นอนไม่พอ
อ่าน: 3302การนอนไม่พอ คือการนอนน้อยกว่าเวลาเวลาที่ร่างกายต้องการ ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จนไม่พร้อมที่จะปฏิบัติงานในระดับที่เคยทำได้ อาจอยู่ในรูปง่วงหงาวหาวนอน หลับใน สลึมสลือ การตัดสินใจไม่ดี/ไม่ฉับไว
แต่ละคนต้องการเวลานอนไม่เท่ากัน คำแนะนำว่าแต่ละคืนควรจะนอน 8 ชั่วโมง ก็เป็นคำแนะนำกลางๆ ซึ่งแต่ละคนคงจะใช้เวลานอนไม่เท่ากัน ขึ้นกับ metabolism และพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน แต่สำหรับผม 8 ชั่วโมงกำลังดี
สำหรับผู้ที่ขับรถ ความปลอดภัยของผู้โดยสารสำคัญที่สุด มีบทเรียนที่เรียนรู้มาจากทริปสวนป่า และทริปน่านครั้งนี้ คือคนขับควรจะเป็นคนบอกว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้ เมื่อร่างกายไปไม่ไหว อย่าฝืน มันไม่เกี่ยวกับนัดหมายอะไรไว้ หรือพระอาทิตย์จะตก ถ้าไปไม่ถึงที่หมาย สิ่งที่คิดว่าเป็นเหตุผลที่ดีนั้นกลับไม่ใช่ประเด็นเลย
เมื่อไม่ไหว อย่าฝืนครับ ถ้าจะต้องพักก็พัก ถ้าไปไม่ไหวอย่าไป บางทีอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นโดยคนอื่น ถ้าสภาพของคนขับไม่พร้อม อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ทีนี้ถ้าแนะนำให้นอน 8 ชั่วโมง แต่ได้นอนไปเพียง 4 ชั่วโมง การนอนเพื่มสองชั่วโมงอีกสองครั้ง ไม่ได้แปลว่าจะพอ!
Dr Murray Johns แห่งโรงพยาบาลเอ็บเวิร์ธในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ได้นำเสนอดัชนีความง่วง วัดอาการนอนไม่พอ เรียกว่า Epworth Sleepiness Scale โดยขอให้ตอบคำถามง่ายๆ ถึงโอกาสที่จะง่วง
- 0 = no chance of dozing
- 1 = slight chance of dozing
- 2 = moderate chance of dozing
- 3 = high chance of dozing
Situation | Chance Of Dozing |
---|---|
Sitting and reading | |
Watching TV | |
Sitting inactive in a public place (e.g. a theater or a meeting) | |
As a passenger in a car for an hour without a break | |
Lying down to rest in the afternoon when circumstances permit | |
Sitting and talking to someone | |
Sitting quietly after a lunch without alcohol | |
In a car, while stopped for a few minutes in traffic |
ถ้าได้ค่ารวม 0-9 อาจเรียกได้ว่าปกติ แต่ถ้าเกินจากนั้น แสดงว่านอนไม่พอ/อาจมีปัญหาเรื่องการนอน
« « Prev : ใจง่าย
Next : เมืองน่าน » »
6 ความคิดเห็น
เฮ้อ..พลัง turbo boost นี่อยู่ได้นานจัง..
รำพึงเฉยๆ เหมือนกัน..^^
ช่ายยยยแล้ว เวลานั่งรถ คนขับรถคือเจ้าชีวิตเลยแหละ เจ้านายก็เจ้านายเหอะ ชิดซ้ายไปเลย
พลังคนขับรถคนนี้มีจำกัดหนา ผ่อนคลายให้ร่างกายพักซะบ้างเน้อ ใจสู้ก็จริงแต่ระวังกายไว้หน่อยก็ดี
ก็ใจ-กายมันคนละส่วนกัน แม้ว่ามันจะเกี่ยวกัน พิจารณาดีๆเด้อ
ส่วนมากผมจะเดินทางกับคนข้างกาย
เธอจะขับกลางวัน ผมเหมากลางคืน
หากคืนไหนออกอาการ ก็หยุดล้างหน้าตา กาแฟ
บางครั้งก็ M 150 หากไม่ไหว หาปั้มน้ำมันนอนเลย..
ส่วนมากก็เตรียมตัวก่อนเดินทางเรื่องการพักผ่อนเต็มที่แหละครับดีที่สุด..
แต่ case กรุงเทพฯ-พิดโลก-น่าน-พิดโลก-กำแพงเพชร-กทม ในเวลา 3วันนี่ หนักเอาการนะ เพราะเมื่อไปถึงก็ไม่ได้พัก ถึงที่ไหนก็ไม่ได้งีบมีโปรแกรมตลอด ก็ต้อง โดป หน่อย..
ชาติตระการ-ผาซ่อนแก้ว-(พักเพชรบูรณ์)-โคราช-(พักเขาใหญ่)-กรุงเทพ
กรุงเทพ-(พักเขาใหญ่หรือแวะหาอาจารย์หลินฮุ่ย)-พิมาย-(พักชุมพวง)-สตึก
ถ้าลงใต้ นอนหัวหินก่อนคืนหนึ่ง (พักชุมพร)-(พักสุราษฎร์)-…
รถผมมีอัตราความสิ้นเปลือง 5.6l/100km (18.18 กม/ลิตร ใช้ความเร็วประมาณ 90-110 ตามสภาพถนนและการจราจร) ถ้าไม่เร่งร้อน ขับไปพัทยาได้ 4.8l/100km ปล่อยไหลไปเรื่อยๆ
อย.ควบคุมปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่ม “ชูกำลัง” M-100 กับ M-150 จึงมีปริมาณคาเฟอีกเท่าๆกัน แต่มีความเข้มข้นไม่เท่ากันเนื่องจากปริมาณน้ำเชื่อมไม่เท่ากัน แบบเจือจางน่าจะดีกว่านะครับ
สำหรับผม 8 ชั่วโมงกำลังดี..อืม ^ ^