ……………………….กิติยศฤาชา
ความชั่วก็นินทา…………………….ทุรยศยินขจร
จาก กฤษณาสอนน้อง ของ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
« « Prev : มีวิธีเป่าเทียนที่ดีกว่านี้ไหม?
2 ความคิดเห็น
-เป็นหลานคนเล็กนี่เองเลยโดนลุงหลอกบ่อยๆ…อิอิ เขาน่ารักมากนะคะวัยกำลังสดใส
-พูดถึงเรื่องชีวิต มาคิดดูก็แค่นี้เองจริงๆค่ะ จากการป่วยเมื่อต้นเดือนมกราฯที่ผ่านมา ทำให้ป้าจุ๋มต้องหยุดคิดและเบรคตัวเองพอสมควรทีเดียวค่ะ…ว่าที่ผ่านมาอาจดำเนินชีวิตประมาทไปพอสมควรทีเดียวค่ะ ความที่คิดว่าเป็นคนสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว แต่พอมาติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างแรง เป็นแบบเฉียบพลันก็แทบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน และได้สัมผัสรสชาดว่าชีวิตนี่ไม่แน่หรอกค่ะ จะมีพรุ่งนี้หรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ได้ รู้แต่ว่าทุกคนต้องไป…ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ
-ช่วงนี้ก็มานั่งทบทวนว่ามีอะไรที่ควรทำก็รีบทำค่ะ…เริ่มจากตอบแทนบุญคุณผู้คิดว่ามีพระคุณแม้กระทั่งลูกน้องเก่าที่ดีและซื่อสัตย์กับเรา ก็ถือว่ามีบุญคุณหมดค่ะ และพยายามทำบุญช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเราค่ะ ทำตามกำลังโดยที่ไม่เบียดเบียนตัวเองค่ะ ที่สำคัญที่สุดก็คือพยายามดูแลคนใกล้ตัวนี่แหละค่ะ…
-สำหรับคุณLogosตอนนี้ป้าจุ๋มดูว่าปกติมากค่ะ ถ้าไม่เล่าให้ฟังก็จะไม่ทราบเลยคะว่าเคยป่วยขนาดแทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (แอบดูตอนขุดดินถมถนนที่สวนป่า…อิอิ ขุดแข่งกับน้องอาราม โอ้โห!!! สูสีๆๆๆๆๆนะคะ…อิอิ)